Cartier เปิดตัวนิทรรศการ Nature Sauvage ณ อาคาร Former Command House
Author: Kantinan Srisan | Photographer: Courtesy of Cartier
Apr 24, 2025
"...Cartier จัดงานแสดงเครื่องประดับของแบรนด์ที่สิงคโปร์ เอาใจสาวกผู้หลงใหลในจิวเวลลี่ชั้นสูง ผ่านงาน “Nature Sauvage” ที่สะท้อนจิตวิญญาณอันเปี่ยมพลังของเหล่าสรรพสัตว์ผู้ทรงเสน่ห์ที่โลดแล่นท่ามกลางธรรมชาติและพรมแดนแห่งจินตนาการ..."
โดยนิทรรศการครั้งสำคัญนี้จัดขึ้นที่ Former Command House สถานที่อันแฝงไว้ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ พร้อมสอดรับกับวาระครบรอบ 30 ปีของการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ในประเทศนี้อีกด้วย
การจัดแสดงครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 219 ตารางเมตร โดยออกแบบให้ผู้เข้าชมได้ดำดิ่งสู่หกจักรวาลแห่งการตีความความงามระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และความเชี่ยวชาญทางงานจิวเวลรีระดับสูงอย่างแท้จริง ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การถ่ายทอดจิตวิญญาณผ่านหัตถศิลป์อันประณีต ไม่ว่าจะเป็นการตีความผ่านวัฒนธรรมเปอรานากันของสิงคโปร์ ไปจนถึงห้องเวิร์กช็อปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Art of Threading’ ซึ่งนำโดย Michel Aliaga ร่วมกับศิลปินท้องถิ่น เพื่อย้ำคุณค่าร่วมกันของความหลากหลายทางวัฒนธรรม มรดก และความประณีตแห่งงานฝีมือ
หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของการจัดแสดง คือสร้อยคอ Alaxoa ที่ใช้เวลารังสรรค์นานกว่า 2,600 ชั่วโมง ด้วยมรกตกว่า 400 เม็ด เพื่อเชิดชูความประณีตของหัตถศิลป์และการสืบสานมรดกอย่างลึกซึ้ง ภายในแต่ละห้องจัดแสดงยังมีการออกแบบที่บรรจงอย่างวิจิตร ไม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจจากสายลมริมชายฝั่งในห้อง Thrill with the Wind หรือการสะท้อนรูปลักษณ์ทางเรขาคณิตของธรรมชาติในห้อง Treasures of Land ซึ่งล้วนถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านเลนส์ของ Cartier ได้อย่างน่าทึ่ง
ขณะเดียวกัน ห้อง Shapes of Water ก็พาผู้ชมออกเดินทางผ่านการตีความอันอ่อนช้อยของพลังแห่งสายน้ำ ขณะที่ห้อง Tradition และ Fine Watchmaking ต่างร่วมสะท้อนจิตวิญญาณของคาร์เทียร์ในการเชิดชูมรดก งานฝีมือ และกาลเวลาอย่างสมบูรณ์แบบ ปิดท้ายด้วยห้อง Special Order และ Private Viewing Rooms ที่เปิดพื้นที่แห่งจินตนาการให้แขกผู้เข้าร่วมได้ใกล้ชิดกับความงามของงานจิวเวลรีในมิติใหม่
นอกจากนี้ นิทรรศการสุดพิเศษในครั้งนี้ยังได้ร่วมมือกับศิลปินท้องถิ่นชื่อดังมากหน้า ไม่ว่าจะเป็น Mike Tay จาก Onlewo, Hazlee Suip จาก Rooma ไปจนถึงสองพี่น้องจาก Maneknya เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ด้วยผลงานศิลป์ร่วมสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของสิงคโปร์ บทสรุปแห่ง Nature Sauvage ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเฉลิมฉลองเครื่องประดับชั้นสูงของแบรนด์ แต่เป็นกวีแห่งความหลากหลายและจินตนาการที่ร้อยเรียงด้วยความสง่างามอย่างไร้ที่ติ
อ่านบทความเพิ่มเติม: งานสร้างสรรค์บทใหม่ในโลกเครื่องประดับชั้นสูงจาก Louis Vuitton ที่หลอมรวมประวัติศาสตร์เข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างน่าค้นหา
