งานสร้างสรรค์บทใหม่ในโลกเครื่องประดับชั้นสูงจาก Louis Vuitton ที่หลอมรวมประวัติศาสตร์เข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างน่าค้นหา
Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of Loius Vuitton and Press
Mar 27, 2025
"...เปิดบทใหม่แห่งการรังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูง "Awakened Minds, Awakened Hands" จาก Louis Vuitton ผลงานที่ต่อยอดมาจากงานออกแบบซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา หลอมรวมศิลปะงานช่างฝีมือชั้นเลิศเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัย ถ่ายทอดผ่านคอลเลคชั่นเครื่องประดับที่มีรูปแบบกราฟิกอันซับซ้อนทว่าดูสง่างามทุกรายละเอียด เพื่อเป็นเกียรติแก่ฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 โดยนำเสนอแนวคิดที่ก้าวล้ำในช่วงเวลานั้น ผ่านการรังสรรค์เครื่องประดับภายใต้ธีมที่แตกต่างกัน 7 ธีมด้วย 50 ผลงานออกแบบที่ชวนหลงใหล.."
ความโดดเด่นในคอลเลคชั่นนี้คือการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตองด้วยตัวเรือนที่มีความปราดเปรียวและทันสมัยด้วยวัสดุอันล้ำค่า เสริมด้วยอัญมณีสีสวยเปล่งประกายที่ได้รับการเจียระไนอย่างพิถีพิถัน ยกระดับงานช่างฝีมือให้แปรเปลี่ยนเป็นท่วงทำนองอันน่าดึงดูด ด้วยงานดีไซน์ที่มีความเชื่อมโยงและไหลลื่นเป็นหนึ่งเดียวกัน

The Victoire
ภายใต้วิสัยทัศน์ของ Francesca Amfitheatrof แต่ละชิ้นงานสะท้อนพลังแห่งช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการค้นพบ ยุคสมัยที่ช่างฝีมือได้ผลักดันและก้าวข้ามขอบเขตทางศิลปะด้วยการสำรวจวัสดุใหม่ๆ และยกระดับงานช่างของพวกเขาให้ก้าวล้ำไปสู่อีกระดับอย่างกล้าหาญ การออกแบบของเธอได้สื่อถึงจิตวิญญาณของศิลปินผู้บุกเบิกชาวฝรั่งเศสเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ความกล้าหาญในการสร้างเส้นทางรถไฟขนาดใหญ่และสถาปัตยกรรมอันมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Grand Palais และ Eiffel Tower จากสถาปัตยกรรมอันงดงามที่ก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งทางจินตนาการและวิศวกรรมได้ถูกถ่ายทอดผ่านงานออกแบบสร้อยคอ Victoire โดดเด่นด้วยตัวเรือนทองคำรูปทรงกราฟิกแบบโปร่งสะท้อนความงามทางสถาปัตยกรรมของหอไอเฟล ประดับด้วยเพชรและและเพชรสีเหลืองในลวดลายกราฟิก ในขณะที่ใจกลางสร้อยนั้นประดับด้วยเพชร LV Monogram Star cut เพชรที่เจียระไนในรูปแบบเฉพาะของหลุยส์ วิตตองในขนาด 3.08 กะรัต

The Vision
เครื่องประดับในธีม Vision ได้นำเสนอสร้อยคอโช้คเกอร์เลเยอร์ซ้อนกันหลายชั้นที่สวยสะดุดตาซึ่งเป็นงานดีไซน์ที่ให้เกียรติแก่ยุค Age of Steam ที่นำมาซึ่งการใช้ยวดยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไอน้ำ ส่วนกลางสร้อยถอดแบบมาจากดีไซน์ของรางรถไฟที่มีเพชรเจียระไนรูปทรงบาเกตต์ขนาบข้างด้วยแถบสร้อยตัวอักษร 'V' ร้อยเรียงกันซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ ขับเน้นด้วยแซปไฟร์สีเหลืองที่เจียระไนเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมน้ำหนัก 50.01 กะรัตจากศรีลังกา และเพชร LV Monogram Star cut ขนาด 3.07 กะรัต ยกระดับให้สร้อยเส้นนี้สง่างามอย่างไร้ที่ติ
The Phénoménal
ในขณะที่ธีม Phénoménal ได้รับแรงบันดาลใจจากการทอผ้าในโรงงานอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตของปารีสในช่วงศตวรรษที่ 19 รวมถึงลวดลายเชือกที่มักจะเห็นในงานออกแบบเครื่องเคลือบ และฟาซาดเหล็กที่ประดับอาคาร ถ่ายทอดสู่ตัวเรือนสร้อยที่ผสมผสานรูปทรงของเชือกเข้ากับรูปทรงข้าวหลามตัดอย่างลงตัวรังสรรค์ด้วยทองประดับด้วยเพชร LV Monogram Star cut และมรกตโคลอมเบียขนาด 7.44 กะรัตที่โดดเด่นที่ใจกลาง ในธีมนี้ยังนำเสนอแคปซูลสำหรับสุภาพบุรุษไม่ว่าจะเป็นเข็มทิศ นาฬิกาพก และเข็มกลัด ที่ได้แนวคิดมาจากผู้ทรงอิทธิพลในยุคสมัยนั้น

The Gravité
สำหรับคอลเลคชั่น Gravité ได้รับแรงบันดาลใจจากการทดลองของ Léon Foucault ในการพิสูจน์การหมุนของโลก การทดลองด้วยเพนดูลัมถูกต่อยอดมารังสรรค์เป็นจิวเวลรี่ในตัวเรือนรังสรรค์ด้วยไวท์โกลด์ประดับเพชร และแซปไฟร์จากแคชเมียร์ ในรูปแบบของสร้อยคอ กำไล และแหวนที่เปล่งประกายด้วยพลังที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่วนงานดีไซน์ชิ้นเด่นที่มีความล้ำสมัยในรูปแบบที่ชวนค้นหาคือเครื่องประดับผม Elegance ที่มาพร้อมคุณสมบัติน้ำหนักเบา สง่างามด้วยรูปทรงหมู่ดาวเพชรที่ประดับร้อยเรียงกันบนหน้าผาก ถ่ายทอดความละเอียดอ่อนของหญิงสาวชาวฝรั่งเศสผ่านการออกแบบตัวเรือนไวท์โกลด์แบบโปร่ง ขณะเดียวกันในธีม Elegance นำเสนอสร้อยข้อมือที่เปลี่ยนรูปแบบการใส่ได้อย่างสวยงาม

The Splendeur
ปิดท้ายด้วยจิวเวลรี่ในธีม Splendeur ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ แหวน และต่างหูที่ล้วนเป็นผลงานที่อุทิศให้งานฝีมือชั้นสูงของจักรวรรดิฝรั่งเศส ชิ้นงานเหล่านี้ผสมผสานทับทิมและเพชรที่สร้างสรรค์เป็นลวดลายดอกไม้ Monogram ที่เปี่ยมเสน่ห์น่าดึงดูดใจ ศิลป์อัญมณีชั้นสูงจากหลุยส์ วิตตองได้หลอมรวมศิลปะแห่งงานช่างฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัย ยืนหยัดในฐานะแห่งความหรูหราและนวัตกรรมในวงการแฟชั่นอย่างแท้จริง
อ่านบทความเพิ่มเติม: Aesop เปิดตัว Aurner Eau de Parfum น้ำหอมกลิ่นฟลอรัลมิติใหม่พร้อมเครื่องประดับดีไซน์พิเศษร่วมกับ Patchravipa