Logo Hashtag Legend

Watches and Wonders 2025: IWC Schaffhausen เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ที่หลอมรวมนวัตกรรมแห่งเวลาเข้ากับดีไซน์สุดคลาสสิก

Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of IWC Schaffhausens

Apr 01, 2025

"...IWC Schaffhausen เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในงาน Watches and Wonders 2025 ที่หลอมรวมนวัตกรรมล้ำสมัย งานฝีมืออันพิถีพิถัน และจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิก ผ่านศิลป์แห่งเวลารุ่นใหม่ที่มาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในโลกแห่งการสร้างสรรค์ของ IWC ได้อย่างลงตัว..."

The Big Pilot’s Watch Shock Absorber Tourbillon Skeleton XPL

IWC นำเสนอเรือนเวลา Big Pilot’s Watch Shock Absorber Tourbillon Skeleton XPL ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและศิลป์การผลิตนาฬิกาคุณภาพสูง รุ่นนี้นับเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้ระบบกันกระแทก SPRIN-g PROTECT® ซึ่งได้รับสิทธิบัตรพิเศษจาก IWC โดยเฉพาะ ส่วนประกอบนี้ทำหน้าที่ปกป้องฟลายอิ้งทูร์บิญองขนาดเล็กที่อาจได้รับการกระทบกระเทือนจากแรง g ที่มีค่าสูงได้

หน้าปัดนาฬิกาสง่างามด้วยกลไกสเกเลตันที่มองทะลุปรุโปร่งและมีน้ำหนักเบา โดยทูร์บิญองแสดงอย่างโดดเด่นในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ตัวเรือนและหมุดทำจาก Ceratanium® ที่มีความทนทานคล้ายไทเทเนียม พร้อมคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วนเช่นเดียวกับเซรามิก หน้าปัดเคร่งขรึมด้วยสเกเลตันสีดำพร้อมเข็มนาฬิกา จับคู่กับสายนาฬิกายางสีดำปั๊มลายหมุด Ceratanium® ใจกลางเรือนเวลารุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก IWC-manufactured 82915 ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อนาที (4 Hz) โดยมีพลังงานสำรอง 80 ชั่วโมง ทนต่อการกระแทกที่แรงต้านเกิน 10,000 g ได้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนเท่านั้น งานดีไซน์ที่สะท้อนความหรูหราที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ น่าจะเป็นหนึ่งเรือนซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มนักสะสมนาฬิกาอย่างแน่นอน

The Pilot’s Watch Chronograph APXGP

Pilot’s Watch Chronograph APXGP นำเสนอในตัวเรือนสองขนาดคือ 43 และ 41 มม. ในตัวเรือนสแตนเลสสตีล Pilot’s Watch Chronograph 41 ทั้งสองรุ่นออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อทีม “APXGP” ทีมแข่งรถจากภาพยนตร์ "F1® THE MOVIE" โดยมีดีไซน์ที่โดดเด่นในโทนสีดำ, ทอง และขาว 

 ตัวเรือนทำจากสแตนเลสสตีลและมีหน้าปัดสีดำพร้อมตัวเลขอารบิกสีขาวและดัชนีนาทีสีทอง เข็มชั่วโมงและนาทีรวมถึงเข็มบนหน้าปัดย่อยเคลือบด้วยทองและสาร Super-LumiNova® สีขาว ฝาหลังแซปไฟร์มาพร้อมคุณสมบัติตัดแสงพร้อมโลโก้ทีม “APXGP” สีทอง และสามารถกันน้ำลึกได้ถึง 10 บาร์ จับคู่เข้ากับสายยางสีดำที่มีระบบ EasX-CHANGE® ของ IWC ทำให้สามารถเปลี่ยนสายได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ภายในนาฬิกาทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไก 69385 ที่ผลิตโดย IWC ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพและความแม่นยำ สามารถจับเวลาได้มากถึง 12 ชั่วโมง แสดงการจับเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีในหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 และ 12 นาฬิกา โดยหน้าปัดเรียงกันในแนวตั้งช่วยให้อ่านค่าได้อย่างง่ายดาย การจ่ายพลังงานแบบสองทิศทางของกลไกช่วยสร้างพลังงานสำรองได้ถึง 46 ชั่วโมง

นาฬิกา Pilot’s Watch Performance Chronograph 41 (Ref. IW388309) สะท้อนถึงความหรูหราด้วยตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต 5N ที่เปล่งประกาย พร้อมฝาหลังทำจากแซปไฟร์และหน้าปัดสีดำเคลือบเงา จับคู่อย่างลงตัวเข้ากับขอบเซรามิกสีดำที่มีสเกลทาคีมิเตอร์ โดยเรือนนี้จะถูกสวมใส่โดยตัวละคร Joshua Pearce ที่รับบทโดย Damson Idris

ตัวเรือน ปุ่มกด และเม็ดมะยมทำจากทองคำ 18 กะรัต 5N พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุที่ชุบด้วยทอง และเข็มที่เคลือบด้วย Super-LumiNova®  หน้าปัดสีดำเคลือบเงานี้ผลิตขึ้นโดยผ่านกระบวนการวิศวกรรมที่ซับซ้อน ดัชนีบอกเวลาในตำแหน่ง 3, 6 และ 9 นาฬิกาที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีต นอกจากนี้ นาฬิกายังมาพร้อมกับสายยางสีดำที่มีระบบเปลี่ยนสาย EasX-CHANGE®ล้ำสมัยของ IWC เพิ่มทั้งความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นให้กับนาฬิกาโครโนกราฟเรือนนี้

ภาพยนตร์เรื่อง"F1® THE MOVIE" กำกับโดย โจเซฟ โคซินสกี้ เป็นการร่วมมือกันของผู้ผลิตหลายคนและมีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์และ IMAX ในวันที่ 27 มิถุนายน 2025 โดยจะเริ่มฉายทั่วโลกในวันที่ 25 มิถุนายน 2025

 The Pilot’s Watch Performance Chronograph Perpetual Calendar (Ref. IW388801)

ในปี 2023 IWC Schaffhausen ได้เปิดตัวนาฬิกา the Pilot’s Watch Performance Chronograph 41 เป็นครั้งแรก และในปีนี้ได้เผยโฉม Pilot’s Watch Performance Chronograph Perpetual Calendar (Ref. IW388801) นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นแรกที่มีปฏิทินถาวรและขอบตัวเรือนทำจากเซรามิกซึ่งมีสเกลทาคีมิเตอร์ไว้สำหรับอ่านค่าความเร็ว หน้าปัดและขอบตัวเรือนสีดำสุดเคร่งขรึมทำจาก Ceratanium® วัสดุที่มีน้ำหนักเบาและทนต่อรอยขีดข่วนที่รวมความแข็งแรงของไทเทเนียมเข้ากับคุณสมบัติของเซรามิก ขอบเซรามิกสีดำได้รับการขัดเงามาพร้อมสเกลสำหรับอ่านค่าความเร็วเฉลี่ยในระยะทางต่อกิโลเมตร

ขณะที่หน้าปัดสีดำที่มีลวดลายแบบแฮมเมอร์รวมถึงดิสก์สำหรับแสดงวันที่และเดือน สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาพกในประวัติศาสตร์ของ IWC ที่ชื่อว่า Pallweber ปฏิทินถาวรใช้ดิสก์สีทองขนาดใหญ่สำหรับแสดงวันที่และเดือนในรูปแบบตัวเลขดิจิตอล ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยกลไกที่ซับซ้อนที่สามารถแสดงค่าเดือนที่ต่างกันของและปีอธิกสุรทินได้อย่างแม่นยำ

ขับเคลื่อนด้วยกลไก 89802 ที่ผลิตโดย IWC ซึ่งประกอบไปด้วยชิ้นส่วน 474 ชิ้น พร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟ และพลังงานสำรอง 68 ชั่วโมง กลไกที่ซับซ้อนนี้สามารถมองเห็นได้ผ่านฝาสีดำที่ทำจากคริสตัลแซปไฟร์ กลไกมีสะพานจักรสีดำและโรเตอร์แบบโปร่งใส

The Ingenieur Automatic 40 (Ref. IW328908) 

นาฬิกา Ingenieur Automatic 40 สง่างามด้วยหน้าปัดสีเขียวสดใส รุ่นพิเศษนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่สวมโดย Sonny Hayes ตัวละครที่รับบทโดยแบรด พิตต์ ในภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอย "F1® THE MOVIE" Sonny Hayes คือนักแข่งรถผู้มีประสบการณ์ที่จะทำให้ผู้ชมตื่นเต้นไปในทุกการแข่งขัน โดยเขาสวม Ingenieur SL Reference 1832 ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษโดยมีหน้าปัดสีเขียวที่สะดุดตา และยังสะท้อนสไตล์เฉพาะตัวของเขา

Ingenieur Automatic 40 (รุ่น IW328908) ไม่ได้เป็นเพียงแค่นาฬิกาข้อมือแต่ยังเป็นงานศิลป์อันยอดเยี่ยม ตัวเรือนทำจากสแตนเลสสตีลพร้อมสายเชื่อมกับตัวเรือนที่ออกแบบมาเพื่อความสบายสูงสุด หน้าปัดสีเขียวแบบตารางประดับด้วยองค์ประกอบที่ชุบด้วยทองคำสะท้อนสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sonny เข็มนาฬิกาและเครื่องหมายบอกเวลาเคลือบด้วย Super-LumiNova® ทำให้มองเห็นได้แม้ในสภาวะแสงน้อย ขอบตัวเรือนที่มีเอกลักษณ์ด้วยการตกแต่งสกรูห้าตัวแสดงถึงความมุ่งมั่นของ IWC ที่มีต่อนวัตกรรมและความแม่นยำ

ขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ผลิตโดย IWC รุ่น 32111 ซึ่งมีพลังสำรองที่น่าอัศจรรย์ถึง 120 ชั่วโมงและกันน้ำได้ 10 บาร์ นอกจากนี้ยังมีเคสภายในทำจากเหล็กอ่อนที่สามารถปกป้องกลไกจากสนามแม่เหล็ก สอดคล้องกับมรดกของ Ingenieur ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมขั้นสูง ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือนเท่านั้น

The Ingenieur Automatic 35 

นาฬิกา Ingenieur Automatic 35 เปิดตัวในเวอร์ชั่นใหม่ด้วยขนาด 35 มิลลิเมตร ด้วยสามดีไซน์ใหม่ที่สง่างามในรูปแบบแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นในรุ่นทอง 18-carat 5N โดดเด่นด้วยหน้าปัดลายตารางสีทอง ขณะที่อีกสองรุ่นรังสรรค์จากสตีล จับคู่กับหน้าปัดลายตารางสีดำหรือลายตาราวสีเงิน

Ingenieur Automatic 35 ยังคงเอกลักษณ์ของต้นฉบับ Ingenieur รุ่นดั้งเดิมเอาไว้ รวมถึงขอบตัวเรือนพร้อมสกรูที่ใช้งานได้จริงทั้งหมด 5 ตัวและหน้าปัดในรูปแบบตาราง “Grid” หน้าปัดวันที่ซึ่งได้รับการดีไซน์อย่างพิถีพิถันมาพร้อมดัชนีบอกเวลา อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ด้วยขนาดที่กะทัดรัด โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มม., ความหนา 9.44 มม.

นาฬิกาทั้งสามรุ่นได้รับการตกแต่งอย่างประณีตด้วยการผสมผสานการขัดตัวเรือนแบบซาตินและเคลือบเงา โดยหน้าปัดมีลักษณะเฉพาะที่เป็นรูปแบบ “Grid” ที่รังสรรค์ด้วยมือโดยช่างผู้ชำนาญการ ในรุ่นที่ทำจากทอง 18 กะรัตนั้นดูหรูหราด้วยหน้าปัดลายตารางพร้อมดัชนีบอกชั่วโมงจากทองคำและเข็มนาฬิกาเคลือบทอง ในขณะที่รุ่นสแตนเลสสตีลจะจับคู่หน้าปัดลายตารางพร้อมดัชนีบอกชั่วโมงจากสแตนเลสสตีลและเข็มนาฬิกาเคลือบโรเดียม

แต่ละรุ่นมาพร้อมกระจกแซปไฟร์ที่ด้านหลังซึ่งเผยให้เห็นกลไก 47110 ที่ทำงานแบบอัตโนมัติและสำรองพลังงานนาน 42 ชั่วโมง กลไกนี้ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยการขัดพื้นผิวแบบวงกลมและเส้น  Stripe Geneva

The Ingenieur Automatic 40

สำหรับรุ่น Ingenieur Automatic 40  นำเสนอในตัวเรือนและสายที่ทำจากทองคำ 18 carat-5N มาพร้อมกับหน้าปัดสีดำที่มีลาย “Grid” อันเป็นเอกลักษณ์ การออกแบบสำหรับรุ่นนี้สะท้อนถึงสุนทรียศาสตร์ของ Ingenieur SL โดย Gérald Genta งานดีไซน์ที่ถือกำเนิดในช่วงปี 1970 ขณะเดียวกันได้เพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ด้วยขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตร และสายที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนที่มอบสัมผัสอันยอดเยี่ยม

ดัชนีบอกชั่วโมงรังสรรค์จากทอง 5N พร้อมเข็มที่เคลือบด้วย Super-LumiNova® เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการตกแต่งที่ละเอียดลออ โดยตัวเรือนและสายผสมผสานระหว่างพื้นผิวด้านและพื้นผิวเงา ขับเคลื่อนด้วยกลไก IWC-manufactured 32111 ที่มีสำรองพลังงาน 120 ชั่วโมง ซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังที่ทำจากคริสตัลแซปไฟร์ ในรุ่นนี้เน้นความหรูหราและงานฝีมือที่ยอดเยี่ยมด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและฟังก์ชั่นการทำงานอันยอดเยี่ยม

The Ingenieur Automatic 42

สำหรับรุ่น Ingenieur Automatic 42 เปิดตัวในวัสดุเซรามิกสีดำที่ตัวเรือนและสายได้ออกแบบให้เชื่อมโยงกัน เป็นครั้งแรกที่ใช้วัสดุเซรามิกทั้งหมดทั้งตัวเรือนและสาย โดยผสมผสานพื้นผิวที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการขัดเงา การพ่นทราย  วัสดุเซรามิกมีความทนทาน น้ำหนักเบา และไม่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับใช้ในนาฬิกาข้อมือ โดย IWC เคยใช้วัสดุเซรามิกออกไซด์สีดำเรือนแรกในปี 1986 

นาฬิกา Ingenieur Automatic 42 (Ref. IW338903) รังสรรค์ตัวเรือน ขอบตัวเรือน และฝาหลังจากเซรามิกออกไซด์สีดำ พร้อมส่วนประกอบทั้งหมดออกแบบมาให้ความรู้สึกสบายในการสวมใส่ หน้าปัดสีดำโดดเด่นด้วยลวดลาย "Grid" ที่เป็นเอกลักษณ์ เข็มนาฬิกาและดัชนีบอกเวลาต่างๆเคลือบด้วยสาร  Super-LumiNova® การออกแบบตัวเรือนเซรามิกยังคงรักษาสัดส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ingenieur เอาไว้ขณะเดียวกันก็ยังมาพร้อมคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงและกันน้ำได้ถึง 10 บาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างเซรามิกและส่วนประกอบไทเทเนียม

ขับเคลื่อนโดยกลไก IWC-manufactured 82110 ซึ่งมองเห็นได้ผ่านด้านหลังตัวเรือนที่ใช้กระจกแซปไฟร์เคลือบสี สำรองพลังงานได้นาน 60 ชั่วโมง

อ่านบทความเพิ่มเติม: IWC Schaffhausen เปิดตัวนาฬิกาโครโนกราฟสองรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ร่วมกับ Mercedes-AMG และทีมแข่งขัน Mercedes-AMG PETRONAS Formula One™

RECOMMENDED READS