สัมภาษณ์พิเศษกับ Martin Ku บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความทรงพลังแห่งเสียงจาก Devialet
Author: Kantinan Srisan | Photographer: Somkiat Kangsdalwirun
Oct 09, 2024
“...นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญของแวดวงเครื่องเสียง เมื่อ Devialet แบรนด์เครื่องเสียงสุดเอ๊กซ์คลูซีฟจากประเทศฝรั่งเศสได้ตัดสินใจเปิดตัวบูติคสาขาแรกในประเทศไทย ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา…”
นอกเหนือไปจากการถ่ายทอดความเหนือระดับแห่งคุณภาพเสียง ณ ห้องฟังเพลงสุดพิเศษอย่าง ‘Listening Room’ ที่ถือเป็นหนึ่งไฮไลท์สำคัญของบูติคแห่งนี้ พื้นที่พิเศษที่อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมงานได้ยลโฉมถึงความทรงพลังแห่งเสียงจาก Devialet ภายในงานยังดีเจสาวมากฝีมืออย่าง DJ Iris มาร่วมโชว์ศักยภาพของลำโพงให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส
แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นไม่ใช่อื่นใด หากแต่เป็นสัมภาษณ์พิเศษที่ทาง #Legend_th ได้รับเกียรติร่วมพูดคุยกับ Martin Ku ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิกของแบรนด์ และในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรับชมกับแนวคิด มุมมองที่มีต่อเรื่องราวของเครื่องเสียง และก้าวต่อไปที่ทางแบรนด์หมายมั่นไว้สำหรับประเทศไทย
#legend_th: เป็นที่รู้กันดีว่าทุกผลงานการออกแบบจาก Devialet มักจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนรักเสียงเพลงได้อย่างยอดเยี่ยม พอจะแชร์ได้หรือไม่ว่าอะไรคือเคล็ดลับเบื้องหลังความสำเร็จนี้?
MK: แน่นอนครับ สำหรับผม ผมคิดว่ามันคือการที่เราตั้งใจและมุ่งมั่นไปยังเป้าหมายเดียว ซึ่งก็คือการรังสรรค์เสียงที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถที่จะเข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของบ้านหรือพื้นที่ได้อย่างลงตัว และด้วยเหตุนี้ ทำให้เราเลือกที่จะใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย พร้อมให้ความสำคัญกับดีไซน์อย่างยิ่งยวด เพื่อการตอบโจทย์ต่อความหลากหลายของสภาพพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีสิทธิบัตรอีกกว่า 200 ฉบับในการสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์นี้ขึ้นมา แม้ว่าเรื่องราวของเทคโนโลยีอาจดูซับซ้อน แต่เราได้ถ่ายทอดมันออกมาอย่างเรียบง่าย ซึ่งเมื่อหลายๆ คนมาทดสอบต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะเป็นบทเพลงที่พวกเขาเคยฟังมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เมื่อรับฟังผ่านงานออกแบบของ Devialet มักสื่อสารถึงชุดเสียงที่พวกเขาไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อ่น ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่เราเลือกที่จะนำเอาเอกลักษณ์ของความเป็นเทคโนโลยีอะนาล็อกและดิจิทัลมาผสมผสานกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม
#legend_th: ทุกการออกแบบจาก Devialet มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจที่โดดเด่น ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ในมุมมองของ Devialet การออกแบบช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้ได้อย่างไร?
MK: หนึ่งในแง่มุมสำคัญคือการออกแบบที่มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพเสียงอย่างมาก แม้ว่าเราจะนำองค์ประกอบการออกแบบของฝรั่งเศสมาใช้เพื่อความสวยงาม แต่รูปร่างส่วนใหญ่กลับมุ่งเน้นที่การเพิ่มคุณภาพเสียงเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ลำโพงของเราออกแบบให้เป็นทรงกลม ในขณะที่ลำโพงส่วนใหญ่จะมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม เราจึงเลือกใช้การออกแบบทรงกลมเพราะเมื่อเสียงถูกปล่อยออกมา มันจะแพร่กระจายเป็นวงกลม สร้างการกระจายเสียงแบบ 360 องศา การออกแบบนี้ช่วยลดการรบกวนและการบล็อกเสียง ทำให้เสียงที่ได้ยินยังคงบริสุทธิ์มากที่สุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการออกแบบของเรา
#legend_th: มุมมองของแบรนด์เกี่ยวกับแนวโน้มการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการพัฒนาคุณภาพเสียงเป็นอย่างไร?
MK: ฟีเจอร์นี้กำลังถูกนำมาผนวกใช้ในลำโพงหลายๆ รุ่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และกำลังกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทวีความน่าสนใจในแง่มุมของการออกแบบ สำหรับ Devialet เราใช้มันเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีที่สุดในทุกสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ลำโพงของเราจะทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผนัง หรือผู้คน และมันจะปรับเสียงให้เหมาะสมที่สุดตามตำแหน่งที่ผู้ใช้งานยืนอยู่ แม้คุณจะวางลำโพงติดกับผนัง ตัวเครื่องเสียงก็จะสะท้อนเสียงกลับเพื่อให้ประสาทสัมผัสทั้งทางหูซ้ายและหูขวาได้รับเสียงที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ลำโพงจะคำนวณสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ นี่คือหนึ่งในวิธีที่ปัญญาประดิษฐ์กำลังขับเคลื่อนอนาคตของเสียง และผมเชื่อว่ามันจะกลายเป็นเทรนด์หลักในเวลาอันใกล้นี้ และเร็วยิ่งกว่าที่เราคาดคิด
#legend_th: งั้นแปลว่าคุณคิดว่ามันเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว?
MK: แน่นอนครับ แม้แต่กับหูฟังของเรา มันก็จะทำการคำนวณหลายพันครั้งในทุกวินาทีเพื่อวิเคราะห์ว่าเสียงเข้ามาในหูของผู้ฟังจะเป็นอย่างไร เนื่องจากทุกคนมีรูปร่างของหูที่แตกต่างกัน เสียงจึงถูกรับรู้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เราพัฒนามันอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับเสียงให้เข้ากับรูปร่างเฉพาะของแต่ละคน
#legend_th: ในฐานะที่เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของลำโพง Phantom I พอจะบอกได้หรือไม่ว่าอะไรคือองค์ประกอบที่น่าสนใจหรือความพิเศษที่ทำให้ลำโพงตัวนี้แตกต่างกว่าคู่แข่งในตลาด?
MK: ผมรู้ว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันโดยส่วนมากคือคุณภาพของเสียง แต่ความแตกต่างที่แท้จริงของโมเดลนี้คือกลไกที่เรียกว่า ADH หรือ Analog Digital Hybrid เทคโนโลยีนี้ทำให้ลำโพงของเรามีขนาดเล็กมากเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบปฏิบัติการอื่นๆ ในขณะเดียวกันยังคงอัดแน่นไปด้วยเสียงมากคุณภาพ ด้วยระบบนี้ ทำให้ลำโพงของเราสามารถผลิตเสียงที่ดังและมีความชัดเจนได้อย่างแท้จริง โดยไม่มีการบิดเบือนหรือเสียงรบกวนจากบรรยากาศรอบข้างและมีความคมชัดเจนในระดับเสียงสูงสุด นอกจากนี้ เรายังมีเทคโนโลยีขั้นสูงอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า SAM ที่ย่อมาจาก Speaker Active Matching ระบบนี้ทำการคำนวณตามพื้นที่เพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตเสียงตรงตามสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ ที่ซึ่งเรามีการออกแบบที่จดสิทธิบัตรประมาณ 200 รายการที่ถูกรวมเข้าไว้ในระบบนี้
#legend_th: กลับมาที่เรื่องของธุรกิจกันบ้าง ในฐานะที่ทางแบรนด์ตัดสินใจที่จะเข้าสู่ตลาดเครื่องเสียงในไทยอย่างเต็มตัว พอจะแชร์ได้หรือไม่ถึงกลยุทธ์ที่ทาง Devialet วางแผนจะนำมาใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย?
MK: ในทางหนึ่ง เรามีกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกันในหลายประเทศ แต่เราเองก็ยังมองถึงภาพรวมในระดับสากลด้วยเช่นกัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า DNA ของแบรนด์ยังคงสอดคล้องกันไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หรือภูมิภาคไหน อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคิดค้นกลยุทธ์ในระดับท้องถิ่นด้วย โดยพิจารณาจากวัฒนธรรม พื้นที่ และกระแสนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละตลาด เรานำแนวทางนี้ไปสร้าง collaboration ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกับแบรนด์, KOLs, หรือผู้มีอิทธิพลต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความเหมาะสมกับ Devialet และสอดคล้องกับการโน้มน้าวพฤติกรรมการบริโภคของท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทย เรามีคอนเทนต์ออนไลน์ที่มีเนื้อหาพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับตลาดผู้บริโภคไทย เรายังทำงานร่วมกับเหล่า KOLs ด้วยเช่นกันเพื่อเร่งสร้างการรับรู้ของแบรนด์ นอกจากนี้ เรายังเปิดรับสำหรับโปรเจคที่จะได้ร่วมมือกับเหล่าดีไซเนอร์ท้องถิ่นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ
แม้ว่าในขณะนี้เราจะยังไม่มีโปรเจคร่วมกับแบรนด์อื่นๆ แต่ก่อนหน้านี้เราได้ทำโครงการพิเศษร่วมกับแบรนด์อสังหาริมทรัพย์จากเจ้าของโดยตรง พร้อมไปกับแบรนด์รถยนต์ที่เมื่อไม่นานมานี้เรามีโปรเจคร่วมกับค่ายรถของ Maserati และ BYD โดยเฉพาะกับแบรนด์ใหม่ของพวกเขาอย่าง Denza ที่ซึ่งลำโพงภายในเป็นผลผลิตของ Devialet
#legend_th: ท้ายที่สุดนี้ สำหรับแบรนด์เครื่องเสียงระดับคุณภาพจากฝรั่งเศส มีอะไรความท้าทายในการทำธุรกิจสำหรับพฤติกรรมการบริโภคในประเทศไทยบ้างหรือไม่?
MK: ผมคิดว่าหลักๆ มันเป็นเรื่องของการหาพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นนะครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในสายตาเรา เพราะทางแบรนด์เองไม่ได้มีสำนักงานในประเทศไทยและไม่ได้เป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นที่นี่ การพึ่งพาพาร์ทเนอร์จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพื่อพาเราไปยังสถานที่ที่เหมาะสมต่อ position ของแบรนด์ บางครั้งเรามีไอเดียมีสิ่งที่อยากทำและคิดว่าน่าสนใจ แต่ในฐานะของแบรนด์ต่างแดนที่มาประกอบธุรกิจในไทยทำให้เราอาจไม่ได้เข้าใจถึงวิธีการหรือรูปแบบในการสร้างสรรค์มันออกมาอย่างเต็มร้อย ทำให้การมีพันธมิตรหรือพาร์ทเนอร์ที่พึ่งพาได้และเข้าใจใน DNA ของแบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเรา
อ่านบทความเพิ่มเติม: สัมภาษณ์พิเศษกับ William Lim ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Gaysorn Amarin
