Cover Story: ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก และเรื่องราวการเดินทางของการแสดง ความรัก และความสำเร็จ
Author: Phuriwat Hirunrangsee and Kantinan Srisan | Photographer: Somkiat Kangsdalwirun
Apr 01, 2025
"...ฝีมือการแสดงของใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ นั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้ชม ไม่ว่าบทบาทจะท้าทายแค่ไหน เธอคนนี้สามารถเข้าถึงอารมณ์ของทุกตัวละครเพื่อถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างสมจริง ซึ่งต้องอาศัยการทำงานกับตัวละครและผู้กำกับให้เข้าใจบทที่เธอได้รับทั้งเรื่องของการพูดและการเคลื่อนไหว..."
“อย่างแรกเลยเราทําการบ้านกับตัวละครเราก่อน เฟิร์นรู้สึกว่าการที่จะถ่ายทอดตัวละครได้ดีเราต้องรู้ทุกอย่างว่าตัวละครตัวนี้เขาคิดกับสิ่งนี้ยังไง มองโลกแบบไหน เรารู้ว่าถ้าเป็นเราจะรีแอคกับเสียงดังแบบร้องหู้ย แต่บางตัวละครเขารีแอคแบบอัตโนมัติมันจะไม่เป็นแบบที่เราร้องด้วยซ้ำ คือเราทำให้ตัวเองคิดแบบตัวละครนั้น มองโลกแบบเขาไปเลย ในการทํางานกับผู้กํากับแต่ละคนเฟิร์นว่าเราต้องทำความรู้จักเขาด้วย โชคดีที่ผู้กํากับหลายๆท่านเราร่วมงานกันประจําจนค่อนข้างสนิท เฟิร์นจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร ทิศทางเขาชอบแบบไหน แล้วก็จะคุยกันเลยตรงๆว่าเรื่องนี้อยากเล่นชัดไปเลยหรือว่าเอาเล่นน้อยดี ซีนนี้เราจะเล่นเฉลยคนดูเลยไหม เราคุยกันขนาดนี้ คือมันก็จะช่วยกันทั้งฐานะนักแสดงและในการดีไซน์แต่ละซีนด้วยค่ะ...การแสดงในบทที่ยากขึ้นหรือมีมุมมองที่ต่างกัน เฟิร์นว่ามันเหมือนการขยายลิ้นชักความรู้ของเรานะคะ จากเป็นคนแบบนี้เราเข้าใจเรื่องทุกข์เรื่องสุขแค่นี้ วันนี้เราไปเรียนรู้กับตัวละครมันจะมีลิ้นชักอีกหลายอันมากให้เราเข้าใจว่าอ๋อ ทุกข์ที่ลึกเข้าไปอีกเป็นแบบนี้ ทุกข์เรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ หรือแม้กระทั่งเรื่องเงินทองชื่อเสียง มันก็จะมีลิ้นชักความทุกข์ที่เพิ่มมากขึ้น หรือลิ้นชักความสุขที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าเกิดเปรียบกับความเข้าใจตัวเองก็จะเหมือนเราเข้าใจประเภทบุคคลมากขึ้นอย่างนั้นค่ะ”
บทบาทล่าสุดที่เธอได้รับจากซีรีส์‘ทิชา’ ทำให้ทุกคนยอมรับเธอในฐานะนักแสดงมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ใบเฟิร์นกล่าวว่าการเป็นนักแสดงคืออาชีพที่เธอรักและคาดหวังจะทำมันไปจนสุดทาง
“เฟิร์นรักอาชีพนักแสดงค่ะ ในอนาคตเราก็คงทํางานตรงนี้แหละ เพราะมันคืองานที่เรารักมากๆ คงทํางานด้วยความตั้งใจ ความเคารพคนดูซึ่งเป็นพื้นฐานของนักแสดง ทุกงานทุกชิ้นงานไม่ว่าจะดังไม่ดัง เพราะเฟิร์นรู้สึกว่าทํามันด้วยความตั้งใจด้วยความเคารพคนที่ใช้เวลามาดูสิ่งนี้เรียนรู้ไปกับตัวละครเราและคิดว่าอนาคตก็จะเป็นแบบนี้แหละค่ะ...เอาจริงๆมันเกินฝันไปเยอะมาก ตอนเด็กไปแคสติ้งกว่าจะได้งาน ฝันไว้แค่ว่าได้เล่นละครสักเรื่องหนึ่ง วันนี้พอได้รางวัลแล้วก็เป็นของต่างประเทศด้วยดีใจมากค่ะ ได้ไปอยู่ตรงนั้นมันเป็นความภูมิใจ ขอบคุณตัวเองที่ไม่ย่อท้อและตั้งใจทําทุกชิ้นงานออกมาแล้วก็มีวันได้ไปยืนตรงนั้น ขอบคุณคนรอบตัวเราที่สนับสนุนเราทุกอย่างทั้งด้านการเรียน การแสดง คนจัดคิว ผู้จัดการ เพื่อนฝูงทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเราแล้วพาเราไปอยู่จุดที่มันเกินฝันค่ะ
ในฐานะนักแสดงที่ประสบความสำเร็จเธอได้กลายเป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันจะเดินตามรอยบนเส้นทางอาชีพเช่นเดียวกับเธอ ซึ่งเธออยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง
“เฟิร์นเชื่อว่าทุกคนที่อยากทํางานตรงนี้หรือว่าอยากเป็นใครสักคน เขาจะเป็นตัวเองได้ดีกว่าเป็นใบเฟิร์นแน่นอน การชอบงานคล้ายๆที่เฟิร์นทำอยู่เป็นเรื่องที่โอเคมาก แต่ว่าสุดท้ายแล้วทําในแบบเขา เป็นตัวเองในแบบเขามันจะดีที่สุด เขาจะมีความสุขแล้วก็ดีกว่าการเป็นใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เราไม่ต้องเป็นเหมือนใครเลย ถ้าเป็นตัวเขาแล้วทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ แล้วว่าชอบอะไร รักอะไร ก็ทํามันอย่างเต็มที่และภูมิใจกับมัน เขาจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงในอีกชื่อหนึ่งที่มีเด็กๆ อีกหลายคนอยากเป็นเหมือนเขา แล้วเขาก็จะบอกต่อในสิ่งเดียวกันนี้ว่าเป็นตัวเองแล้วจะดีกว่าเป็นเหมือนตัวเขาอีก”
อีกหนึ่งมิติของชีวิตที่มีคนจับตามองดาราสาวคนนี้อยู่ไม่น้อยคือเรื่องราวความรัก ใบเฟิร์นได้แชร์มุมมองที่เธอมีต่อความรักทั้งในมุมของการรักตัวเองรวมถึงความรักแบบคู่รักเอาไว้อย่างน่าสนใจ
“สําหรับเฟิร์นการรักตัวเองคือเห็นคุณค่าของการมีชีวิตปัจจุบันของเรา เฟิร์นขอบคุณทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น ตื่นเช้ามาเฟิร์นดีใจที่ได้เห็นผ้าม่านที่ตัวเองเลือกหรือว่าเตียงที่เราเลือก วันนี้พอมันเห็นสิ่งที่มีมันจะย้อนกลับไปว่า เราอดทนอะไรมาบ้างจนมีวันนี้ มันเลยเห็นคุณค่าของแต่ละอย่าง ผู้คนในชีวิตก็เช่นกัน ขอบคุณผู้คนในชีวิตเฟิร์นการเห็นเขาในแต่ละวันแค่มากินข้าวกัน หรือดื่มสังสรรค์ มันก็จะมีความรู้สึกว่าเราผ่านอะไรกันมาจนวันนี้เรามานั่งอยู่ด้วยกันในวันนี้ เวลานี้ ทุกอย่างมันมี background ในชีวิตของเฟิร์นหมดค่ะ เฟิร์นเลยขอบคุณทุกอย่างที่เฟิร์นมีตลอดเวลา นี่คือการรักตัวเอง เพราะฉะนั้นการเจอเรื่องผิดหวังบ้างก็ไม่เป็นอะไร เพราะสิ่งที่เรารักทั้งหมดมันไม่เคยถล่มทลายไปไหนเลย เฟิร์นรู้สึกว่าโอเคเรารักชีวิตของเรา แล้วเฟิร์นคงไม่ทําอะไรที่มันเลวร้ายเพื่อทําลายชีวิตหรือความสุขตรงนี้ที่เรามี ส่วนความรักในแบบคู่รักเฟิร์นมองว่า มันควรเป็นความสัมพันธ์ที่เฮลท์ตี้ เหมือนเวลาเรารักเพื่อนสักคนหนึ่งที่แบบเราอาจจะไม่ต้องอยู่ติดกันตลอดเวลา แต่ว่าเรามีรากฐานที่มันเกี่ยวพันกันเหมือนต้นไม้สองต้นที่ยืนข้างกัน ถ้าโชคดีเฟิร์นว่าน่าจะเจอแบบนั้นนะคะ รากอาจจะเกี่ยวกับใบอาจจะช่วยเหลือกันแต่สองต้นอยู่ข้างกันแบบไม่ต้องเบียดเบียนกันค่ะ”
ความจริงใจและเป็นธรรมชาติของเธอนั้นเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราตกหลุมรักนักแสดงสาวคนนี้ทั้งในจอและนอกจอ
Creative idea and Concept/ #legend_th
Editor-in-Chief/ Asst.Prof, Rewat Chumnarn
Model/ Pimchanok “Baifern” Luevisadpaibul
Photography/ Somkiat Kangsdalwirun
Fashion Director/ Pound Thanarit Saengsin
Hair/ Akkapol Giersub
Make-up/ Sapsiri Siriwong
Creative Director/ Patipat Chaiwitesh
Style Assistants/ Tanyanan Wannawong and Naruemol Namkaew
Photographer Assistant/ Techanun Jirachotrawee, and Nattapon Sangsawang