“…ในปี 1910 Gabrielle Chanel ได้นำเสนอผลงานชิ้นแรกของเธอ หมวกปีกกว้างที่ดูเรียบง่ายแต่สะดุดตาประดับด้วยขนนกสีขาวเส้นยาว เส้นขนนก อันมีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์นี้ได้กลายเป็นตัวแทนสะท้อนความงามของแบรนด์มาเนิ่นนาน…”

เมื่อปี 1932 คอลเลคชั่น Bijoux de Diamants ผลงานออกแบบเครื่องประดับชั้นสูงครั้งแรกของโลกที่ถูกออกแบบภายใต้ธีมเดียวกันโดยใช้รูปทรงที่กาเบรียล ชาเนลหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์บนท้องฟ้า ทั้งพระอาทิตย์ ดวงดาว รวมถึงริบบิ้นมาดีไซน์เครื่องประดับเพชรชิ้นสวยอันเป็นตัวแทนความสง่างามที่ล้ำสมัย หนึ่งผลงานที่โดดเด่นคือเข็มกลัดรูปขนนกก้านยาวประดับไปด้วยเพชรที่มีความสมจริงและสง่างามเป็นที่สุดเมื่อทาบทับลงบนพัสตราภรณ์ เวลาผ่านไปนับร้อยปีขนนกยังคงสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับคอลเลคชั่นล่าสุด Plume de Chanel ซึ่งออกแบบโดย Patrice Leguereau ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แผนกเครื่องประดับแห่งชาเนลที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผลงานของเขานับเป็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งที่ต่อยอดมาจากมรดกด้านการออกแบบของชาเนล ชุบชีวิตสัญลักษณ์ที่กาเบรียล ชาเนลเคยใช้ในงานออกแบบชิ้นแรกของเธอให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบที่ชวนทึ่ง เครื่องประดับรูปขนนกที่เขาออกแบบสามารถขยับได้อย่างสมจริง ซึ่งจำลองพื้นผิวและการเคลื่อนไหวมาจากขนนกจริงๆ จิวเวลรี่รูปขนนกนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องประดับที่สวยสะดุดตาแต่ยังหล่อหลอมจิตวิญญาณการออกแบบดั้งเดิมของชาเนล ที่ผสมผสานระหว่างความกล้าหาญ อิสระ และความหรูหราอย่างลงตัว

ย้อนกลับไปในปี 2010 ปาทริซ เลอเกโรได้ออกแบบคอลเลคชั่น Plume เป็นครั้งแรกด้วยแรงบันดาลใจจากเข็มกลัดในปี 1932 โดยมีเข็มกลัดรูปขนนกกลมประดับเพชรใจกลางเป็นชิ้นไฮไลต์ สำหรับคอลเลคชั่น Plume de Chanel ได้เผยโฉมออกมาทั้งหมด 6 เซตที่ผสมผสานมรดกของแบรนด์ในอดีตและนวัตกรรมการสร้างสรรค์อันล้ำสมัยได้อย่างน่าสนใจ ประกอบด้วยเครื่องประดับทั้งหมด 15 ชิ้นที่สะท้อนถึงความอิสระและความสง่างาม ด้วยการออกแบบตัวเรือนโค้งมนที่รับกับสรีระของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นต่างหูแบบอสมมาตร สร้อยคอประดับจี้ขนนกที่สามารถถอดมาใส่เป็นเข็มกลัดได้ แหวนปลายเปิด และเครื่องประดับผม ทุกชิ้นในคอลเลคชั่นนี้ล้วนก้าวข้ามขอบเขตเดิมในการออกแบบเครื่องประดับ สะท้อนถึงจิตวิญญาณของผู้หญิงในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยพลังพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดยั้ง

หัวใจสำคัญของการออกแบบในครั้งนี้คือเทคนิคการเชื่อมต่อที่โค้งมนอันล้ำสมัยของชาเนล ทำให้เส้นขนนกส่วนปลายที่สร้างสรรค์จากโลหะมีความยืดหยุ่นที่ไม่ธรรมดา ให้ความรู้สึกพลิ้วไหวเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระ พร้อมประดับประดาด้วยอัญมณีสีที่มีความละเอียดอ่อน เช่น เพชร แซปไฟร์ และทัวร์มาลินสีชมพู เพื่อเสริมความงามของขนนก โดยเฉพาะเฉดสีชมพูอ่อนไล่เรียงไปจนถึงสีชมพูที่เข้ม ซึ่งเพิ่มมิติให้กับเครื่องประดับขนนกยามเคลื่อนไหวได้อย่างมีเสน่ห์

จิวเวลรี่ชิ้นไฮไลต์ในคอลเลคชั่นนี้ ได้แก่ สร้อยคอ Plume Couture de Chanel สร้อยคอเลเยอร์สามชั้น เส้นตรงกลางโดดเด่นด้วยตัวเรือนรูปขนนกรังสรรค์ด้วยพิงค์โกลด์ประดับด้วยแซบไฟร์สีชมพูอ่อนไล่ไปเข้มราวกับขนนกล่องลอยในอากาศ ประกบด้วยสายสร้อยเพชรตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับเพชรทรงกลมสองเส้น

 ในขณะที่แหวน Toi et Moi Plume Mademoiselle de CHANEL โดดเด่นด้วยตัวเรือนขนนกที่สามารถขยับได้ประดับด้วยเพชรทรงพิเศษ และเพชรสีชมพูทรงหยดน้ำอันอ่อนหวาน สะท้อนงานช่างฝีมือที่ยอดเยี่ยมและการเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด

Plume de Chanel ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองให้กับความงามของขนนก แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญในการออกแบบและความชำนาญในการผลิตเครื่องประดับที่ไม่มีใครเทียบได้จากชาเนลที่ดำเนินมานับแต่อดีต ดังคำกล่าวของกาเบรียล ชาเนลที่ว่า “เครื่องประดับของฉันไม่เคยแยกจากแนวคิดเกี่ยวกับผู้หญิงและเสื้อผ้าผู้หญิง เพราะเมื่อเสื้อผ้าเปลี่ยน เครื่องประดับก็พัฒนาตามไปด้วย“

อ่านบทความเพิ่มเติม: TAG Heuer ก้าวขึ้นเป็นผู้สนับสนุนหลักครั้งแรกของ Grand Prix de Monaco