Text/ Krissana Kochathamarat and Kantinan Srisan
“…ปีนี้คือช่วงเวลาของการเปล่งประกายอย่างเจิดจ้าของสองนักแสดงดาวรุ่งอย่าง “เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย”และ “น้ำปิง นภัสกร ปิงเมือง” ผู้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากซีรีส์ Romantic Horror สุดโด่งดัง “เขมจิราต้องรอด” (Khemjira the Series) ซีรีส์ที่พลิกบทบาทของแนววาย ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น ลึกลับ และผูกโยงกับความเชื่อท้องถิ่น เคมีที่ยากจะปฏิเสธระหว่างตัวละคร “พ่อครูภรัณ” ผู้มีอาคมกับ “เขมจิรา” ผู้ต้องคำสาป ได้สร้างแรงดึงดูดมหาศาล ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนคลับและติดเทรนดโซเชียลมีเดียในทุกสัปดาห์ ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากการแสดงที่ทุ่มเทและถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซิ้ง ซึ่งพิสูจน์ถึงความตั้งใจจริงของพวกเขา…”

การมาถ่ายปก #legend Thailand ในธีม”ด้ายแดง” จึงไม่ใช่แค่การถ่ายแฟชั่น แต่เป็นเหมือนการสะท้อนเส้นทางของพวกเขาทั้งคู่ ที่แม้จะมาจากต่างจังหวัด เติบโตคนละเส้นทาง แต่กลับมาพบกันในจังหวะที่ใช่ และทำงานร่วมกันได้ราวกับถูกเชื่อมโยงด้วยพลังงานบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่ซีรีส์เรื่องเดียว เมื่อได้พูดคุยกับเก่งและน้ำปิง ทำให้ยิ่งเข้าใจว่าปรากฏการณ์ของพวกเขาไม่ได้เกิดจากภาพลักษณ์หรือกระแสชั่วครั้งชั่วคราว แต่เกิดจากพลังจริงๆ ที่ทั้งสองแบ่งปันให้กันและส่งต่อถึงคนรอบข้าง พลังที่เรียบง่าย อ่อนโยน แต่ทรงอิทธิพลอย่างน่าประหลาดใจและนี่คือบทสนทนาที่สะท้อนตัวตน ความคิด และพลังงานดีๆ ของทั้งคู่ ในจังหวะที่พวกเขากำลังเป็นหนึ่งในคู่พาร์ตเนอร์ที่ร้อนแรงที่สุดของปี

#legend_th: มาคุยกันเรื่องทีมด้ายแดงของแฟชั่นเซตปกนี้กันสักหน่อย ทั้งคู่เชื่อเรื่อง “ด้ายแดง” ไหม คิดว่าบางความสัมพันธ์ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกหรือเปล่า
เก่ง: “ผมอาจจะไม่ได้รู้ละเอียดถึงคอนเซปต์ของด้ายแดงครับ แต่ผมรู้สึกว่ามีความสัมพันธ์กับซีรีส์เรื่องเขมจิราต้องรอด ที่เราแสดงอยู่เลยรู้สึกดีใจที่ได้มาถ่ายในคอนเซปต์นี้ครับ”
น้ำปิง: “ทุกคนมีที่มาที่ไปคล้ายๆ กับชะตาลิขิตอยู่แล้ว และด้ายแดงก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นภาพ และเป็นความเชื่อที่ผูกโยงความห่วงใยต่างๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมากกว่า”

#legend_th: มีโมเมนต์ไหนที่ทำให้รู้สึกว่า “ดีจังที่เราได้มาเจอกันในเวลานี้”บ้างไหม
เก่ง: “มีหลายโมเมนต์มากครับ ก็น่าจะเริ่มตั้งแต่ได้เป็นพาร์ตเนอร์กัน พอมอง ย้อนกลับไปตอนที่เราเริ่มต้นเป็นพาร์ตเนอร์กับน้อง เรารู้สึกโชคดีครับที่มีน้องเป็นพาร์ตเนอร์จนถึงปัจจุบันที่เรายังทำงานอยู่ด้วยกัน”
น้ำปิง: “รู้สึกโชคดีเหมือนกันครับ แต่มาลงตัวที่ตรงนี้ได้อย่างไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เป็นความบังเอิญและเป็นจังหวะที่เราได้รู้จักกันหรืออะไรก็ตาม เพราะเราก็มาจากพื้นที่ที่ต่างกันแต่ก็มีความคล้ายกัน คือเป็นเด็กต่างจังหวัด มีความอยากทำงานในวงการบันเทิง ดีใจที่วันนั้นดึงริบบิ้นมาแล้วเป็นคนนี้”

#legend_th: สำหรับทั้งคู่ความหมายของคำว่า “คนที่เดินข้างๆ กันได้ดี” คืออะไร
เก่ง: “คนที่เดินข้างกันได้ดี คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ปรับตัวกับคนที่เราเดินด้วยกันได้ตลอดทางครับ เพราะเก่งคิดว่าคนเราน่าจะมีข้อดีข้อเสียต่างกัน พอเราเดินทางไปด้วยกันเรื่อยๆ เราจะเริ่มเห็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละคนเรื่อยๆ ครับ พอเราเริ่มเห็นถึงข้อนั้นมันก็จะเกิดภาพบางอย่างในตัวของเราที่จะมองคนที่เราเดินไปด้วยกัน คาดหวังว่าจะให้เขาเป็นอย่างที่เราคิด มันก็จะเป็นปัญหาครับ พอเกิดปัญหาสิ่งที่จะประคองเราให้ไปด้วยกันได้คือการปรับตัวเข้าหากันครับ”
น้ำปิง: “ในมุมของน้ำปิงน่าจะหมายถึงว่า คนที่ได้ทำสิ่งต่างๆ หรือคนที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าพยายามไปให้ถึงจุดจุดหนึ่งหรือมีเป้าหมายอาจจะเหมือนหรือต่างกันแต่ว่า มีความเข้าใจในกันและกัน และช่วยส่งเสริมสนับสนุนกัน ให้ไปถึงเป้าหมายของแต่ละคน รวมถึงเป้าหมายร่วมกันได้เป็นอย่างดี มันอาจจะไม่ใช่การที่ประสบความสำเร็จสูงสุดแต่ว่า คนที่เดินข้างๆ กันได้ดีมันคือคนที่ประคับประคองกันไปในวันที่มีความสุข เราจะมีความสุขไปด้วยกัน วันที่ต้องเจอปัญหาอุปสรรค เราก็ยังจะสามารถอยู่ข้างๆ และเดินไปพร้อมกันได้ครับ”

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในนิตยสารฉบับเดือนธันวาคมนี้



