April 23, 2024

“…ภายใต้งานดีไซน์และความคิดสร้างสรรค์แสนบรรเจิดจากหลากหลายแบรนด์และดีไซเนอร์ในงาน Milan Design Week ประจำปีนี้ แอร์เมส (Hermès) คือหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างปฏิเสธไม่ได้ นอกเหนือไปจากการตกแต่งพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ Collections For The Home 2024…”

ผ่านวัตถุดิบพื้นฐานอย่าง ก้อนอิฐ ก้อนหิน หินชนวน ไม้ หรือแม้แต่ดินอัด เพื่อรังสรรค์ความแตกต่างให้กับพื้นที่พร้อมสื่อสารสัญญะของความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างโลกและผู้ที่เข้ามารับชม แอร์เมสยังได้ทำการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของทางแบรนด์

ควบคู่ไปกับการเผยโฉมเซ็ตงานออกแบบสุดเลอค่าที่รวบรวมสารพันไอเทมระดับไอคอนิคที่รังสรรค์ขึ้นนับแต่ปี 1949 ตอกย้ำความเป็นเลิศแห่งงานฝีมือที่ไม่เคยจางหายและความงามเหนือกาลเวลาที่ยังคงถูกส่งต่อมาจวบจนปัจจุบัน

Lounge Chair: Diapason D’Hermès

เฟอร์นิเจอร์มากดีไซน์ที่รังสรรค์จากฝีมือของ Studio Hermès 2024 เก้าอี้เลาจ์สไตล์โมเดิร์นที่หลอมรวมเรื่องราวของรูปทรงมากความทางการและวัสดุที่ทางแบรนด์เชี่ยวชาญยิ่งอย่าง “หนัง” ที่ปรากฏในรูปแบบของพนักพิงและที่นั่ง ตัวโครงสร้างของเก้าอี้ที่เป็นเงินแท้ได้ถูกนำมาเพิ่มเติมความแตกต่างผ่านเทคนิคการทำฟินนิชชิ่งแบบ Hammered จัดวางคู่กันกับ Timoure งานออกแบบสร้อยคอที่รังสรรค์ขึ้นเมื่อปี 2002 โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูจากวัสดุเงินแท้ที่ได้รับการฟินนิชชิ่งด้วยเทคนิคเดียวกัน

Lamp: Voltige D’Hermès

โคมไฟที่อัดแน่นด้วยอัตลักษณ์ความวิจิตรสไตล์แอร์เมสในทุกอนู ทั้งยังได้รับการแต่งเติมความน่าสนใจผ่านเชือกหนังถักสองสีบริเวณก้านโคมไฟ และการเย็บปิดขอบด้วยหนังในส่วนของโป๊ะโคมที่รังสรรค์จากผ้าลินิน จัดวางคู่กับแส้ล่าสัตว์และสายรัดจูงที่รังสรรค์ขึ้นจากเทคนิคการถักหนังและที่จับที่ทำจากเงินแท้และเขากวาง

Basket: Derby

เป็นครั้งแรกที่เทคนิคการทำอานม้าและความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เครื่องหนังได้ถูกหลอมรวมมาสู่ผลิตภัณฑ์สายไลฟ์สไตล์ ตระกร้าสานอเนกประสงค์รุ่น Derby จึงถือกำเนิดขึ้น โดดเด่นด้วยโครงสร้าง ขนาด และรูปทรงเลขาคณิตที่ถูกนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ผ่านเส้นสายวัสดุหนังหลากสีที่รังสรรค์ผ่านกรรมวิธีการทำมือ ถ่ายทอดทักษะด้านเครื่องหนังระดับบรมครูของแบรนด์สู่ชิ้นงานเลอค่าที่บอกเล่ารสนิยมเหนือระดับในทุกมิติ จัดวางคู่กับกำไลข้อมือหนังที่รังสรรค์จากหนังลูกวัวโทนสีเขียวเข้ม ชิ้นงานระดับไอคอนิคจากปี 1970

Bucket: Derby

เป็นครั้งแรกที่เทคนิคการทำอานม้าและความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เครื่องหนังได้ถูกหลอมรวมมาสู่ผลิตภัณฑ์สายไลฟ์สไตล์ นำมาสู่กระเป๋าถือทรงอเนกประสงค์รุ่น Derby โดดเด่นด้วยโครงสร้าง ขนาด และรูปทรงเลขาคณิตที่ถูกนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ชิ้นหนังหลากสีต่างถูกรังสรรค์ผ่านกรรมวิธีการทำมือ ถ่ายทอดทักษะด้านเครื่องหนังระดับบรมครูของแบรนด์สู่ชิ้นงานเลอค่าที่บอกเล่ารสนิยมเหนือระดับในทุกมิติ จัดวางคู่กับกระเป๋ารุ่น Mangeoire จากปี 1949 รังสรรค์ขึ้นจากหนังลูกวัวโทนสีเขียว

Centrepiece: Derby

เฉกเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมเซ็ตก่อนหน้าทั้ง Basket และ Bucket โมเดลรุ่น Derby นี้ถูกถ่ายทอดผ่านงานออกแบบของถาดวางของอเนกประสงค์ รังสรรค์จากหนังสองโทนสีอย่างสีเนื้อและสีส้ม ที่ผลิตจากกรรมวิธีงานฝีมือในทุกรายละเอียด จัดวางคู่กับเสื้อ Jockley’s jersey โมเดลอาภรณ์ไอคอนิคของแบรนด์จากช่วงปี 1980s ที่รังสรรค์จากเนื้อผ้าซาตินผสมผ้าไหม

Watch and Jewellery Box: Amalthèe Myriade

กล่องใส่เครื่องประดับและเรือนเวลาดีไซน์คลาสสิค รังสรรค์ขึ้นจากเนื้อไม้และหนังสัตว์ โดดเด่นด้วยวิธีการลงหมึกจากบรมครูผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์ ในรูปแบบของจุดวงกลมขนาดเล็กและเส้นสายในโทนสีสว่าง ที่ซึ่งมีความแตกต่างกับโทนสีของวัสดุดั้งเดิม นำมาสู่ลวดลายตกแต่งแสนวิจิตรที่เพียงได้มองก็สร้างความประทับใจได้อย่างไม่ยากเย็น จัดวางคู่กับถุงมือที่รังสรรค์ขึ้นจากหนังลูกแพะโทนสีเนื้อที่ตกแต่งด้วยเทคนิคการปักเส้นสายสีน้ำตาลเข้ม ผลผลิตชิ้นสำคัญจากช่วงปี 1950s

Dinner Service: Tressages Équestres

เซ็ตจานชามแสนวิจิตรที่อัดแน่นด้วยอัตลักษณ์แสนโดดเด่นของแบรนด์ ตกแต่งด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากม้าและนักขี่ในเซ็ตไอเทมกว่า 27 ชิ้น ชิ้นงานประเภทไลฟ์สไตล์ที่รังสรรค์จาก Studio Hermès และได้รับการออกแบบและพัฒนาโดย Virginie Jamin ผู้เคยฝากผลงานระดับเรือธงไว้กับแอร์เมสอย่างมากมาย จัดวางคู่กับสายรัดที่รังสรรค์จากเชือกผ้าฝ้ายจากช่วงปี 1950s

Bedspread: Hippique

ผ้าคลุมเตียงที่รังสรรค์ขึ้นจากงานออกแบบของ Jochen Gerner ถ่ายทอดผ่านลวดลายกราฟิกและรูปทรงเลขาคณิตที่หลอมรวมกันได้อย่างน่าหลงใหล ผ่านโทนสีและการจัดวางในลักษณะที่คล้ายคลึงกับธงหลากสีที่สืบเนื่องมาจากการวางลายของเสื้อ jockeys’ silks จัดวางคู่กับ jockey’s jersey ต้นแบบแรงบันดาลใจจากช่วงปี 1960s ที่รังสรรค์ขึ้นจากเนื้อผ้าไหม

Bed Blanket: Tartan Dye

ผ้าห่มที่ให้สัมผัสความนิ่มเหนือระดับราวกับสัมผัสของก้อนเมฆ รังสรรค์ขึ้นจากเนื้อผ้าแคชเมียร์ย้อมสีและกรรมวิธีการผลิตชั้นสูง (haute couture) ให้เกิดเป็นเฉดสีของน้ำตาลทองแดงและสีเหลืองพระอาทิตย์ เส้นสายแนวตั้งและแนวนอนถูกจัดวางให้เกิดเป็นภาพเสมือนของกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ พร้อมประดับด้วยโลโก้ H อันเป็นสัญลักษณ์ซิกเนเจอร์ที่ถ่ายทอดถึงความเป็นแอร์เมส จัดวางคู่กับ jockey’s jersey ต้นแบบแรงบันดาลใจจากช่วงปี 1950s ที่รังสรรค์ขึ้นจากเนื้อผ้าไหมผสมซาติน

Throw: Altitude

ผ้าห่มผืนเล็กจากเนื้อผ้าแคชเมียร์ที่รังสรรค์ออกมาในสีโทนร้อน ถักทอด้วยเทคนิคงานฝีมือและกรรมวิธีการย้อมสีจากประเทศเนปาล เหนือระดับด้วยขอบผ้าที่เป็นเชือกถักที่รังสรรค์ในโทนสีที่ตัดกันอย่างตั้งใจ จัดวางคู่กับคทาขนาดเล็กโทนสีฟ้าครามที่ตกแต่งด้วยเชือกถักบริเวณก้านจับจากปี 1998

รูปภาพจาก: Hermès

อ่านบทความเพิ่มเติม: Bottega Veneta จับมือร่วมกับ Cassina ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Milan Design Week ผ่านโปรคเจคพิเศษ On the Rocks

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search