3 แฟชั่นดีไซเนอร์กับงานออกแบบสไตล์ Genderless ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์สุดคูลแต่ยังสะท้อนตัวตนของ LGBTQIA+
Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of Ludovic de Saint Sernin, Luar, and Arturo Obegero
Jun 27, 2024
"...หนึ่งกระแสหลักที่คนแฟชั่นกำลังให้ความสำคัญไม่แพ้เทรนด์ความยั่งยืน คือแฟชั่นสไตล์ ‘Genderless’ หรืองานออกแบบที่หลอมละลายเส้นแบ่งทางเพศให้จางลง เพศไหนก็สวมใส่ได้หากความรู้สึกมันใช่! จะมีเสื้อผ้าของแบรนด์ไหนที่ทั้งตัวตนและงานออกแบบของแบรนด์นั้นจัดอยู่ในกระแสนี้บ้าง เราได้รวมสามแบรนด์สุดคูลที่อยากให้ทุกคนได้รู้จักผลงานของพวกเขา"
Ludovic de Saint Sernin
ลูโดวิก เด แซงต์-แซร์แน็ง (Ludovic de Saint Sernin) หนึ่งแบรนด์ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับแฟชั่น ‘Genderless’ได้อย่างน่าจับตามองนับจากคอลเลคชั่นเปิดตัวในปี 2018 ที่เขาถ่ายทอดตัวตนผ่านงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยงานออกแบบที่ผสมผสานความเซ็กซี่ Fetish เข้ากับความหรูหรา สร้างสรรค์ไอเท็มสุดคูลให้กับคนรักแฟชั่น ดีไซเนอร์ชาวเบลเยี่ยมที่เคยร่วมงานออกแบบ Women wears กับ Balmain คนนี้ได้สร้างสรรค์งานออกแบบเสื้อผ้าที่มีความน่าหลงใหลด้วยรูปแบบที่ชวนตื่นเต้น วาบหวิว และมีรายละเอียดที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการร้อยเส้นหนัง การปักประดับด้วยเลื่อมและคริสตัล ลูโดวิกมักสวมเสื้อผ้าของแบรนด์เขาเองไม่ว่าจะเป็นเสื้อสายเดี่ยว สลิปเดรส ออกงานต่างๆ เพื่อสะท้อนบุคลิกเฉพาะตัวของเขา เช่นเดียวกับทัศนคติที่ตัวเขามองว่าไม่ว่าจะเป็นเพศไทนก็สวมใส่เสื้อผ้ารูปแบบใดก็ได้หากเราพอใจ
เราจึงได้เห็นทั้งเสื้อสายเดี่ยว, เสื้อคร็อป, กระโปรงมินิสเกิร์ต และชุดเดรสที่ออกแบบมาให้ใส่ได้ทุกเพศ ไม่เพียงแค่งานดีไซน์ของเขาจะเป็นพูดถึงในวงกว้างในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่ยังเป็นที่สนใจของเหล่าเซเลบริตี้ที่นำเอางานดีไซน์ของเขามาสวมใส่ในโอกาสต่างๆ ลูโดวิกได้สร้างสรรค์เสื้อผ้าแบบสั่งทำพิเศษให้กับศิลปินคนดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Dua Lipa, Troy Sivan และอีกมากมาย งานออกแบบของเขาไม่เพียงทำให้คนหันมาสนใจกระแส ‘Gender - Neutral’ แต่ยังเป็นเหมือนกระบอกเสียงที่สะท้อนตัวตนและความเข้าใจในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศถึงตัวตนและสไตล์ที่มีน้อยคนนักจะหยิบมาพูดถึงผ่านงานออกแบบที่เย้ายวนและหรูหราในเวลาเดียวกัน
Luar
ราอูล โลเปซ (Raul Lopez) ดีไซเนอร์ชาวโดมินิกันที่เคยได้รับรางวัล CFDA’s Accessory Designer of the year Award ในปี 2022 ด้วยงานดีไซน์ Ana Bag กระเป๋าดีไซน์มินิมอลเรียบโก้ที่โดดเด่นด้วยหูจับทรงกลมขนาดโอเวอร์ไซส์ที่แฟชั่นนิสต้าตัวจริงต้องมี ช่วงการระบาดของโควิด 19 เขาได้หยุดพักไปหาแรงบันดาลใจร่วมสองปี และกลับมาพร้อมกับการออกแบบ Luar คอลเลคชั่น Spring 2022 ที่เรียกกระแสความสนใจได้ไม่น้อยกับงานดีไซน์ที่ผสมโครงเสื้อ Avant-garde เข้ากับแนว Urban Street ของชาวนิวยอร์ก
มากไปกว่านั้นในคอลเลคชั่นของเขายังมีหลายไอเท็มที่มีความเป็นกลางทางเพศเราเห็นนายแบบสวมใส่แจ๊คเก็ตเข้ากับกระโปรงและส้นสูง ในขณะที่นางแบบก็สวมใส่เสื้อเชิ้ตไหล่กว้างตัวโคร่งพร้อมเนคไท และเขายังได้ร่วมงานกับนางแบบผู้หญิงข้ามเพศอยู่เสมอ เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเสื้อผ้าที่เขาออกแบบนั้นใครก็ใส่ได้ Raul มักได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่นยุคกลาง, 80s และ 90s มาสร้างสรรค์คอลเลคชั่นของเขา รวมถึงโครงเสื้อแบบสปอร์ตที่มีความเท่อย่างฮู้ดดี้, ชุดวอร์มเข้าชุดที่สามารถสวมใส่ได้โดยไม่จำกัดเพศ ราอูลกล่าวว่างานออกแบบของเขานั้นไม่เพียงแค่สะท้อนตัวตนของเขาเท่านั้นแต่ยังสะท้อนคอมมิวนิตี้และกลุ่มคนที่เขาใช้ชีวิตและทำงานด้วย คอลเลคชั่นงานออกแบบของเขาจึงเป็นการออกแบบเสื้อผ้าเพื่อตอบโจทย์ทุกเพศโดยแท้จริง
Arturo Obegero
ชื่อดีไซเนอร์จากสเปนคนนี้อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่ แต่หลายคนน่าจะเคยเห็นผลงานของเขาผ่านมิวสิควีดีโอของ แฮรี่ สไตล์ (Harry Styles) ที่แฮรี่สวมใส่จั๊มป์สูทเมทัลลิกสีแดงในเพลง ‘As it was’ ชุดที่สวยสะดุดตานี้ชวนให้เราค้นหาว่าดีไซเนอร์ที่อยู่เบื้องหลังงานดีไซน์เป็นใคร? อาร์ตูโร โอเบเฆโร (Arturo Obegero) เติบโตมาในเมือง Tapia de Cassa ของสเปน ความหลงใหลที่มีต่อความงามของธรรมชาติในเมืองที่เขาเติบโตมา ความน่าหลงใหลของวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงกีฬาชนกระทิงที่มีความรุนแรงแต่มาธาดอร์กลับแต่งตัวเต็มยศซึ่งเขามองว่ามันเป็นความงามที่มีความขัดแย้ง อาร์ตูโรจึงได้นำความงามที่เขามองเห็นนั้นมาใช้ในการออกแบบโครงเสื้อที่มีลักษณะเฉพาะตัว และมีความเป็นกลางทางเพศไม่ว่าเพศไหนก็ใส่ได้
งานออกแบบของเขาจะมีความโดดเด่นในการเลือกใช้แมทีเรียลที่มีความละเอียดลออไม่ว่าจะเป็นผ้าลูกไม้ที่มีความเฟมินินที่เขานำมาครีเอทลุคที่เซ็กซี่และชวนค้นหาในเวลาเดียวกัน เขายังได้นำโครงเสื้อของมาธาดอร์ที่โดดเด่นด้วยกางเกงเอวสูงเหมือนคอร์เซ็ตมาออกแบบเป็นไอเท็มที่น่าสนใจอีกมากมาย อาร์ตูโรยังสร้างอัตลักษณ์ด้วยการดีไซน์โครงเสื้อที่แปลกตาโดยใช้ผ้ากำมะหยี่จับเดรปในขนาดโอเวอร์ไซส์สร้างคาแร็กเตอร์ที่เด่นชัดให้กับผู้สวมใส่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ไม่เพียงแค่งานดีไซน์ของเขาที่เน้นสร้างสรรค์ไอเท็มที่มีความเป็นกลางทางเพศแต่เขายังพยายามถ่ายทอดทัศนคติของตัวเองที่ทีต่อความหลากหลายทางเพศและอัตลักษณ์ผ่านแคมเปญโฆษณาที่มีรูปแบบเฉพาะตัวที่ช่วยเพิ่มความน่าค้นหาให้กับแบรนด์นี้
อ่านบทความเพิ่มเติม: Pride Month: สารพันไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ที่กลุ่ม LGBTQIA+ มอบให้แก่โลกแฟชั่น