รวมไฮไลท์น่าสนใจและจับตามองจาก Milan Men’s Fashion Week ประจำคอลเลคชั่น Spring/Summer 2025
Author: Kantinan Srisan | Photographer: Courtesy of Marine Serre, Fendi, MSGM, Prada, JW Anderson, Gucci, and Zegna
Jun 20, 2024
“…สืบเนื่องของฤดูกาลที่แล้วอย่างความน่าสนใจจาก Milan Fashion Week 2024 ล่าสุดนี้เนื่องด้วยวาระที่อีเวนท์สำคัญแห่งโลกแฟชั่นอย่าง Milan Men’s Fashion Week ประจำคอลเลคชั่น Spring/Summer 2025 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว #Legend_th จึงขอรับหน้าที่พาคุณไปรับชมกับไฮไลท์และดีไซน์น่าจับตามองประจำซีซั่นล่าสุดกันอีกครั้ง…”
Marine Serre
แม้จะมีจุดเริ่มต้นมาจากการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรีที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2017 แต่เมื่อมาถึงการออกแบบอาภรณ์สำหรับฝั่งเมนส์แวร์แล้วนั้น นับได้ว่านักออกแบบสัญชาติฝรั่งเศสผู้นี้คือหนึ่งในคนที่ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง โดยเฉพาะกับคอลเลคชั่นล่าสุดที่จัดแสดง ณ พื้นที่ของ Pitti Uomo หนึ่งในเทศกาลสำหรับระดับโลกของสุภาพบุรุษสายคลาสสิคเมนส์แวร์ ณ กรุงฟลอเรนซ์ ทำให้สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าเหตุใดหลากหลายดีไซน์ในคอลเลคชั่นนี้ต่างถูกรังสรรค์ออกมาในรูปแบบของเสื้อผ้าสไตล์ Sartorial
หลากหลายงานออกแบบทั้งเสื้อเชิ้ต เบลเซอร์ ชุดสูท ทั้งกระดุมแถวเดียวและสองแถว รวมไปถึงเสื้อโค้ทคัตติ้งเนี้ยบต่างพบเห็นได้โดยทั่วไปในสถานที่แห่งนี้ ในขณะที่งานดีไซน์ของฝั่งสุภาพสตรีดูจะเน้นหนักไปในสไตล์ Couture โดยที่โทนสีพิเศษอย่างสีแดง คาเมล และสีม่วงเข้มของหลากหลายงานออกแบบต่างสะกดสายตาของผู้รับชมได้อย่างฉงน พร้อมกันกับการสอดแทรกแพทเทิร์นระดับไอคอนิคของแบรนด์อย่าง “พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว” ลงไปในหลากหลายชิ้นงาน ทำให้เราสามารถกล่าวอย่างมั่นใจได้ว่า งานออกแบบของมารีน-แซร์ (Marine Serre) ในครั้งนี้คือตัวอย่างของนิยามที่ว่า ‘Classic with a Twist’ ของโลกแฟชั่นยุคใหม่
Fendi
หนึ่งในอาณาจักรแฟชั่นที่เราหลงรัก เหมือนว่าครั้งนี้เฟนดิ (Fendi) ได้ย้อนไปสู่รากเหง้าแห่งการออกแบบเสื้อผ้าสายเมนส์แวร์ของแบรนด์อีกครั้ง หลากหลายองค์ประกอบมากเสน่ห์ที่ถูกริเริ่มขึ้นเมื่อ 1990 ได้ถูกนำมาตีความใหม่อีกครั้งผ่านเลนส์การออกแบบแสนทันสมัยของ Silvia Venturini Fendi
หลากหลายเฉดสีชวนหลงใหลอย่าง เชอร์เบท เทาอ่อน เบจ งาช้าง และคาราเมล ต่างถูกนำมาผสานเข้ากับโทนสีเป็นมิตรต่อโลกเมนส์แวร์อย่าง น้ำเงิน อินดิโก้ ดำ และเขียวเข้มได้อย่างสมบูรณ์แบบ นำเสนอผ่านรูปลักษณ์ของเสื้อผ้าสายคลาสสิคที่ถูกปรับโฉมขึ้นใหม่ ที่ไม่เพียงแต่หมายถึงโครงสร้าง (Silhouette) แต่ยังรวมไปถึงลักษณะของเนื้อผ้าอย่างแพทเทิร์นเชค (Check) ในหลากหลายโทนสีและดีเทลการปักโลโก้ด้วยเช่นกัน นับเป็นหนึ่งในโชว์สำคัญที่ตีความสมบัติล้ำค่าจากอดีตได้อย่างสดใหม่และน่าสนใจอย่างแท้จริง
MSGM
งานออกแบบใดที่ผ่านสายตาของ Massimo Giorgetti ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งความสดใหม่ และคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก MSGM ณ Milan Men’s Fashion Week Spring/Summer 2025 ในครั้งนี้คือเครื่องยืนยันในสิ่งนี้ หลากหลายโทนสีแสบสันทั้ง เขียว ฟ้า เหลือง ชมพู และสีแดงสดต่างถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดสัญญะแห่งความสดใหม่
หลากหลายดีไซน์ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมร่องเรืออย่างปกเสื้อเชิ้ตแบบ Camp Collar หมวกทรงบักเก็ต เสื้อยืดสไตล์ Breton ต่างถูกนำมาปรับโฉมใหม่อีกครั้งร่วมกับเหล่าไอเทมสายแคชชวลยุคใหม่อย่าง เบลเซอร์ไร้โครงสร้าง แจ็คเก็ตบอมเบอร์สีสด เสื้อเชิ้ตแขนสั้นพิมพ์ลาย ไปจนถึงเซ็ตเลาจ์แวร์ต่างๆ ที่สะท้อนได้ถึงเสน่ห์ของชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและความเป็นอิตาเลียนยุคใหม่อันเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของนักออกแบบได้อย่างตรงประเด็นในทุกรายละเอียด
Prada
อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่จากกรุงมิลาน ปราด้า (Prada) ภายใต้การกำกับดูแลของ Miuccia Prada และ Raf Simons นำเสนอความสดใสแปลกใหม่กลับมาสู่เมนส์แวร์กันอีกครั้ง Fondazione Prada สถาบันเพื่อศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยของ Miuccia Prada และ Patrizio Bertelli ได้ถูกปรับโฉมเป็นพื้นที่สำหรับรันเวย์ในครั้งนี้ ความน่าสนใจของคอลเลคชั่นนี้ไม่ได้อยู่ที่ดีไซน์ที่หวือหวาล้ำสมั้ย หากแต่เป็นการยกระดับรูปทรงและสัดส่วนของเสื้อผ้าทั่วไปที่ดูเรียบง่ายให้มีกิมมิคแปลกตา
ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในคอลเลคชั่นก่อนๆ ก็พอจะอนุมานได้ว่าเป็นหนึ่งในรหัสลับที่ปราด้าเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ทั้งการปรับสัดส่วนของเสื้อยืดและเสื้อเชิ้ตสู่ความยาวของเสื้อเอวลอย เสื้อคาร์ดิแกนตัวเล็กผิดปกติที่จับคู่ร่วมกับเสื้อเชิ้ตปล่อยชาย รวมไปถึงเสื้อโค้ทแขนสั้นที่เผยให้เห็นถึงปลายแขนของเสื้อชั้นใน และอีกมากมาย แว่นตาสไตล์ Futuristic และโทนสีแสบสันต่างถูกนำมาประยุกต์สร้างความโดดเด่นให้กับโททัลลุคบนรันเวย์ครั้งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
JW Anderson
ด้วยความเหนือระดับทางด้านความคิดสร้างสรรค์ของ Jonathan Anderson ผู้ฝากผลงานมากความประทับใจไว้ที่โลเอเว่ (Loewe) อย่างมากมาย ทำให้ไม่เป็นที่น่าแปลกใจแต่อย่างใดเลย ที่คอลเลคชั่นเมนส์แวร์ของเจดับเบิ้ลยู แอนเดอร์สัน (JW Anderson) ที่ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เขาก่อตั้งขึ้นเองกับมือ จะเป็นหนึ่งในโชว์ที่ถูกกล่าวขวัญถึงกันอย่างหนาหู ความโดดเด่นที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยความก็เข้าใจได้ในทันทีเมื่อแรกเห็น คือดีไซน์สไตล์อาวองการ์ด (Avant-Garde) ที่ส่งสัญญาณออกมาอย่างชัดเจน ทั้งเนคไทเส้นมหึมา โบว์ผ้าไหมยักษ์หลากสี เสื้อกั๊กเดนิมระดับซูเปอร์โอเวอร์ไซส์ที่สวมใส่เสมือนชุดกระโปรง เสื้อชั้นนอกที่รังสรรค์จากผ้านวม หรือแม้กระทั่งเสื้อคลุมชั้นนอกความใหญ่ระดับโอเวอร์ไซส์ที่รังสรรค์ออกมาในรูปแบบของวัฟเฟิลสีเลืองสะท้อนแสง และอีกมากมาย
หากกล่าวอย่างเป็นกลาง คอลเลคชั่นนี้ของเจดับเบิ้ลยู แอนเดอร์สันอาจไม่ใช่ผลงานที่สวมใส่ได้จริงมากนัก แต่หากพูดกันถึงเรื่องของความโดดเด่นด้านไอเดียและนวัตกรรมการออกแบบ ผลงานในครั้งนี้ของ Jonathan Anderson ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ครีเอทีฟที่สุดของทุกโชว์จาก Milan Men’s Fashion Week ในครั้งนี้
Gucci
ลายเซ็นการออกแบบของ Sabato de Sarno ณ กุชชี่ (Gucci) ยังคงชัดเจนในรูปแบบของเสื้อผ้าสำเร็จรูปอย่างที่เราทุกคนทราบดี ณ ตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม สำหรับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Spring/Summer 2025 นี้ Sabato de Sarno ได้นำพากุชชี่ออกจากความเป็นเมืองและก้าวเท้าลงบนชายหาดอีกครั้ง
ผ่านหลากหลายไอเทมสายแคชชวลทั้งเสื้อโปโล เสื้อเชิ้ตแขนสั้นมากแพทเทิร์น แจ็คเก็ตประดับฟริ้งค์ เสื้อโอเวอร์เชิ้ตหลากหลายเฉดสี ไปจนถึงกางเกงขาสั้นที่รังสรรค์จากวัสดุหนังสัตว์ ที่สไตล์ลิ่งคู่กับรองเท้าทรง Horsebit หนึ่งในผลงานระดับไอคอนิคประจำแบรนด์ โดยที่ทุกไอเทมได้รับการออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์สร้างสไตล์ได้อย่างหลากหลาย สมฐานะความเป็นลักซัวรี่แบรนด์สาย Ready-to-Wear ที่หลากคนจับตามองประจำอีเวนท์ในทุกกระเบียดนิ้ว
Zegna
นิ่ง สุขุม แต่เปี่ยมด้วยรายละเอียดที่ลึกซึ้ง น่าจะเป็นคำนิยามที่บอกเล่าเสน่ห์ของโชว์จากเซนญ่า (Zegna) ประจำอีเวนท์นี้ได้อย่างตรงประเด็นที่สุด นอกเหนือไปจากพื้นที่ของรันเวย์ที่ถูกตกแต่งเป็นทางเดินทรายที่แขนบข้างด้วยผืนหญ้าที่ส่งสารถึงความเป็นธรรมชาติ ชื่อของคอลเลคชั่นอย่าง ‘L’Oasi di Lino’ ที่มีความหมายในภาษาไทยว่า ‘โอเอซิสแห่งลินิน’ ก็พอสรุปความได้ว่าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของเซนญ่าในครั้งนี้มีความยึดโยงเข้ากับเรื่องของความยั่งยืนและงานออกแบบจากวัสดุรักษ์โลกอย่างลึกซึ้ง
หลากหลายชิ้นงานในคอลเลคชั่นยังคงเอกลักษณ์ความเรียบหรูอันเป็นจุดแข็งสำคัญของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โครงสร้างเสื้อผ้ามีการออกแบบมาให้ส่งสารถึงกลิ่นอายความเป็นซัมเมอร์ได้อย่างแยบยล แม้ว่าบางดีไซน์จะมีการนำเอาลวดลายปริ้นมาสร้างลูกเล่นให้กับโททัลลุคอยู่บ้าง แต่การจับคู่โทนสีที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังยังคงเป็นพระเอกของโชว์ที่อย่างไม่เสื่อมคลาย นำเสนอผ่านลักษณะของไอเทมสาย Sartorial มากหน้า ไม่ว่าจะเป็น แจ็คเก็ต เสื้อถัก เบลเซอร์ และอื่นๆ ที่ร้อยเรียงเรื่องราวความเป็นซัมเมอร์แบบฉบับอิตาเลียนยุคใหม่ได้อย่างหรูหราในทุกมิติ
อ่านบทความเพิ่มเติม: ความน่าสนใจที่เกิดขึ้นใน Milan Fashion Week ประจำปี 2024