“…Milan Fashion Week 2024 หนึ่งในมหกรรมใหญ่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นประจำปีที่หลายคนต่างตั้งตารอได้ผ่านพ้นไปแล้ว สารพันนักออกแบบน้อยใหญ่ต่างพร้อมใจกันมาเผยโฉมความคิดสร้างสรรค์และผลงานการออกแบบสุดล้ำให้ผู้คนทั่วโลกได้ยลโฉมกันอย่างไมขาดสาย ตอกย้ำภาพจำความเป็นหนึ่งในหัวเมืองแฟชั่นหลักที่ยืนอยู่เคียงข้างกับ London Fashion Week New York Fashion Week และ Paris Fasion Week ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แต่แล้วมีเหตุการณ์หรือคอลเลคชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้างสำหรับเทศกาลเมืองแฟชั่น ณ กรุงมิลานในครั้งนี้ #Legend จะพาคุณไปรับชมพร้อม ๆ กัน…”
Fendi Fall/Winter 2024
แบรนด์สัญชาติอิตาลีระดับตำนานที่พวกเราหลงรัก ครั้งนี้ Fendi นำเสนอคอลเลคชั่นเครื่องแต่งกายผ่านแนวคิดการผสมผสานอัตลักษณ์ความนิ่งเรียบแบบฉบับอังกฤษเข้ากับดีเทลมากสไตล์ในแบบฉบับอิตาลีได้อย่างกลมกล่อม ที่ทางผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของเสื้อผ้าสตรีอย่าง Kim Jones ได้ทำการคัดสรรอย่างตั้งใจ เพื่อถ่ายทอดสเน่ห์ชวนหลงใหลจากโครงสร้างของเสื้อผ้าที่มีความเฟมมินินให้ทุกคนได้ยลโฉม โดยไม่ทิ้งไปซึ่งฟังก์ชั่นการสวมใส่ที่ประยุกต์ใช้กับลุคต่าง ๆ ได้ในทุกวัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของวิธีการนำเสนอสไตล์ชวนสะกดบนรันเวย์ อาจกล่าวได้ว่าการมิกซ์แอนด์แมทช์ของ Fendi ในส่วนของเสื้อผ้าสตรีมีความเกี่ยวเนื่องกับการจัดลุคของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นสุภาพบุรุษอยู่กลายๆ รองเท้าบู๊ทหนังสำหรับการขี่ม้าในหลากหลายสีสันและความยาว คือจุดนำสายตาที่ทรงพลังยิ่งสำหรับการจัดแสดงโชว์ครั้งนี้ ที่นอกจากจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมโดยรอบแล้ว องค์ประกอบนี้ยังกระซิบบอกถึงประวัตศาสตร์ของแบรนด์ ความร่วมสมัยเหนือการเวลา และสเน่ห์ของงานฝีมือแบบฉบับของกรุงโรมันโบราณด้วยในเวลาเดียวกัน หากให้กล่าวสรุปโดยสั้น โชว์ของ Fendi ในครั้งนี้คือเครื่องย้ำเตือนถึงอัตลักษณ์สำคัญที่ก่อร่างให้ Fendi เป็น Fendi อย่างในทุกวันนี้ได้อย่างภาคภูมิ
Prada Fall/Winter 2024
หนึ่งในโชว์สำคัญที่ทุกคนต่างตั้งตารอใน Milan Fashion Week ครั้งนี้อย่าง Prada เลือกนำเสนอคอลเลคชั่นผ่านการดึงเอาอดีตและประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาตีความขึ้นใหม่ผ่านมุมมองที่มีความร่วมสมัยยิ่งขึ้น “แน่นอนว่าลุคต่างๆ บนรันเวย์นี้ไม่ได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยหมุดหมายที่จะอุทิศให้แก่ความโหยหาอดีต (nostalgia) หากแต่เป็นคอลเลคชั่นที่นำเอาความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาเป็นคอนเซปต์หลักของการสร้างสรรค์” Miuccia Prada หัวเรือใหญ่ของแบรนด์ได้ย้ำชัดถึงแนวความคิดหลักที่ใช้ในการสร้างสรรค์คอลเลคชั่น
ความน่าสนใจของคอลเลคชั่นนี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การออกแบบโชว์และรันเวย์ที่ดูเรียบง่ายแต่ดึงดูดความสนใจได้อย่างน่าฉงน หากแต่การตีความคอนเซปต์ข้างต้นผ่านการออกแบบโครงสร้างเสื้อผ้าให้มีกลิ่นอายย้อนยุคแต่ทว่าดูร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน จากสายตาของสองนักสร้างสรรค์ระดับตำนานอย่าง Miuccia Prada และ Raf Simons ทำให้ลุคชิ้นเรือธงที่รังสรรค์ผ่านชุดเดรส กระโปรงยาว หรือแจ็คเก็ตทรงเทเลอร์ที่ถูกนำมาเล่นแร่แปรธาตุร่วมกับเครื่องประดับชิ้นทันสมัยคือสิ่งที่คาดหวังได้จากรันเวย์นี้
Gucci Fall/Winter 2024
แบรนด์ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมหกรรมการยกเครื่องแบบสุดโต่งของอุตสาหกรรมแฟชั่น ณ ขณะปัจจุบัน Gucci ภายใต้แนวทางใหม่ของ Sabato De Sarno ผู้สร้างกระแสครั้งมโหฬารมาก่อนแล้วในคอลเลคชั่นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษประจำฤดูกาล Fall/Winter 2024 ซึ่งในครั้งนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักเมื่อรายละเอียดของยุค 1950s ถูกนำกลับมาสู่อาณาจักรแห่งนี้อีกครั้ง ถ่ายทอดผ่านโครงสร้างที่เรียบง่ายแต่ทว่าหรูหราอันเป็นอัตลักษณ์ประจำห้องเสื้อแห่งนี้ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ที่ถูกรังสรรค์ให้เหนือระดับขึ้นไปอีกขึ้นผ่านรายละเอียดมากเรื่องราวทั้งลายพิมพ์ งานปักงานถัก ไปจนถึงสารพันกระเป๋าและเครื่องประดับเลอค่าที่ถูกร้อยเรียงสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับลุคต่าง ๆ บนรันเวย์ ตอกย้ำกับผู้ที่ได้รับชมถึงการเปิดศักราชใหม่ที่แท้จริงของ Gucci โดยไม่ต้องเอ่ยคำจำกัดความใดๆ
Bottega Veneta Fall/Winter 2024
Bottega Veneta ภายใต้การนำของ Matthieu Blazy คือหนึ่งในความน่าสนใจแท้จริงของ Milan Fashion Week ในครั้งนี้ ด้วยหมุดหมายความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ “อาภรณ์หรู” ที่เหมาะสมต่อการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ทำให้สวยงามเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในสายตาของ Blazy หากแต่เรื่องของฟังก์ชั่นที่เหมาะสมต่อการใช้งานคือองค์ประกอบสำคัญที่เขาและทีมนักออกแบบให้ความสำคัญไม่แตกต่างกัน
นอกเหนือไปจากโครงสร้างเสื้อผ้าเข้ารูปที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ความร่วมสมัย เสื้อผ้าทรงหลวมและโอเวอร์ไซส์ที่ทำขึ้นอย่างตั้งใจคือหนึ่งองค์ประกอบที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคอลเลคชั่นได้อย่างน่าฉงน การจับคู่โทนสี ลายพิมพ์ จังหวะของเสื้อผ้า รวมไปถึงการสอดแทรกรายละเอียดแสนวิจิตรในจุดต่าง ๆ อย่างเหมาะสมคือสิ่งที่แบรนด์มากเสน่ห์แห่งนี้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงและเป็นความวิจิตรที่สามารถคาดหวังได้จากคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของ Bottega Veneta
Tod’s Fall/Winter 2024
ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ของแบรนด์อย่าง Matteo Tamburini นำ Tod’s มาสู่โฉมใหม่ที่สดใหม่ เรียบหรู สร้างสรรค์ และใช้งานได้จริงในเวลาเดียวกัน ด้วยธีมของรันเวย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางและการออกท่องโลกกว้าง พอจะสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่พบเห็นได้ว่าทำไม Deposito Tranviario Messina หรือสถานีรถไฟในใหญ่ที่สุดของกรุงมิลานถึงถูกนำมาใช้เป็นสถานที่ในการจัดแสดงโชว์ประจำฤดูกาล Fall/Winter 2024 ของแบรนด์ในครั้งนี้
ความเชี่ยวชาญในเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานด้วยหนังสัตว์ของแบรนด์ทำให้ภายในคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดนี้อุดมไปด้วยสารพัดเครื่องหนังมากรายละเอียดไม่ว่าจะเป็น เสื้อแขนกุด ชุดเดรส กระโปรง เสื้อคลุม หรือเสื้อเทรนช์โค้ทหลากดีไซน์ ที่จับคู่ร่วมกับโฉมงามชิ้นอื่น ๆ ในคอลเลคชั่นได้อย่างลงตัว ไม่เพียงเท่านั้น กระเป๋าและรองเท้าระดับไอคอนิคของแบรนด์อย่าง Di Bag Swing และ Gommino เองก็ถูกนำมารังสรรค์และถ่ายทอดใหม่อีกครั้งผ่านวัสดุและโทนสีที่สอดคล้องต่อธีมหลักของคอลเลคชั่น ทำให้รันเวย์ล่าสุดของ Tod’s ในครั้งนี้ เป็นเสมือนหลักฐานสำคัญที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำด้านงานฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ ความงามร่วมสมัย และความชำนาญชั้นบรมครูด้านเครื่องหนังของแบรนด์ได้อย่างไร้ข้อกังขา
Maxmara Fall/Winter 2024
Maxmara นำเสนอคอลเลคชั่นประจำฤดูกาล Fall/Winter 2024 ผ่านคอนเซปต์ที่ยึดโยงเข้ากับจิตวิญญาณของ Colette นักเขียนสาวชาวฝรั่งเศสผู้เป็นตำนาน เจ้าของบทประพันธ์เลื่องชื่ออย่าง Sleepless Night และ The Collected Stories of Colette ความน่าสนใจของคอลเลคชั่นนี้หาใช่เพียงเรื่องราวของเครื่องแต่งกายและวัสดุมากคุณภาพ หากแต่ยังรวมถึงการตีความอัตลักษณ์ของ Colette ที่แปลเปลี่ยนเป็นนิยามของความ “ทันสมัย บอบบาง แต่ทว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยสเน่ห์ชวนค้นหาอย่างล้ำลึก” ที่ส่งผ่านโครงสร้างของเสื้อผ้ากลิ่นอายเฟมมินินในโทนสีโมโนโครม ถ่ายทอดเรื่องราวที่มาได้อย่างตรงประเด็นผ่านสายตาของ Ian Griffiths ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ด้านงานสร้างสรรค์ของ Maxmara
MCM Autumn/Winter 2024
แบรนด์สัญชาติเยอรมันที่พวกเราคุ้นเคยกันดีอย่าง MCM ร่วมนำเสนอคอลเลคชั่นฤดูกาล Autumn/Winter 2024 ถ่ายทอดความเหนือระดับของคอลเลคชั่นที่เกิดขึ้นจากการผสานตำนานของแบรนด์เข้ากับนวัตกรรมล้ำสมั้ย นำเสนอผ่านการจัดแสดงภายใต้ชายคาของ Palazzo Serbelloni ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งภายในขึ้นใหม่ให้สอดคล้องต่อชื่อธีมชวนค้นหาอย่าง “Munich to Mars” ผ่านสายตาและการกำกับดูแลของ Katie Chung ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ด้านงานสร้างสรรค์ของแบรนด์
MCM เผยถึงความน่าสนใจของงานออกแบบผ่านการนำเสนอคอลเลคชั่นที่นำเอาสไตล์ระดับไอคอนิคและลวดลายที่สื่อความถึงความถึงตัวตนของแบรนด์มาตีความขึ้นใหม่ผ่านวัสดุล้ำสมัยเช่น เมทัลลิค หนังสังเคราะห์ ผ้าไนล่อนรีไซเคิล และอีกมากมาย ผ่านรูปแบบของไอเทมที่มีความหลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไปจนถึงน้ำหอม เป็นสัญญะที่บอกเล่าถึงความโดดเด่นด้านทักษะงานฝีมือ ที่ผนวกเข้ากับความสดใหม่ในแง่มุมของงานออกแบบได้อย่างน่าสนใจ
อ่านบทความเพิ่มเติม: What did we see at Milan’s men fashion week 2024?
