“…หากกล่าวถึงดีไซเนอร์สัญชาติอิตาเลียน ชื่อของโดมินิโค โดลเช่ และ สเตฟาโน กาบบานา (Domenico Dolce และ Stefano Gabbana) สองดีไซเนอร์คู่บุญแห่งโดลเช่แอนด์กาบบานา (Dolce&Gabbana) น่าจะเป็นนักออกแบบลำดับแรกๆที่ทุกคนนึกถึง ดีไซเนอร์ผู้ถ่ายทอดความรุ่มรวยในศิลปะและวัฒนธรรมของอิตาลีมาสู่คอลเลคชั่นเสื้อผ้าที่หรูสง่า และมีรูปแบบเฉพาะตัวจนสร้างภาพจำอันน่าประทับใจให้กับคนรักแฟชั่น ประวัติศาสตร์งานดีไซน์กว่า 4 ทศวรรษได้ถูกรวบรวมและนำมาจัดแสดงในนิทรรศการ ‘From the Heart to the Hands’ ซึ่งจัดขึ้นที่ Palazzo Reale ในมิลาน…”

‘From the Heart to the Hands’ นำเสนอเรื่องเล่าการเดินทางแห่งจินตนาการสุดลึกล้ำของแฟชั่นเฮ้าส์แห่งนี้โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็นห้องต่างๆ ตามธีม สะท้อนเรื่องราวแรงบันดาลใจ และงานฝีมือตามแบบฉบับของอิตาเลียนที่ต่อยอดมาจากความคิดสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์คู่ดูโอ้ จัดแสดงเป็นห้องต่างๆ พร้อมผสมผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิตัลอาร์ตมาช่วยให้การบอกเล่าเรื่องราวได้เข้าถึงผู้ชมในหลากหลายประสาทสัมผัส ห้องจัดแสดงทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 10 ห้อง คือ I1 Fatto a Mano (the hand-made), Artistic glass and artisanal techniques, I1 Gattopardo (The Leopard), Devotion, Tailoring, Ornament and Volume, Architectural and pictorial clothing, Sicilian traditions, White baroque, The Dreams of Goddesses และ The Opera

แรงบันดาลใจในศิลปะหลากหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม, งานช่างฝีมือ, บัลเลต์, เอกลักษณ์ของเมืองในภูมิภาคต่างๆ ของอิตาลี, ดนตรี, โอเปร่า, โรงละคร รวมถึงแนวคิดการใช้ชีวิตอันหอมหวานในนิยาม “la dolce vita” ได้ถูกต่อยอดมาสู่โครงชุดที่มีความหรูหราไม่ซ้ำใคร เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน บางครั้งก็มีความขบถ และอารมณ์ขันตามคาแร็คเตอร์ของสองนักออกแบบ  มากไปกว่านั้นคือการประดับตกแต่งแบบ Maximalism ทั้งเสื้อผ้าและอาภรณ์ 

ซึ่งเราจะได้เห็นจากการจัดแสดงไม่ว่าจะเป็นห้อง Artistic glass and artisanal techniques ห้องจัดแสดงเสื้อผ้าชั้นสูงทั้งชายและหญิงที่ประดับตกแต่งด้วยคริสตัลที่สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือชาวเวนิส ภายในห้องกระจกนั้นประดับประดาอย่างหรูหราด้วยศิลปะการรังสรรค์เครื่องแก้ว Barbini and Barovier & Toso และแชนเดอร์เลียร์  ห้อง The Dreams of Goddesses ที่ด้านหนึ่งจำลองเป็น the Temple of Concordia จัดแสดงเสื้อผ้าชั้นสูงในคอลเลคชั่น the Valle dei Tempi in Agrigento ซึ่งโดดเด่นด้วยลวดลายพิมพ์รูปเทพเจ้า อีกด้านหนึ่งสวยสะดุดตาด้วยการตกแต่งผนังโมเสกสีทอง พร้อมจัดวางหุ่นที่สวมใส่เสื้อผ้าที่ปักประดับเป็นรูปเทพเจ้าด้วยเลื่อม ลูกปัด และคริสตัลหลากเฉดสี

นิทรรศการครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างภัณฑรักษ์ชื่อดัง  Florence Müller ที่ทำงานร่วมกับสองดีไซเนอร์อย่างใกล้ชิด และอำนวยการสร้างโดย IMG อีกทั้งทีมงานฝ่ายทัศนศิลป์ของโดลเช่แอนด์กาบบานายังมีส่วนร่วมในการตกแต่งและจัดวางดิสเพลย์เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์อันเด่นชัดของแบรนด์ ภายใต้สถาปัตยกรรมอันงดงามของพระราชวัง Palazzo Reale ที่อยู่มายาวนานหลายศตวรรษ เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมเเละศิลปะระดับนานาชาติ นิทรรศการครั้งนี้จะจัดแสดงที่มิลานจากวันที่ 7 เมษายนเรื่อยไปจนถึงวันที่ 31 ก่อนจะหมุนเวียนไปจัดแสดงในประเทศต่างๆต่อไป

รูปภาพจาก: Dolce&Gabbana

อ่านบทความเพิ่มเติม: Fendi Men collaborated with Kengo Kuma to unveil its exclusive accessories collection