“…นิทรรสการที่รวบรวมสุดยอดผลงานเชิงเครื่องประดับระดับลักซ์ชัวรี่และสารพันของสะสมโบราณล้ำค่า…”
เครื่องประดับชั้นสูงนั้นเปรียบเสมือนผลงานศิลปะล้ำค่าที่รังสรรค์ขึ้นโดยทักษะอันเชี่ยวชาญของช่างฝีมือที่ประณีตบรรจงและพิถีพิถัน ล่าสุดนี้แบรนด์ CHAVANA ได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 110 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ผ่านนิทรรศการ ‘Timeless Treasures: From the Far East; Influence of Oriental Aesthetics’ ที่รวบรวมผลงานของสะสมโบราณและเครื่องประดับระดับมาสเตอร์พีซจากแบรนด์มาไว้ในที่เดียว ที่ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากอารยธรรมตะวันออกที่สะท้อนความเป็นนิรันดร์แห่งความงดงามของศิลปะสไตล์ Orientalism ที่อนุญาตให้ทุกคนได้ยลโฉมแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 สิงหาคมนี้ ที่แกลเลอรี ATT 19 เจริญกรุง 30
เครื่องประดับชั้นสูงจากแบรนด์ CHAVANA ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2014 โดยทายาทรุ่นที่ 4 ในวาระเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบธุรกิจเครื่องประดับของต้นตระกูลอย่าง ‘เมี้ยนเต็ก’ (Mian Teck) ซึ่งเป็นร้านเครื่องประดับรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สายตาในวงการเครื่องประดับทั้งในระดับสากลมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี ทางแบรนด์ได้สืบทอดและอนุรักษ์เทคนิคการทำเครื่องประดับสไตล์ European Craftsmanship จากบรรพบุรุษ โดยได้หยิบยกเรื่องราวจากงานศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่างๆ จากทั่วโลกในหลากหลายยุคสมัยมาตีความใหม่ผสมผสานความเรียบโก้สไตล์โมเดิร์น ถ่ายทอดสู่เครื่องประดับที่มีความประณีตในทุกมิติของรายละเอียด เต็มเปี่ยมไปด้วยงดงามเหนือกาลเวลา
โดยความเป็นซิกเนเจอร์ของ CHAVANA ไม่ใช่เรื่องอื่นใด หากแต่เป็นความช่ำชองในเรื่องของเทคนิคและกระบวนการทักษะงานช่างชั้นสูงของแบรนด์ โดยจำแนกออกเป็นทั้ง 4 เสาสำคัญ อันได้แก่ Beaded Edge เทคนิคการเรียงร้อยเม็ดบีดส์ที่มีขนาดเล็กไปตามขอบของตัวเรือน โดยช่างฝีมือได้ใช้มือขึ้นรูปและรังสรรค์เม็ดบีดส์เล็กๆ เหล่านี้ด้วยความแม่นยำทีละเม็ดเพื่อให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กกว่า 0.25 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Gemstone Mosaic เทคนิคที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะโมเสกของชาวโรมันโบราณ เทคนิคการประดับโมเสกอัญมณีด้วยอัญมณีคุณภาพสูงที่หลากสีสันและรูปร่างมาเรียงร้อยราวกับภาพวาดเพื่อให้เกิดความวิจิตรงดงาม
Petit-Point เทคนิคการเย็บปักถักร้อยแบบฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 18 และใช้ในการทำงานผ้าที่มีความหรูหรา เทคนิคนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับโลหะ ผ่านการฝนทองคำให้บางและละเอียดจนดูเหมือนเส้นไหม และท้ายสุดกับ Embroidered Gold เทคนิคการถักทอลวดลายบนโลหะ มีการยกนูนด้วยการตอกและการฉลุเพื่อสร้างเอฟเฟกต์หลายมิติคล้ายกับการปักไหมที่มีลวดลายอยู่บนพื้นหลัง เพื่อให้ชิ้นงานมีลวดลายหลักที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์
โดยภายในงานนิทรรศการ “Timeless Treasures: From the Far East; Influence of Oriental Aesthetics” ได้จัดโชว์ผลงานเครื่องประดับล้ำค่ามากมายที่มาจากคอลเลคชั่น The Momentous อันเป็นผลงานชิ้นเอกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมและอารยธรรมโลกตะวันออกที่ค้นหาและค้นคว้าจากตำนานเรื่องเล่าและเทพนิยาย นำมาสู่ธีมการสร้างสรรค์ผลงาน One-of-a-kind Wonders ซึ่งแต่ละชิ้นประกอบซ้อนสลับไว้ด้วยสัญลักษณ์แฝงนัยความหมายต่างๆ โดยชิ้นไฮไลท์ที่ถูกนำมาจัดโชว์ภายในงานนิทรรศการครั้งนี้ประกอบด้วย กำไลข้อมือหลงเหมิน, เข็มกลัดมังกร, เข็มกลัดผีเสื้อ, เข็มกลัดหมูมังกร, อิเคบานะบนแจกันหยกสีลาเวนเดอร์
“เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 110 ปี ของธุรกิจการทำเครื่องประดับชั้นสูงจากบรรพบุรุษ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 จากร้านเล็กๆ เติบโตสู่ธุรกิจส่งออกเครื่องประดับระดับไฮเอนด์กลายเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล ซึ่งเรานับเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ CHAVANA เพื่อสืบสานการทำเครื่องประดับชั้นสูงที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นด้วยผลงานจากช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ ซึ่งในโอกาสพิเศษนี้เราจึงอยากนำงานเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามและหาชมได้ยากมาจัดแสดงให้ทุกคนได้สัมผัสด้วยสายตาตนเอง”
อรุษา ศิริไกร ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารการตลาดแบรนด์ “ชวนา” (CHAVANA)
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมยลโฉมความเหนือระดับแห่งงานออกแบบเครื่องประดับชั้นสูงของ CHAVANA ได้ที่ แกลเลอรี ATT 19 เจริญกรุง 30 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 สิงหาคม 2025
อ่านบทความเพิ่มเติม: COCO CRUSH เครื่องประดับสะท้อนตัวตนของ Gabrielle Chanel และความงามอันไร้กาลเวลาผ่านงานดีไซน์รูปแบบใหม่ จาก CHANEL
