Logo Hashtag Legend

Van Cleef & Arpels รังสรรค์ผลงานเครื่องประดับนำโชคอันเลอค่าชิ้นใหม่ ในคอลเลกชัน ‘Alhambra’

Author: Pimpichaya Chaikittiporn | Photographer: Courtesy of Van Cleef & Arpels

Sep 04, 2024

“...คอลเลกชัน ‘Alhambra’ ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีตและพิถีพิถันขึ้นในปี ค.ศ 1968 และได้ก้าวสู่ความนิยมในฐานะ ‘เครื่องประดับนำโชค’ ด้วยโมทิฟรูปใบโคลเวอร์สี่แฉกที่เต็มไปด้วยมิติของทองคำสีเหลืองสลักลายริ้วรัศมีตะวัน “guilloché” และได้ถูกนำมาร้อยเรียงร่วมกับโมราสีฟ้า blue agate ในผลงานชิ้นใหม่อย่างตัวเรือนนาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra และแหวน Vintage Alhambra รุ่นโมทิฟหัวแหวนพลิกสลับด้านได้ อีกทั้งยังมีจี้สร้อยคอหนึ่งรุ่นกับต่างหูหนึ่งคู่รองรับงานประดับโมราสีฟ้าสดเป็นบทเติมเต็มผลงานชุดนี้…” 

คอลเลกชัน ‘Alhambra’  ถูกรังสรรค์ขึ้นเมื่อปี 1968 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังและป้อมปราการอันงดงามที่ตั้งอยู่ ณ เมืองกรานาดาแห่งแคว้นอันดาลูเซียของประเทศสเปน โดยพระราชวังแห่งนี้เป็นที่รู้จักดีในด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่วิจิตรงดงาม เครื่องประดับในคอลเลกชันนี้โดดเด่นไปด้วย โมทิฟรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉกซึ่งถูกร้อยเรียงประกอบเข้าด้วยกันเป็นเครื่องประดับและตั้งชื่อตามลวดลายตกแต่งภายในพระราชวังแห่งนี้  ซึ่ง Alhambra ก้าวสู่ความนิยมในฐานะ “เครื่องประดับนำโชค” ตามความหมายเชิงสัญลักษณ์ของรูปทรงใบโคลเวอร์สี่แฉก และ มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของความหลากหลายทางรูปแบบการใช้งาน, การเลือกวัสดุ รวมถึงขนาดของแผ่นโมทิฟ ซึ่งในปีนี้เครื่องประดับในคอลเลกชันนี้ถูกรังสรรค์ให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น อาทิ ความลึกเชิงมิติของทองคำสีเหลืองสลักลายริ้วรัศมีตะวัน “กวิโญเช” (guilloché) ถูกนำมาเรียงร้อยร่วมกับประกายล้อแสงไล่เฉดของโมราสีฟ้า blue agate บนตัวเรือนนาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra และแหวน Vintage Alhambra รุ่นโมทิฟหัวแหวนพลิกสลับด้านได้ อีกทั้งยังมีจี้สร้อยคอหนึ่งรุ่นกับต่างหูหนึ่งคู่รองรับงานประดับโมราสีฟ้าสดถือว่าเป็นเครื่องประดับที่มีความวิจัตรงดงามและควรค่าแก่การครอบครอง 

นอกจากนี้คอลเลกชันดังกล่าวได้รังสรรค์ศิลปะการสวมใส่เครื่องประดับในชีวิตประจำวันผ่านบรรดาเครื่องประดับอันงดงามและตอบรับกับทุกความปรารถนา และเมื่อปี ค.ศ. 2023 ทางแบรนด์ได้ออกแบบแหวน ‘Vintage Alhambra’ สไตล์ใหม่ รองรับโมทิฟหัวแหวนพลิกกลับสลับด้าน อันถือเป็นลูกเล่นสืบทอดธรรมเนียมนิยมของเมซงในการสรรค์สร้างเครื่องประดับทซึ่งอำนวยต่อการดัดแปลง พลิกแพลงวิธีสวมใส่ได้อย่างแยบคาย ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของแหวนดังกล่าวคือ หัวแหวนที่อำนวยต่อการพลิกกลับสลับด้านได้ อาศัยการประกบคู่ระหว่างโมทิฟทองคำสีเหลืองสลักลายริ้วรัศมีตะวันฝังเพชรเดี่ยวตรงกึ่งกลางในด้านหนึ่งเข้ากับโมทิฟอีกด้านรองรับงานฝังแผ่นโมราสีฟ้าสด โดยยังคงรายละเอียดลูกปัดเดินขอบคู่ขนานล้อมกรอบในฐานะสัญลักษณ์ทางการออกแบบประจำคอลเลกชัน

อีกหนึ่งเครื่องประดับในคอลเลกชันอันเลอค่านี้ คือนาฬิกาข้อมือที่เริ่มต้นผลิตขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1998 ซึ่งได้ผ่านการรังสรรค์และวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเรือนเวลาสไตล์ใหม่ อาทิ ‘Sweet Alhambra’ กับผลงานใหม่เรียงร้อยโมทิฟทองคำสีเหลืองสลักลายริ้วรัศมีตะวันกวิโญเชสลับกับโมทิฟโมราสีฟ้าสด นำมาซึ่งลีลาตัดสีเจิดจ้าจรัสตา ด้วยกระบวนการสร้างสรรค์สิบห้าขั้นตอนถูกดำเนินขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเคร่งครัดในการคัดเลือกรัตนชาติ ความละเอียดอ่อนทางการจับคู่สีวัสดุเลอค่า และ ความพิถีพิถันในงานฝังรงคศิลาขึ้นตัวเรือน จนถึงความประณีตระหว่างติดตั้งกลไกขับเคลื่อนลงกรอบหน้าปัด และงานประกอบพื้นหน้าปัดเพื่อให้กำเนิดผลงานรุ่นนี้ โมทิฟแต่ละแผ่นจะถูกช่างฝีมือเครื่องประดับนำมาจัดวางลงระหว่างวงล้อมลูกปัดเดินขอบบนโครงสร้างเขี้ยวหนามเตย ก่อนบรรจงดัดโค้งเส้นโลหะเล็กละเอียดสุดบอบบางเหล่านั้นให้พับลงจนตัวลูกปัดยึดตรึงแผ่นรัตนชาติติดกับตัวเรือนได้อย่างแน่นหนา และมั่นคงด้วยความชำนาญ จากนั้น จึงดำเนินขั้นตอนขัดผิวลำดับสุดท้ายเพื่อทวีประกายเงางามให้แก่เรือนเวลา 

อ่านบทความเพิ่มเติม: Armin Strom นำเสนอเรือนเวลาสุดพิเศษใหม่ภายใต้ชื่อโมเดล Dual Time Resonance GMT

RECOMMENDED READS