“… ทุกความสำเร็จล้วนมีจุดเริ่มต้นเสมอ สำหรับ “เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย” นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ ที่เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยความมุ่งมั่นและความรักในศิลปะการแสดง ผ่านเส้นทางที่ท้าทายและเต็มไปด้วยแรงกดดัน จนก้าวขึ้นมายืนอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์ และนี่คือเรื่องราวของเขา เส้นทางของเด็กหนุ่มผู้เริ่มต้นจากความฝันเล็กๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยสู่การเป็นนักแสดงที่พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีความฝันแบบเดียวกัน…”
เส้นทางฝันของ ‘เก่ง หฤษฎ์’ ที่เกือบหยุดลง…ก่อนโอกาสครั้งใหม่จะเปลี่ยนชีวิต
KH: เริ่มแรกผมเรียนครูที่จังหวัดพะเยา และหางานด้วยการเข้ามาประกวดที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาก็ได้รับโอกาสเข้ามาหางานที่กรุงเทพ มาอยู่กับอาเจนซี่นายแบบแห่งหนึ่ง ตอนนั้นก็จำได้ว่าเข้ามาแคสติ้งโฆษณา เดินแบบ สาเหตุที่เราอยากลองทำงานในวงการบันเทิงเพราะเราอยากจะแบ่งเบาภาระของครอบครัวให้ได้มากที่สุด ตอนนั้นมีความหวังว่าเราจะได้เป็นนักแสดง และก็อยู่ในช่วงค้นหาตัวเองว่าเราอยากจะประกอบอาชีพคุณครูจริงๆหรือเปล่า ถ้ามีโอกาสเข้ามาหาเราแล้ว เราควรที่จะคว้ามันเอาไว้ไหมแต่ก็ยังมีความย้อนแย้งในใจว่า…โอกาสในวงการบันเทิงอาจจะยากไปสำหรับเราแล้ว ด้วยความที่อายุเริ่มเยอะขึ้น เลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้จบ แต่สุดท้ายก็ได้รับโอกาสจากพี่อ๊อฟ Domundi อีกครั้งเลยมีโอกาสได้กลับเข้ามาในวงการบันเทิง..นั่นเป็นจุดที่เปลี่ยนชีวิตของผมไปเลย”
ผลงานแรกใน DMD Friendship ที่ทำให้ทุกคนรู้จัก เก่ง หฤษฎ์ สู่บทบาทใหญ่สุดประทับใจใน ‘วิมานหนาม’
KH: ผลงานแรกๆของผม อาจจะไม่ใช่ผลงานใหญ่ แต่เป็นผลงานที่ทำให้ผมได้เจอเพื่อนๆและได้พัฒนาตัวเอง นั่นก็คือ DMD Friendship the Reality ผมได้มีโอกาสทำหลายอย่างมากๆ เช่น เวิร์กช็อป ในแต่ละมิชชั่น ผมได้อยู่กับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่สนุกและมีความสุขมาก แต่ผลงานที่นับว่าเป็นผลงานใหญ่ที่สุดในวงการบันเทิง ก็น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องวิมานหนาม ที่เราได้รับบทเป็น ‘จิ่งนะ’ เป็นโอกาสทางการแสดงที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ”
ประสบการณ์ในการรับบทตัวละคร ‘จิ่งนะ’ ใน ‘วิมานหนาม’ สร้างให้เขาเติบโตทั้งทางด้านจิตใจและด้านการแสดง
KH: การที่ได้แสดงในเรื่องนี้ให้อะไรกับเราเยอะมาก พี่บอสผู้กำกับเคยบอกกับผมว่า ถ้าผ่านเรื่องนี้ไปได้ ผมน่าจะทำงานในวงการบันเทิงได้สบาย เพราะว่า รายละเอียดมันเยอะมากๆ ตั้งแต่การเวิร์กช็อป การไปสวนทุเรียนจริงๆ เพื่อจะไปดูว่าการปลูกทุเรียนเป็นอย่างไร ไปอยู่สถานที่ถ่ายทำจริงๆ เพื่อจะได้ทำความคุ้นเคยกับต้นไม้ อุปกรณ์ต่างๆ ผมจำได้ว่าเราสร้างฉากเกือบสิบครั้งได้ ผมเข้าไปดูทุกการถ่ายทำ แม้ว่าฉากนั้นผมจะได้ได้ร่วมแสดง ผมพยายามและเรียนรู้เยอะมาก รวมถึงวิธีคิด แนวคิด ตัวละครด้วยเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าตัวละคร ‘จิ่งนะ’ มันมีความซื่อ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเทาๆอยู่ในตัว บทบาทนี้ทำให้ผมได้เห็นมุมมองของการที่เราจะรักใครสักคนโดยที่ไม่ได้คิดถึงตัวของตัวเองเลย มันเป็นความรักจริงๆ มีฉากหนึ่งที่เรานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เรารู้สึกเหมือนได้กลับไปปีที่แล้วตอนที่เราอยู่บ้าน ฉากนั้นทำให้ผมตกตะกอนอะไรบางอย่างและได้กลับมาคิด ได้เตือนตัวเองในเรื่องบางอย่างที่ไม่ควรทำ หรือเรื่องบางเรื่องที่มันเคยดีอยู่แล้วแต่เราละเลยไป”
เก่ง หฤษฎ์ ฝากถึงคนที่กำลังเดินไปตามเส้นทางความฝันของตัวเองว่า ‘การรักและเชื่อมั่นในตัวเอง’ นั้นสำคัญที่สุด
KH: ผมอยากให้ทุกคนมีกำลังใจในการใช้ชีวิต และหาเป้าหมายของตัวเองให้เจอ เพราะว่าผมคงไม่สามารถบอกทุกคนได้ว่าเส้นทางที่ทุกคนเดินอยู่ มันจะเป็นแบบผมหรือเปล่า บางคนอาจจะมีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนน่าจะมีเหมือนกันคือ การรักตัวเอง ถ้าเรารักตัวเองมากพอเราก็สามารถพาคนรอบข้างเราไปได้ด้วย ก็อยากให้รักตัวเองเยอะๆและก็เชื่อมั่นว่า ตัวเองทำได้ อย่าเพิ่งยอมแพ้”
และนี่คือเรื่องราวของเขา เส้นทางของเด็กหนุ่มผู้เริ่มต้นจากความฝันเล็กๆสู่การเป็นนักแสดงที่พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีความฝันแบบเดียวกัน…สามารถอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่นิตยสาร Hashtag Legend Thailand ฉบับเดือนมีนาคม เท่านั้น
อ่านบทความเพิ่มเติม: Exclusive Interview: สัมภาษณ์พิเศษกับ พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ในวันที่ต้องขึ้นเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มศิลปินฝึกหัด one TRAINEE
