Logo Hashtag Legend

Mini Royal Oak เรือนเวลาจาก Audemars Piguet ที่หลอมรวมศาสตร์และศิลป์งานออกแบบเครื่องประดับและเรือนเวลาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of Audemars Piguet

Aug 14, 2024

"...หากพูดถึงหนึ่งเรือนเวลาคลาสสิกที่ผู้คนอยากได้มาไว้ในครอบครองมากที่สุดนั้นย่อมมีงานออกแบบในคอลเลคชั่น Royal Oak จาก Audemars Piguet รวมอยู่ด้วยแน่นอน ขอบตัวเรือนรูปทรงแปดเหลี่ยมและสายในวัสดุทองล้ำค่าให้ความรู้สึกสปอร์ตล้ำสมัยที่สามารถสวมใส่เป็นเหมือนแอ็กเซสเซอรี่ชิ้นสวยนี้ได้รับความสนใจมานับตั้งแต่เรือนเวลารุ่นนี้เปิดตัวในช่วงปี 70s และในปีนี้  Audemars Piguet ได้เปิดตัว Mini Royal Oak ในรูปโฉมใหม่ที่ผสมผสานงานศิลป์เครื่องประดับเข้ากับเรือนเวลาได้อย่างลงตัว..."

Gérald Genta ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบเรือนเวลารุ่นดังให้กับแบรนด์นาฬิกามากมาย เขาได้ออกแบบนาฬิการุ่น Royal Oak ขึ้นมาในปี 1972 โดยนาฬิกาต้นแบบนั้นเปี่ยมด้วยกลิ่นอายสปอร์ตมาสคิวลิน ตัวเรือนและสายทำจากสตีลที่ผ่านการทำทรีตเมนต์เช่นเดียวกับทองหลังจากนั้นสี่ปี Jacqueline Dimier ผู้ดำรงตำแหน่ง Head of Product Design ในช่วงเวลานั้นได้ออกแบบนาฬิการุ่นนี้สำหรับผู้หญิงขึ้นมาโดยยังคงเอกลักษณ์ของนาฬิกาต้นฉบับไว้ ด้วยการออกแบบตัวเรือนให้มีขนาด 29 มม.ขอบหน้าปัดสตีลรูปทรงแปดเหลี่ยมตกแต่งหมุดรูปทรงหกเหลี่ยมทั้งแปดมุมไว้

 

สำหรับปีนี้ Mini Royal Oak เผยโฉมในตัวเรือนขนาด 23 มม. ที่ออกแบบมาให้รับกับข้อมือของผู้หญิงได้ลงตัว เป็นขนาดที่ได้ถูกปรับมาจากนาฬิกา Mini Royal Oak ในปี 1997 ซึ่งมีตัวเรือนขนาดเล็กเพียง 20 มม. ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ที่มีขนาดบางที่สุดในช่วงเวลานั้นเช่นกัน ในคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ตัวเรือนและสายในเฉดสีทองสามเฉดรังสรรค์ในวัสดุ Frosted Gold ทองที่ได้รับการตกแต่งด้วยเทคนิคพิเศษให้เกิดพื้นผิวที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดฝ้าน้ำแข็ง ด้วยกรรมวิธีการตอกผิวทองคำด้วยสลักหัวเพชรอย่างประณีตให้เกิดเป็นรอยประทับขนาดเล็กบนพื้นผิวของทอง เป็นเทคนิคโบราณในการตกแต่งผิวโลหะของช่างฝีมือแห่งเมืองฟลอเรนซ์ที่เรียกกันว่า Florentine Technique ซึ่ง Carolina Bucci ได้เคยนำมาสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษร่วมกับ AP ในโอกาสครบรอบ 40 ปีนาฬิการุ่น Royal Oak ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ผู้หญิง ในส่วนของหน้าปัดนั้นได้ถูกดีไซน์ออกมาในรูปแบบ tone-on-tone Petite Tapisserie ซิกเนเจอร์เด่นของนาฬิการุ่นนี้ 

นอกจากรูปโฉมของ Mini Royal Oak รุ่นใหม่นี้จะเหมาะสำหรับการสวมใส่เป็นเครื่องประดับสำหรับผู้หญิงแล้ว ยังขับเคลื่อนด้วยระบบควอตซ์ Calibre 2730 ที่สามารถทำงานได้ยาวนานถึงเจ็ดปี นับเป็นนวัตกรรมแห่งเวลาที่มีความล้ำสมัยที่ถูกบรรจุในงานดีไซน์อันน่าหลงใหล นับเป็นผลงานการออกแบบของ Audemars Piguet ที่นับเป็นไฮไลท์สำคัญที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้

อ่านบทความเพิ่มเติม :งานดีไซน์กระเป๋าโมเดิร์นสุดวิจิตรจาก Bulgari ผ่านมุมมองของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์เครื่องหนังคนล่าสุด Mary Katrantzou 

RECOMMENDED READS