เมื่อลวดลาย Damier อันคลาสสิกถูกตีความใหม่ผ่านคอลเลคชั่นเครื่องประดับอันล้ำสมัยจาก Louis Vuitton
Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of Louis Vuitton
Sep 26, 2024
"...นอกเหนือไปจากลวดลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton แล้วยังมีลายกราฟิกตารางหมากรุกอย่าง Damier ที่ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นแฟชั่นไอเท็มมากมายนับจากอดีตมาจนปัจจุบัน Francesca Amfitheatrof ได้นำลายตารางอันคลาสสิกนี้มาออกแบบเป็นเครื่องประดับที่มีความร่วมสมัยและน่าสวมใส่ในคอลเลคชั่น ‘Le Damier de Louis Vuitton’ ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจสาวกของแบรนด์ #legend_th ได้มีโอกาสสัมผัสกับงานออกแบบในคอลเลคชั่นนี้ที่จัดแสดงใน Hotel Volney กรุงปารีส ในช่วงปารีสแฟชั่นวีคอย่างใกล้ชิด..."
Louis และ Georges Vuitton ได้สร้างสรรค์ลวดลายตารางอันคลาสสิกนี้ขึ้นมาในปี 1888 สัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์สินค้าของ Louis Vuitton สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบสินค้าของแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนิรันดร์อันได้แรงบันดาลใจมาจากเลขแปดเรียงกันสามตัวซึ่งเป็นปีที่ลายนี้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยลวดลายกราฟิกที่มีความทันสมัยนี้ได้ต่อยอดมาเป็นลวดลายบนเสื้อผ้าและเครื่องหนังมากมาย ซึ่งดลใจให้ Francesca Amfitheatrof ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แผนกนาฬิกาและเครื่องประดับหยิบยกมันมาเป็นไอเดียในการออกแบบจิวเวลรี่ชิ้นสวยเช่นกัน
เครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้น่าหลงใหลด้วยรูปทรงที่ทันสมัย ผสมผสานตัวเรือนทองเข้ากับเพชรได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นไวท์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ Francesca Amfitheatrof ได้ให้นิยามงานออกแบบของเธอว่ามันเป็นมากกว่าแค่เครื่องประดับ แต่เป็นการเฉลิมฉลองให้กับรูปทรงที่สร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน ถ่ายทอดออกมาเป็นเครื่องประดับรูปทรงเรขาคณิตที่โอบรับสรีสระร่างกายอย่างแนบเนียน ราวกับผืนผ้าแคชเมียร์ที่ถักทอขึ้นมาอย่างละเอียดอ่อน
The Distinctive Ring
เครื่องประดับซึ่งเป็นไฮไลท์ในครั้งนี้คือแหวนที่ไร้เส้นแบ่งทางเพศออกแบบมาให้สวมใส่ได้แบบวงเดี่ยวและสวมซ้อนกันอย่างมีสไตล์ แหวนตัวเรือนเยลโลว์โกลด์และไวท์โกลด์เผยโฉมในสามขนาดมีให้เลือกทั้งในรูปแบบตกแต่งเพชรสองแถวสลับกันเป็นลายหมากรุก และในรุ่นตัวเรือนทองตกแต่งเพชรสี่แถวที่ตัวเรือนมีความหนามากกว่าในรุ่นตกแต่งเพชรสองแถว แต่ละชิ้นงานนั้นเป็นเครื่องประดับที่บ่งบอกสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนได้อย่างลงตัว
Reinterpreting a Timeless Piece
กำไลเทนนิสเผยโฉมใหม่ด้วยการผสมผสานเสน่ห์แบบวินเทจเข้ากับสไตล์ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ด้วยแรงบันดาลใจจากการแข่งขันเทนนิส US Open ปี 1978 อันโด่งดัง ที่เกิดเหตุให้ต้องหยุดการแข่งขันชั่วคราวเนื่องจากกำไลเพชรของ Chris Everett ผู้เข้าแข่งขันนั้นหายไปในระหว่างการแข่ง งานออกแบบกำไลในครั้งนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานความสง่างามเข้ากับจังหวะการเคลื่อนไหว ตัวเรือนกำไลนั้นรังสรรค์ด้วยความประณีตเพื่อให้ตัวเรือนนั้นไร้รอยต่อและสวมใส่ได้อย่างสบาย แพทเทิร์นของการจัดเรียงเพชรอย่างต่อเนื่องนั้นดูสง่างามและในณะเดียวกันยังสื่อความหมายถึงความเป็นไปได้อันไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย นอกจากนั้นในคอลเลคชั่นนี้ยังมีดีไซน์ต่างหูห่วงตัวเรือนเยลโลว์โกลด์โดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิตประดับด้วยเพชร รวมถึงสร้อยคอโซ่ประดับจี้รูปทรงแหวนประดับเพชร งานดีไซน์ที่ออกแบบมาให้สวมใส่ได้ในทุกวัย ฉีกกฎเกณฑ์เส้นแบ่งทางเพศแบบเดิมๆ แต่ยังคงไว้ด้วยดีไซน์อันงดงามคลาสสิกไร้กาลเวลา
Francesca Amfitheatrof ได้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์อันล้ำสมัยผ่านงานออกแบบเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้ เธอได้กล่าวว่า " ‘Le Damier de Louis Vuitton’ เป็นงานดีไซน์เครื่องประดับยุคใหม่ ชิ้นงานที่มีความทันสมัยที่ออกแบบมาให้มีความงามอันไร้กาลเวลา” นับได้ว่านี่เป็นหนึ่งงานออกแบบจิวเวลรี่ที่ดีไซน์มาเพื่อเชิดชูความคิดสร้างสรรค์แห่งเครื่องประดับยุคใหม่อย่างแท้จริง
อ่านเพิ่มเติม: Bulgari และ Fender ร่วมกันออกแบบเรือนเวลาพิเศษหลอมรวมความงามของนาฬิกาชั้นสูงและดนตรีเข้าด้วยกัน
