October 15, 2024

Lorem ipsum 

“…สืบเนื่องจากการที่ #Legend_th ได้รับเกียรติร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์เหนือระดับด้านรสอาหารที่ งาน “La Dolce Vita Italian Night” ณ Castello di Bellagio ภัตตาคารสุดเอ๊กซ์คลูซีฟที่มกาด้วยความเหนือชั้นแห่งจานเด่นสไตล์อิตาเลียน วันนี้เราจึงขอรับหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดการเดินทางแห่งรสชาติสุดพิเศษในครั้งนี้ให้ผู้อ่านได้อิ่มเอมไปพร้อมๆ กัน…”

ณ ฉากหลังมากความโรแมนติกของปราสาทสง่าท่ามกลางสวนสวยในจังหวัดชลบุรี อันเป็นสถานที่ตั้งของงานเลี้ยงดินเนอร์สุดหรูหราในครั้งนี้ ที่นำเสนอออกมาภายใต้ธีม “La Dolce Vita: A Luxurious Italian Food & Wine Dinner” ทำให้ความโรแมนติกเป็นที่คาดหวังได้อย่างไม่ยากเย็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบรรยากาศโดยรวมถูกยกระดับขึ้นด้วยการบรรเลงสุดวิจิตรจากวงดนตรีสามชิ้น ทั้งไวโอลิน ดับเบิ้ลเบส และแซกโซโฟน

โดยพื้นที่ภายในได้รับการแปลงโฉมใหม่เพื่อส่งสารถึงเอกลักษณ์ของประเทศอิตาลีได้อย่างมีรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งโต๊ะด้วยสีสันที่สดใสของธงชาติอิตาลีอย่างสีเขียว ขาว และแดง พร้อมด้วยด้วยแก้วและลังไวน์สไตล์อิตาเลียนที่บรรจุองุ่น ใบไม้สีเขียว และเลมอนเอาไว้อย่างพร้อมสรรพ

และยิ่งเมื่ออีเวนท์สุดพิเศษในครั้งนี้ยึดโยงกับเรื่องของการเดินทางแห่งรสชาติ ความประทับใจชูโรงในครั้งนี้จึงไม่ใช่สิ่งอื่นใด นอกเสียจาก คอร์สมื้อค่ำที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันอย่างที่สุด โดยทั้ง 6 คอร์สสุดพิเศษในครั้งนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากวัตถุดิบชั้นเลิศในทุกรายละเอียด พร้อมแพริ่งร่วมกับไวน์ที่คัดสรรมาอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อแต่งเติมรสชาติและประสบการณ์ให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่แขกผู้ร่วมงานจะจินตนาการถึง โดยภายในงานยังได้รับผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์มาเข้าร่วมแบ่งปันความรู้และเคล็ดลับให้กับแขกทุกท่านอีกด้วย

โดยการเดินทางในครั้งนี้ได้ถูกปูทางด้วยเมนูที่เรียกว่า Amuse Bouche หรืออาหารเรียกน้ำย่อยสุดวิจิตรที่ทางแบรนด์ได้นำเสนอออกมาเป็นทั้งหมด 3 เมนูอันได้แก่ Smoked Salmon, Dill Cream, Red Grape, Smoked Oil – สโมคแซลมอนที่เสิร์ฟคู่กับซาวครีมรสเปรี้ยวเค็มที่อัดแน่นด้วยกลิ่นหอมสมุนไพร ปิดท้ายด้วยองุ่นแดงที่ให้สัมผัสหวานสดชื่น

Scallop, Lemon Mayo – สแกลลอปที่โพชอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟพร้อมเลมอนมาโยที่มีรสชาติหวานมันและความเปรี้ยวสดชื่น ฟินิชเมนูด้วยกลิ่นเลมอนที่ชวนดม เพิ่มความซับซ้อนในรสชาติ และ Octopus – ปลาหมึกที่นำไปย่าง ทาด้วยซิกเนเจอร์เกรซ เสริมรสชาติเปรี้ยวเผ็ดด้วย Capsicum puree ที่ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยเป็นการปิดท้าย

และเมื่อการโหมโรงด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยได้จบลง ก้าวแรกสู่ประสบการณ์จานพิเศษที่ลืมไม่ลงจึงได้เริ่มขึ้น โดยจานแรกได้ปรากฏโฉมในรูปแบบของ Rosso di Mazara Carpaccio – กุ้ง Rosso di Mazara จากประเทศอิตาลีที่เสิร์ฟแบบคาปาชิโอ ออนท็อปด้วยเลมอนเจลและเกรปฟรุ้ตเจล พร้อมเบิร์นด้วยไฟเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่น่ารับประทานยิ่งกว่า

Mangrove Jack – ปลากระพงแดงที่ผ่านการดรายเอจเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในเนื้อและย่างให้ได้รสชาติที่หอม เสิร์ฟคู่กับซอสจากกระดูกปลาที่มีความหอมและครีมมี่ พร้อมด้วยมูสปลาและผักที่นำไป Poached เพื่อเพิ่มเติมความเหนือระดับในทุกคำ

Ravioli Black Chicken, Truffle Sauce, Winter Truffle Slices – ราวิโอลีสตัฟด้วยไก่ดำจจากจังหวัดเชียงใหม่ที่ถูกแต่งเติมความเข้มข้นทางรสชาติด้วยการปรุงร่วมกับเห็ด เสิร์ฟพร้อมซอสแบล็คทรัฟเฟิลที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการใช้ทรัฟเฟิลสดฝานบางๆ

Dry-aged Free-Range Duck – เนื้อเป็ดที่ผ่านการดรายเอจให้ความหอมและเข้มข้น ก่อนนำไปย่างจนหนังกรอบ เสิร์ฟคู่กับไวน์แดงและมิกซ์เฮิร์บสลัดที่เพิ่มความสดชื่น

Aus. Wagyu Striploin – เนื้อออสวากิวสตริปลอยน์ที่ย่างจนได้กลิ่นหอม เสิร์ฟคู่กับซอสจูเนื้อ พร้อมด้วยเบบี้คอสย่างที่เพิ่มความกรอบและเข้ากันได้ดีกับรสชาติของเนื้อ

Panna Cotta – ปิดท้ายด้วยพานาคอตต้าเนื้อเนียนนุ่ม เสิร์ฟพร้อมซอสสตรอว์เบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่สด เพิ่มกลิ่นหอมด้วยบาซิลจูสและความกรุบกรอบด้วยเมอแรงค์ ปิดท้ายด้วยความสดชื่นของไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่เอลเดอร์ฟาล์วเวอร์ซอร์เบ เป็นการปิดท้ายค่ำคืนสุดพิเศษในครั้งนี้

อ่านบทความเพิ่มเติม: The St.Regis Bangkok จับมือ Peace和 Oriental Teahouse รังสววรค์ชุดน้ำชายามบ่ายสไตล์ตะวันออก

Share

Facebook
Pinterest
Twitter
LinkedIn

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search