Logo Hashtag Legend

เหลี่ยมเพชรที่มีรูปแบบเฉพาะตัวสะท้อนเอกลักษณ์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีความหมายภายใต้งานดีไซน์ชวนหลงใหล

Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of the Chaumet, Fred, Louis Vuitton, Prada

Jul 05, 2024

"...การเจียระไนเพชรในรูปแบบใหม่ที่ไม่ยึดติดกับแพทเทิร์นดั้งเดิมนับเป็นนวัตกรรมอันก้าวล้ำที่แต่ละแบรนด์ใช้เวลาคิดและสร้างสรรค์มันขึ้นมา มากไปกว่านั้นรูปทรงต่างๆ ยังได้สะท้อนเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งทำให้การเจียระไนต่างๆ นั้นชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น และนี่คือเหลี่ยมเพชรที่มีรูปแบบอันโดดเด่นจากสี่แบรนด์ดังที่เราคัดมาให้คุณได้รู้เรื่องราวภายใต้งานออกแบบชิ้นนั้น..."

Taille Impératrice cut

โชเมต์ (Chaumet) เครื่องประดับหรูชื่อดังจากฝรั่งเศสที่กำลังจะมาเปิดตัวที่ไทย เป็นหนึ่งแบรนด์ที่ได้สร้างสรรค์การเจียระไนที่มีรูปแบบเฉพาะตัวขึ้นมา Taille Impératrice มีความหมายว่าเหลี่ยมจักรพรรดิ ซึ่งตั้งชื่อตามพระนามของจักรพรรดินี โฌเซฟิน (Josephine) ลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์ โดยเพชรรูปทรงหกเหลี่ยมที่มีเหลี่ยมมุมมากกว่า 88 เหลี่ยมนี้สื่อความหมายถึงความร่ำรวยและโชคดี ทรงหกเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของรังผึ้ง ซึ่งจักรพรรดินี โฌเซฟินนั้นก็มีความหลงใหลในความงามของธรรมชาติด้วยเช่นกัน เพชรทรงหกเหลี่ยมนี้ได้ถูกนำมาแต่งแต้มลงใจกลางของแหวนไวท์โกลด์เป็นแหวนหมั้นที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร และยังได้นำไปประดับบนตัวเรือนไวท์โกลด์และเยลโลว์โกลด์รูปทรงหกเหลี่ยมในคอลเลกชั่น Bee My Love งานออกแบบระดับไอคอนิกของแบรนด์อีกด้วย

Hero Cut

Hero Cut เป็นเพชรรูปทรงพิเศษที่เฟร็ด (Fred Jewellery) ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ Valérie Samuel ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และรองประธานบริษัทได้ออกแบบเพชรดีไซน์พิเศษนี้เพื่ออุทิศให้กับพ่อของเธอ Fred Samuel สะท้อนความหลงใหลที่เขามีต่อท้องทะเลและแสงอาทิตย์ที่เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้กับเขา โดยออกแบบเพชรเป็นรูปเรือใบหรือหากจะมองเป็นรูปโล่กำบังก็ได้ เจียระไนให้มีเหลี่ยมมุมมากกว่า 32 เหลี่ยมซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาขึ้นมากว่า 6 เดือน รูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์นี้ยังสื่อความหมายถึงความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ และความหมั่นเพียร เพชรรูปทรง Hero Cut นี้ได้ถูกนำไปแต่งแต้มเครื่องประดับในคอลเลกชั่น  Force 10 ผลงานออกแบบระดับไอคอนิกของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแหวน กำไลข้อมือ หรือสร้อยคอ

ไม่เพียงเท่านั้น เฟร็ด จิวเวลรี่ยังได้พัฒนาเพชร lab-grown ที่สุกสกาวในโทนสีฟ้าจากคอลเลกชั่น Audacious Blue เปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยเพชร lab-grown ที่มีสีสันและรูปทรงเฉพาะตัวนี้ยังได้รับการรับรอง GIA-Certified จากสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา นับเป็นความตื่นเต้นในวงการจิวเวลรี่ทั้งรูปแบบการเจียระไนที่ไม่เคยมีมาก่อน และเพชร lab-grown ที่มีสีฟ้าลุ่มลึกไม่เหมือนใคร

LV Monogram Star

ไม่มีใครไม่รู้จักลวดลายโมโนแกรมจากหลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) สัญลักษณ์ที่ จอร์จ-หลุยส์ วิตตอง (Georges-Louis Vuitton) ออกแบบขึ้นเมื่อปี 1896 เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบหีบของหลุยส์ วิตตอง สร้างเอกลักษณ์ให้หีบของแบรนด์มีความแตกต่างจากหีบที่วางขายทั่วไปตามท้องตลาด และยังเป็นที่ระลึกถึงคุณพ่อที่จากโลกนี้ไปในปี 1892 โดยใช้ตัวอักษร LV ซึ่งเป็นชื่อย่อของหลุยส์ วิตตอง และโมทีฟดอกไม้สองมิติที่ได้แรงไอเดียมาจากศิลปะญี่ปุ่นซึ่งได้รับความนิยมในยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ดอกไม้โมโนแกรมที่อวดโฉมงดงามบนสินค้ามากมายของแบรนด์ได้เฉิดฉายอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งในคอลเลคชั่น LV Diamonds เพชรน้ำงามบริสุทธิ์ที่ผ่านการเจียระไนด้วยรูปแบบเฉพาะตัวโดยอาศัยทักษะชั้นสูงของช่างฝีมือ LV Monogram Star ผ่านการเจียระไนอย่างประณีตให้มีเหลี่ยมมากถึง 53 เหลี่ยมมีรูปทรงที่โดดเด่นเช่นเดียวกับโมทีฟดอกไม้โมโนแกรมปลายแหลมสี่แฉกของหลุยส์ วิตตอง 

ฟรานเชสก้า อัมฟิตเธียรอฟ (Francesca Amfitheatrof) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แผนกนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ได้นำ LV Monogram Star มาสร้างสรรค์เครื่องประดับในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแหวนตัวเรือนแพลตินัมประดับเพชร LV Monogram Star เม็ดเดี่ยว สร้อยคอเส้นบางประดับด้วยจี้ LV Monogram Star นอกจากความสวยงามของรูปทรงเพชรที่เป็นเอกลักษณ์แล้วหลุยส์ วิตตองการันตีคุณสมบัติและคุณภาพของเพชรด้วยประกาศนียบัตร LV Diamonds ที่บ่งบอกคุณลักษณะสำคัญสี่ประการของเพชร รวมถึงต้นกำเนิดของเพชรแต่ละเม็ดด้วยการบันทึกการเดินทางของเพชรตั้งแต่แหล่งที่ขุดพบจนมาถึงห้องปฏิบัติงานผ่านขั้นตอนการเจียระไนขัดเงาขึ้นตัวเรือน จนไปถึงร้านค้าที่จัดจำหน่ายโดยใช้ Aura Blockchain Consortium หรือเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลแบบดิจิทัลเพื่อส่งผ่านข้อมูลต่างๆ ไปยังบุคคลอื่น มีความปลอดภัยสูงเป็นที่ยอมรับทั่วโลก เป็นระบบที่ LVMH เป็นผู้นำในการพัฒนาเพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจว่าเป็นสินค้าที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์และเป็นเพชรธรรมชาติ

Prada Cut

ในช่วงปลายปี 2022 ปราด้า (Prada) ได้เปิดตัวไฟน์จิวเวลรี่คอลเลกชั่นขึ้นมา ซึ่งถือเป็นการแหกขนบในวงการไฟน์จิวเวลรี่โดยปราด้าได้รังสรรค์เครื่องประดับขึ้นจากรีไซเคิลโกลด์ 100% ไม่เพียงเท่านั้นแบรนด์ยังได้เลือกใช้เพชร lab-grown ซึ่งมีรูปแบบการเจียระไนที่โดดเด่นเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเช่นเดียวกับสัญลักษณ์ของแบรนด์โดยตั้งชื่อว่า Prada Cut แม้จะเป็นเพชรจากแลบแต่ยังคงคุณภาพ 4 c ของเพชรเอาไว้อย่างครบถ้วนไม่แพ้เพชรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพชรรูปทรงสามเหลี่ยมทุกชิ้นได้รับการเจียระไนให้มีเหลี่ยมมุมถึง 31 เหลี่ยมมีมิติที่เล่นล้อกับแสงจนเกิดความแวววาวสวยสะดุดตา เป็นรูปทรงที่มีความโดดเด่นทันสมัยเข้ากับคาแร็กเตอร์มินิมอลสุดคูลของแบรนด์อีกทั้งยังสะท้อนนวัตกรรมในการผลิตของปราด้าที่ล้ำสมัยอีกด้วย มีน้ำหนักเพชรให้เลือกสรรตั้งแต่ 0.8 กะรัตเรื่อยไปจนถึง 5.5 กะรัต เพชรทรงปราด้าคัตนั้นโดดเด่นบนตัวเรือนไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอหรือแหวนประดับเพชรทรงสามเหลี่ยมเม็ดเดี่ยว หรือสร้อยคอโซ่แบบโอเวอร์ไซส์ที่มีเพชรทรงสามเหลี่ยมนี้ประดับตามเหลี่ยมมุมของสร้อยอย่างลงตัว ซึ่งเพชร lab-grown นั้นจะผลิตขึ้นตามคำสั่งซื้อเฉพาะบุคคลเท่านั้น สร้างความรู้สึกพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อไฟน์จิวเวลรี่กับแบรนด์

อ่านบทความเพิ่มเติม: ชิ้นงานมรดกจากปี 1906-1953 สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ VCA ที่รวบรวมมาจัดแสดงในนิทรรศการ The Van Cleef & Arpels Collection

RECOMMENDED READS