ปี 2025 คืออีกหนึ่งปีที่วงการบันเทิงทั่วโลกเดินหน้าอย่างคึกคัก และเต็มไปด้วยโมเมนต์ที่น่าพูดถึงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานของทั้งวงการภาพยนตร์ ซีรีส์ และเหตุการณ์สำคัญในโลกดนตรี โดย #legend_TH ชวนย้อนดูช่วงเวลาน่าจดจำจากวงการบันเทิงทั้งฝั่งไทยและต่างประเทศในปีนี้
GLOBAL MOMENTS

เริ่มด้วยซีรีส์ระดับคุณภาพกับ “The White Lotus ซีซัน 3” ซึ่งเป็นซีรีส์แนวตลกเสียดสีชื่อดังจากฝั่งอมเริกา ที่ใซีซั่นนี้ได้ถ่ายทำในประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพฯ, ภูเก็ต และเกาะสมุย อีกทั้งยังมีนักแสดงชาวไทยร่วมจออย่าง “ครูเล็ก-ภัทราวดี” ศิลปินแห่งชาติสาขาการแสดง สองนักแสดงหนุ่มมากฝีมือร่วมแสดง แย่าง “ดอม เหตระกูล” และ “เทม-เมธี” รวมไปถึงซุปเปอร์สตาร์ “ลิซ่า-ลลิษา” ที่เดบิวต์ผลงานการแสดงเป็นครั้งแรกในเรื่องนี้ ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม และกลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทำให้ซีซันนี้ถูกพูดถึงไปทั่วโลก
ด้านแพลตฟอร์มสตรีมมิง ยังคงเป็นพื้นที่ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง กับแอนิเมชันจาก Netflix อย่าง “KPop Demon Hunters” ที่เล่าเรื่องราวของเกิร์ลกรุ๊ปสามสาววง HUNTR/X ซึ่งมีอีกบทบาทคือการเป็นนักล่าปีศาจ การผสมผสานโลกของวงการไอดอลกับความแฟนตาซีทำให้เรื่องนี้เข้าถึงผู้ชมได้ในวงกว้าง โดยเฉพาะเพลงฮิตอย่าง “Golden” และ “Soda Pop” ที่ดังจนกลายเป็นซาวด์แทร็กประจำปี และแทบจะได้ยินอยู่เสมอไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน

หันมาที่วงการเพลง หากต้องพูดถึงโมเมนต์ที่สั่นสะเทือนที่สุดของปี หนึ่งในนั้นย่อมหนีไม่พ้นข่าวการหมั้นหมายของ Taylor Swift ซึ่งสะท้อนสถานะของศิลปินสาวคนนี้ในฐานะ Cultural Figure ที่ทุกการเคลื่อนไหวสามารถกลายเป็นบทสนทนาของสังคมในระดับโลกได้อยู่ตลอดเวลา
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เรียกเสียงฮือฮาไม่แพ้กัน คือการกลับมารวมวงของสองพี่น้องในตำนานจาก Oasis ที่ต้องใช้คำว่า “ในที่สุดก็ยอม” กลับมาขึ้นเวทีด้วยกันอีกครั้ง ปลุกพลัง Nostalgia ของแฟนเพลง Britpop ให้กลับมามีชีวิต พร้อมเชื่อมโยงความทรงจำของคนฟังหลายเจเนอเรชันเข้าไว้ด้วยกัน
ฟาก K-Pop ปีนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของศิลปินเจเนอเรชันหน้าใหม่ โดยเฉพาะวง Cortis ที่โดดเด่นทั้งสไตล์การแต่งตัวและทิศทางดนตรี เพลงอย่าง “GO!” และ “FaSHioN” อัดแน่นด้วยกลิ่นอาย Y2K แบบจัดเต็ม แพ็กความเท่และความมั่นใจ จนกลายเป็นภาพแทนของศิลปินเคป๊อปรุ่นใหม่ที่ไม่กลัวการฉีกกรอบเดิมๆ
THAI ENTERTAINMENT ON THE RISE

วงการบันเทิงไทยในปีนี้เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าใคร อย่าง 7 สาว 4EVE ที่สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะศิลปิน T-POP วงแรกที่ได้ขึ้นโชว์บนเวที Tokyo Dome สถานที่ในฝันของศิลปินหลายๆคนทั่วโลก ที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 55,000 คน สะท้อนศักยภาพของอุตสาหกรรมเพลงไทยที่พร้อมแข่งขันในระดับสากลอย่างแท้จริง
รวมถึงหนุ่มๆ BUS because of you i shine ที่เตรียมเป็นศิลปินไทยวงแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวที M COUNTDOWN หนึ่งในรายการเพลงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของ K-Pop ณ ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2026 ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า T-POP กำลังขยายอิทธิพลและพื้นที่ของตัวเองสู่ตลาดโลกอย่างชัดเจน
ฟากวงการซีรีส์ไทย คงหนีไม่พ้นกระแสของซีรีส์ Boys Love และ Girls Love ที่เรียกได้เลยว่าเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ของประเทศ เปิดปีมาด้วยซีรีส์ “GELBOYS สถานะกั๊กใจ” ซีรีส์ที่โดดเด่นทั้งงานภาพและการเล่าเรื่อง ของ 4 หนุ่มคลื่นลูกใหม่ของวงการบันเทิงไทย อย่าง นิว-ชยภัค, ไป๊ป-มนธภูมิ, พีเจ-มหิดล และ เลออน-บรอคโค่ ที่สร้างอิทธิพลมากกว่าแค่ความบันเทิง แต่ยังสร้างคัลเจอร์ใหม่ให้กลุ่มวัยรุ่น ทั้งในแง่ของแฟชั่น การแต่งตัว และการทำเล็บ


ถัดมาช่วงกลางปีกับซีรีส์แซฟฟิกเรื่องที่ 2 จากช่อง 3 “เพียงเธอ Only You The Series” ของสองสาวคู่ขวัญอย่าง หลิงหลิง-คอง และ ออม-กรณ์นภัส เรื่องราวควาร้มรักของนักองสาวกับบอดี้การ์ดส่วนตัวสุดเข้มข้น พร้อมส่งโมเม้นไวรัลอย่างประโยค “ไอร่ารู้ไหม…” ที่ถูกนำไปเล่นชาเลนจ์ต่อกันทั่วโซเชียล
ตามด้วยซีรีส์ Romantic Horror สุดโด่งดัง “เขมจิราต้องรอด Khemjira the Series” ที่พลิกกรอบแนววายด้วยเนื้อหาแนวลึกลับ และผูกโยงกับความเชื่อท้องถิ่น ผ่านการแสดงของ เก่ง-หฤษฎ์, น้ำปิง-นภัสกร, เติ้ล-มติมันท์ และ เฟิร์สวัน-วรรณกร จนทำให้ตัวละคร “พ่อครูภรัณ” กลายเป็นขวัญใจคนดูทั้งบ้านทั้งเมือง
ปิดท้ายปีได้อย่างน่ารักกับ “มีสติหน่อยคุณธีร์ Me and Thee” ” ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ที่ครองใจผู้ชมอย่างล้นหลาม ด้วยโทนเรื่องเบาสมอง ดูเพลิน และความน่ารักที่ทำให้ต้องเผลอยิ้มหรือฟินจิกหมอนแทบทุก 5 นาที ด้วยเคมีสุดลงตัวของสองหนุ่มหล่อ ปอนด์-ณราวิชญ์ และ ภูวินทร์-ตั้งศักดิ์ยืน พร้อมการหยิบยกประโยคเด็ดจากละครไทยยุคเก่ามา Reference อย่างเบียวขั้นสุด
“ไว้เจอกันใหม่ปีหน้านะ… คนดื้อ”



