“…กว่า 33 ปีที่ Dermond เดินทางในโลกแห่งเครื่องประดับ แต่ในช่วง 4-5 ปีหลังมานี้ แบรนด์ได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งในแง่ของการออกแบบและการตลาด โดยเฉพาะการหันมามุ่งตลาดต่างประเทศอย่าง Middle East มากยิ่งขึ้นพร้อมเปิดมุมมองความหรูหราในแบบใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ของทายาทรุ่นที่สอง สิรพัฐ พิพัฒน์วีรวัฒน์…”

มุมมองใหม่ของความหรูหรา
“เราอยากปรับภาพลักษณ์ให้เหมาะกับสิ่งที่เกิดขึ้น” คุณจอห์นผู้บริหารเล่าด้วยแววตาที่มุ่งมั่น “Concept ของร้านสาขาสยามพารากอนที่ได้ปรับโฉมใหม่เราใช้ชื่อว่า Reimagined Luxury เป็นความหรูหราแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องตะโกนหรือเป็นซูเปอร์ลักซ์ชัวรีอีกต่อไป แต่ต้องทำให้คนรู้สึกอบอุ่น สบาย และช้อปปิ้งจิวเวลรีที่เป็นตัวเองได้จริงๆ”

ความหลากหลายคือหัวใจสำคัญ
ดีไซน์ที่แตกต่างและหลากหลายของ Dermond เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ “จิวเวลรีของเราตอนนี้จะแบ่งเป็น Bridal Collection มีสัดส่วนราว 30% ของร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าเพิ่งมีประสบการณ์กับเพชรครั้งแรก เดอมอนด์จึงเน้นให้ความรู้ในการเลือกเพชรอย่างถูกต้อง ส่วนคอลเลกชันที่ใส่ในชีวิตประจำวันได้ ราคาเริ่มต้นราว 30,000 บาท ไปจนถึงหลักล้าน เป็นกลุ่มจิวเวลรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะความหลากหลายและใส่ง่าย เรามีงานงานไฮจิวเวลรีด้วยที่ยังคงเป็นรากฐานสำคัญในการโชว์ craftsmanship ของเดอมอนด์ที่พิถีพิถันและไม่เหมือนใคร เรามีงานดีไซน์หลายคอลเลกชันที่เป็นเอกลักษณ์ทั้ง Absolute Deco เอาศิลปะอาร์ตเดโคมาตีความใหม่ โชว์ทั้งรายละเอียดและฝีมือช่าง Deco Elements ที่ออกแบบให้สวมใส่ได้สนุกขึ้น เป็นงานอาร์ตเดโคที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ Chic Collection ที่เพิ่งรีลอนช์ใหม่ สื่อถึงความเรียบง่ายแต่ unconventional เป็น statement pieces ที่ไม่เหมือนใครครับ”

ลูกค้าและความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น ความทุ่มเทที่นำพาสู่ความสำเร็จ
ความสำเร็จของเดอมอนด์ในทุกวันนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากลูกค้าคนสำคัญ ซึ่งบางคนนั้นเป็นลูกค้าจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก “กลุ่มลูกค้าของเดอมอนด์มีตั้งแต่วัย 25 จนถึง 65 ปี หลายครั้งแม่และลูกมาช้อปพร้อมกัน ความสัมพันธ์ของคนไทยกับเครื่องประดับระหว่างแม่ลูกมันคอนเนคกันอยู่เสมอ นำไปสู่การจัดแคมเปญ Generation to Generation ที่เล่าเรื่องสายสัมพันธ์แม่ลูกผ่านเครื่องประดับ พร้อมบริการ Timeless service ที่ดูแลสินค้าโดยไม่จำกัดเวลาแม้ผ่านไป 30 ปี ลูกค้าก็ยังสามารถนำมาดูแลซ่อมแซมได้ทำให้เครื่องประดับของเราเป็นคุณค่าที่ส่งผ่านกาลเวลาได้จริง”

จุดยืนด้านคุณภาพที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร
หนึ่งสิ่งที่ลูกค้าจะมั่นใจได้เมื่อซื้อจิวเวลรีที่เดอมอนด์คือคุณภาพของเพชรและพลอยที่คัดสรรคุณภาพ “ราคาของเราสูงกว่าบางแบรนด์ แต่คุณภาพเพชรเราคัดเกรดเหนือกว่ามาตรฐานสากล เดอมอนด์คัดเพชรทุกเม็ด ไม่เพียงแค่มีใบ certificate จาก GIA หรือ MRHD แต่ตรวจสอบซ้ำเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับของที่คุ้มค่าและสมบูรณ์ที่สุด ในสมัย 30 ปีที่แล้วเราขายเพชรเกรดที่ไม่มีตำหนิเลยเพิ่งมาสัก 10 ปีหลังที่เรายอมรับว่ามันไม่สามารถหาควอลิตี้นั้นแล้ว ก็เลยปรับมาเป็น VVS”

ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ
เดอมอนด์ได้ขยายแบรนด์ไปสู่ตลาดสากลโดยเฉพาะในตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของคุณจอห์นในการพาให้แบรนด์จิวเวลรีไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล “เราเริ่มเข้าสู่ตลาด Middle East หลังโควิด ผ่านพาร์ตเนอร์รายใหญ่ในกาตาร์ ก่อนขยายต่อไปยังคูเวต บาห์เรน และยูเออี ปัจจุบันมีทั้งร้านและการออกแฟร์ประจำปี การปรับตัวเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ทำให้แบรนด์ค่อยๆได้รับการยอมรับมากขึ้น…หลายแบรนด์ใหญ่ของโลกผลิตในไทย แต่ไม่มีใครสร้างแบรนด์ส่งออกจริงๆ เราอยากเป็นหนึ่งในนั้น และจะเดินต่อไปทั้งในเอเชียและยุโรปครับ”



