Thai Craft Destination: โปรเจคสุดพิเศษที่ส่งต่อความงดงามแห่งการออกแบบจากวิสัยทัศน์คนไทย
Author: Yongyut Termtuo | Photographer: Courtesy of Thai Craft Destination
Sep 20, 2024
“…จากความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันและสนับสนุนพลังสร้างสรรค์หรือ Soft Power ของประเทศ เพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้เกิดพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นำมาสู่โปรเจคระดับเรือธงอย่าง “Embark on a Journey of Delight: Discover the Charm of Thai Fashion & Craft” ที่อนุญาตให้หลากหลายจังหวัดที่มากด้วยชื่อเสียงด้านงานฝีมือและหัตถกรรมอย่าง เชียงใหม่ แพร่ ขอนแก่น สกลนคร นครศรีธรรมราช และปัตตานี มาร่วมปล่อยของและไอเดียกันอย่างคับคลั่ง…”
เริ่มต้นจากเชียงใหม่ ดินแดนแห่งงานจักสานและงานไม้ ที่มาพร้อมธีม “Chiang Mai Upcycling” ที่มุ่งเน้นในการประยุกต์เอาความสวยงามของงานหัตถกรรมพื้นบ้านเข้ากับวิถีชีวิตยุคใหม่ อาทิเช่น เข็มกลัดตาแหลวที่ทำจากเศษหวาย เหลือใช้ หรือเคสใส่เทียนที่รังสรรค์จากเศษไม้ที่เคยใช้เป็นฟืนที่ถูกนำกลับมาตีความใหม่ งานออกแบบทั้งหมดนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจที่ต้องการบอกเล่าถึงความเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบันในรูปแบบที่ยากจะพบเห็นได้จากแบรนด์ mass production อื่นใดในท้องตลาดปัจจุบัน
สืบเนื่องจากเทคนิคจากฝีมืออันเหนือระดับแห่งการย้อมผ้า ทำให้ไม่เป็นที่แปลกใจแต่อย่างใดที่ตัวแทนจากจังหวัดแพร่ที่มาร่วมโชว์ฝีมือในครั้งนี้ จะนำเสนอผลงานผ่านธีม “Retreat Phrae” ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาเทคนิคย้อมผ้าแบบดั้งเดิมที่แสดงถึงความสง่างามและร่วมสมัย เพราะสำหรับพวกเขาผ้าห้อมเป็นมากกว่าแค่เสื้อผ้า แต่เป็นผลงานทรงเสน่ห์ที่สามารถช่วยเติมเต็มลุคให้ดูเฉิดฉายได้ แม้ในวันที่อากาศร้อน
ในส่วนของจังหวัดขอนแก่นที่มีความโดดเด่นในเรื่องทักษะการรังสรรค์ผ้ามัดหมี่ ทำให้ธีม “Circular Phu Wiang” เป็นธีมที่ได้รับการคัดเลือกในงานนี้ เพื่อสอดรับต่อแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการนำเศษเส้นไหมเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นผ้าผืนใหม่ที่สะท้อนถึงการทับซ้อนของชั้นหินฟอสซิลในอุทยานธรณีภูเวียง ตัวแทนงานศิลป์ที่พร้อมจะก้าวสู่โลกแฟชั่นอย่างยั่งยืน
จังหวัดสกลนครมาในธีมของ “Keep Kram @ Sakon Nakorn” ที่เปรียบเสมือนบทกวีที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตของชุมชนผ่านโทนสีเนวีบลู ความสงบเย็นของสีครามไม่เพียงทำให้ผ้าผืนนี้ดูโดดเด่น แต่ยังเพิ่มความหมายลึกซึ้งทางอารมณ์อีกด้วย ผ้าครามที่ปักลายด้วยเส้นด้ายย้อมสีธรรมชาติสะท้อนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างธรรมชาติและมนุษย์
น่าสนใจไม่แพ้กันสำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มาภายใต้ธีมของ “Nakhon Si Reserve: ขลังนคร” นำเสนอเรื่องราวความงามและมนต์ขลังของเครื่องถมนครไว้ พร้อมปรับให้เข้ากับสมัยนิยม เครื่องประดับมงคลจากศิลปะโบราณนี้สะท้อนถึงพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เพียงแต่จะมีรูปโฉมสวยงาม แต่ยังให้ความรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับพลังบวกจากอดีตอีกด้วย
และท้ายสุดกับปัตตานี ที่นำเสนอผลงานในธีม “Picturesque Pattani” ส่งต่อเสน่ห์ของผ้าบาติกที่งดงามและเต็มไปด้วยรายละเอียดจากการวาดเทียนและการปั๊มลายด้วยบล็อกไม้สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวของคนในพื้นที่ ความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าบาติกที่นี่ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจด้านแฟชั่น แต่ยังบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างงดงาม
อ่านบทความเพิ่มเติม: 10 อาร์ตพีซสุดสร้างสรรค์ใน Milan Design Week ผลงานจาก11 ดีไซเนอร์ Gen D Vol.02 ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Dolce & Gabbana