MICAM Milan งานโชว์เคสรวมรองเท้าแบรนด์ดังยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งจัดขึ้นในอิตาลี
Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of MICAM and WSGN
Jul 12, 2024
"...หากพูดถึงวัสดุและคุณภาพการผลิตรองเท้าคงไม่มีที่ไหนจะมีชื่อเสียงมากไปกว่าประเทศอิตาลี ซึ่งได้สืบสานงานช่างฝีมือจากรุ่นสู่รุ่นมานานนับร้อยปี และถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีโรงงานการผลิตรองเท้ามากที่สุด สมาคมผู้ผลิตรองเท้าแห่งประเทศอิตาลี เล็งเห็นความสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ได้จัดงานโชว์เคสรองเท้าที่เรียกได้ว่ารวบรวมเรื่องของรองเท้าแบบครบวงจรภายใต้ชื่อ MICAM ซึ่งจัดขึ้นมาอย่างยาวนาน งานนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 15-17 กันยายน ปี 2567 ที่มิลาน นับเป็นการจัดงานครั้งที่ 98 ที่ยังคงไว้ด้วยสารพันเรื่องราวเกี่ยวกับรองเท้า..."
สำหรับสินค้าแบรนด์หรูจากอิตาลี ประเทศไทยนับได้ว่าเป็นตลาดที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี MICAM จึงได้มีโรดโชว์มายังประเทศไทยเพื่อประชาสัมพันธ์ถึงงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่ง Giovanna Ceolini ประธาน MICAM และประธานสมาคมผู้ผลิตรองเท้าแห่งประเทศอิตาลี ASSOCALZATURIFICI ได้กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า “โรดโชว์ครั้งนี้ถือเป็นงานสำคัญเพื่อเปิดทางให้กับโอกาสทางธุรกิจและสนับสนุนวัฒนธรรมของผู้ผลิตแบรนด์รองเท้า ภารกิจสำคัญอย่างแรกของ MICAM คือการสร้างความร่วมมือกันระหว่างประเทศเพื่อผลักดันให้เกิดข้อตกลงทางธุรกิจ ภายใต้งานโชว์เคสจัดแสดงสินค้าที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์, การฝึกอบรม และการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เป้าหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งของงานนี้คือการสร้างวัฒนธรรม ส่งเสริมการแบ่งปันทางความคิด, แลกเปลี่ยนกลยุทธ์ และแบ่งปันมุมมองต่ออุตสาหกรรมรองเท้าในระดับสากล ไม่เพียงแค่ในช่วงของการจัดงาน 3 วันเท่านั้นแต่เป็นการทำอย่างต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี
 |
 |
ด้วยความมุ่งมั่นนี้ MICAM จึงได้จัดการนัดหมาย,การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการสัมมนาที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายรวมถึงประเด็นที่ส่งผลกระทบครอบคลุมในทุกภาคส่วน การจัดงานที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสำรวจการเติบโตในตลาดใหม่อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตในสินค้าส่งออกของอิตาลีอย่างน่าสนใจ แต่ยังไม่ได้มีส่วนร่วมจากผู้ผลิตโดยตรง (Made in Italy) มากนัก ในปี 2566 การค้าสินค้าจากอิตาลีสู่ตลาดอาเซียนมีมูลค่าขยายตัว 50.2 % และมีปริมาณเพิ่มขึ้น 20.9 % โดยประเทศไทยมีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงสุดในสัดส่วน (ปริมาณ +42.1% และมูลค่า +79.8 %) สำหรับในแง่ของราคานั้นเรากำลังพูดถึงสินค้าพรีเมี่ยม และระดับไฮเอนด์ ราคาเฉลี่ยต่อคู่ของการส่งออกของอิตาลีอยู่ที่ 128 ยูโรต่อคู่"
 |
 |
ในงานแถลงข่าวที่กรุงเทพฯนั้นได้รับเกียรติจาก Mr. Matteo Scarparo ผู้ดำรงตำแหน่ง Head of Global Trade and Business Services ASSOCALZATURIFICI มาร่วมพูดคุยถึงความเป็นมา และความสำคัญของการจัดงานโชว์เคสรองเท้าครั้งนี้ และยังได้รับความรู้เกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นบรรยายโดยคุณ Jien Goh ผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์จาก WGSN (World Global Style Network) บริษัทผู้นำทางด้านการวิเคราะห์เทรนด์สี, แฟชั่นและการออกแบบชื่อดังระดับโลกจะมาร่วมแบ่งปันความรู้และเรื่องราวของเทรนด์สี และแมทีเรียลที่จะกำหนดทิศทางการออกแบบรองเท้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนี้
 |
 |
Electric Fuchsia
Electric Fuchsia เฉดสีที่ผสมผสานโทนสีชมพูเข้ากับโทนสีม่วงอย่างลงตัว เปล่งประกายออร่าความสดใสและมีชีวิตชีวาที่ให้ความรู้สึกล้ำสมัยในเวลาเดียวกัน สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญและคิดนอกกรอบ ชวนให้คิดถึงความสนุกในวัยเยาว์ เป็นสีสันสดใสที่เหมาะสำหรับกับการใช้ในงานกราฟิก และสีสันบนเสื้อผ้า รองเท้า แอ็กเซสเซอรี่
Transformative Teal
โทนสีที่ให้ความรู้สึกถึงความเย็นสบายและความสงบ สื่ออารมณ์ถึงการฟื้นฟูและการเปลี่ยนแปลง เป็นเฉดสีที่ผสมผสานระหว่างสีน้ำเงินและสีเขียวสะท้อนถึงความงามและความหลากหลายของธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมแนวคิดของการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สามารถเลือกใช้เฉดสีนี้เป็นทางเลือกแทนการใช้สีกรมท่าและสีเขียวเข้มแบบดั้งเดิม เป็นโทนสีที่ใช้ได้กับทุกเพศและยังใช้ได้โดยไม่กำหนดฤดูกาลอีกด้วย
Amber Haze
Amber Haze เป็นเฉดสีที่น่าหลงใหลด้วยเฉดสีเหลืองอมเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ มีความสว่างสดใสสะท้อนถึงความรู้สึกอบอุ่นและมีชีวิตชีวา และยังชวนให้นึกถึงเฉดสีล้ำลึกของอัญมณีล้ำค่าอันเป็นโทนสีที่ไร้กาลเวลา สอดคล้องกับความปรารถนาของมนุษย์ในด้านจิตวิญญาณในการตามหาเส้นทางของการหลุดพ้น ลองใช้เฉดสีนี้ในการออกแบบเสื้อเชิ้ต เบลาซ์ และเดรสชุดด้วย Hyper Texture นำเสนองานดีไซน์หลอมรวมกับงานฝีมือในธีมแฟชั่นอันล้ำสมัย และยังเป็นเฉดสีใหม่ที่น่าสนใจสำหรับการออกแบบรองเท้าหนัง และแอ็กเซสเซอรี่เพื่อเสริมเสน่ห์เหนือกาลเวลา
Blue Aura
โทนสีพาสเทลที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและทันสมัยในเวลาเดียวกัน เฉดสีฟ้าอมเทานี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานกันระหว่างแสงและเงา เป็นสีที่เข้ากับเทรนด์ปัจจุบันที่นำเรื่องราวของแสงมาใช้ในสุนทรียศาสตร์ ความโดดเด่นของสีคือมีลักษณะเป็นไอแวววาวชวนให้คิดถึงชิ้นงานออกแบบที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพเช่นเดียวกับขยะรีไซเคิลหรือปูนปลาสเตอร์แบบมีสี Blue Aura นั้นเป็นโทนสีที่ใช้ได้ทุกเพศและใช้ข้ามฤดูกาลอย่างไม่ขัดเขิน ด้วยโทนสีที่อบอุ่นสบายๆ ดุจรังไหม แต่ในขณะเดียวกันยังให้ความรู้สึกล้ำยุค เป็นเฉดสีที่เหมาะกับเท็กซ์เจอร์ผ้ากำมะหยี่ และเนื้อผ้าที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นผ้าชีฟอง เมทัลลิกและพื้นผิวแล็กเกอร์
Jelly Mint
เฉดสีที่มีชีวิตชีวาซึ่งช่วยให้ความรู้สึกถึงวัยเยาว์ สื่ออารมณ์ถึงความสดใสน่ารักและสนุกสนาน เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคผู้หลงใหลในงานดีไซน์ที่มีความสนุกซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโต Jelly Mint เป็นเฉดสีที่มีความโดดเด่นก้าวข้ามขอบเขตและออกจากมาตรฐานเดิมๆ สีสันสดใสนี้สร้างแรงกระเพื่อมได้อย่างน่าสนใจ เป็นเฉดสีที่แปลกตาซึ่งสะท้อนแก่นแท้ของธีม "Glimmers" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โทนสีที่ช่วยสร้างความสุขเล็กน้อยซึ่งช่วยยกระดับเราในช่วงเวลาที่ต้องพบเจอกับความท้าทาย เฉดสี Jelly Mint นั้นเปล่งประกายมากยิ่งขึ้นบนพื้นผิวไบโอเรซิน วัสดุผิวแวววาว และแก้ว ปลุกโลกแห่งจินตนาการให้โลดแล่นและมีชีวิตอีกครั้งผ่านโทนสีเหลือบที่เต็มไปด้วยความสดใส
อ่านบทความเพิ่มเติม: วัฏจักรแฟชั่นวนลูป: รองเท้า ‘แมรี่เจน’ (Mary Jane) จากไอเท็มยอดฮิตของสาวๆ สู่รองเท้าที่ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านเพศ
