Logo Hashtag Legend

"Hublot Loves Football" แคมเปญที่เชื่อมต่อโลกการแข่งขันฟุตบอลเข้ากับนวัตกรรมแห่งเวลา

Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of Hublot and Somkiat Kangsdalwirun

Jul 10, 2024

"...ทุกการแข่งขันกีฬาจะมีแบรนด์นาฬิกาที่รับหน้าที่ผู้รักษาเวลาอย่างเป็นทางการ แต่หากให้คิดถึงแบรนด์ที่เรามักเห็นในการแข่งขันฟุตบอลคงจะเป็นแบรนด์ใดไปไม่ได้นอกเสียจากอูโบลท์ (Hublot) ผู้เป็นพันธมิตรในการแข่งกีฬาฟุตบอลหลายรายการ อีกทั้งยังมีแคมเปญ Hublot Loves Football ที่ได้ร่วมงานกับเฟรนด์ออฟเดอะแบรนด์และศิลปินคนดังในการโปรโมตการแข่งขันต่างๆ ล่าสุดในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 อูโบลท์ได้เปิดป๊อบอัพสโตร์สุดคูลขึ้นที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อให้ลูกค้าของแบรนด์ได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งขันฟุตบอลที่ไม่เหมือนใคร ในโอกาสนี้ #Legend_th ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับ ริคาร์โด กัวดาลูป (Ricardo Guadalupe) ถึงเบื้องหลังแคมเปญดังกล่าว รวมถึงการร่วมงานกันระหว่างแบรนด์และการแข่งขันฟุตบอลที่ทำให้อูโบลท์เป็นแบรนด์ที่น่าจับตาอยู่เสมอ..."

อะไรทำให้อูโบลท์และฟุตบอลมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับแคมเปญ Hublot Loves Football ครับ?

Ricardo Guadalupe: "ในโลกของกีฬา ฟุตบอลถือเป็นพันธมิตรหลักของอูโบลท์ครับ ซึ่งจะเห็นได้จากโปรเจ็กต์ที่เราได้เริ่มมาเมื่อ 16 ปีที่แล้วในปี 2008 เราได้เข้าสู่วงการฟุตบอลเพราะเราเห็นโอกาสที่จะเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูแบรนด์แรกที่ได้เป็นพันธมิตรกับการแข่งขันฟุตบอลอย่างจริงจัง ทุกคนทราบกันดีว่ากีฬาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเทนนิสและกอล์ฟนั้นมีพันธมิตรเป็นนาฬิกาแบรนด์อื่นไปหมดแล้ว แต่สำหรับฟุตบอลแบรนด์นาฬิกาที่คนจะคิดถึงคืออูโบลท์นั่นคือพลังของการร่วมมือกันในแคมเปญนี้

ยูโร คัพ ในเยอรมนี ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 แล้วที่เราได้ร่วมงานกัน จากนั้นเราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับฟีฟ่าในการแข่งขันฟุตบอลโลก แนวคิดของแคมเปญ Hublot Loves Football นั้นเกิดขึ้นในปี 2014 ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกที่บราซิล ซึ่งเราต้องการประโยคที่โดนใจเพื่อใช้ในการโปรโมตความร่วมมือระหว่างแบรนด์และการแข่งขันฟุตบอล เราได้ใช้ชื่อแคมเปญ Hublot Loves Football นับแต่นั้นมาเพื่อส่งเสริมความร่วมมือนี้อย่างแท้จริง ในปีนั้นเราสามารถเปลี่ยนกระดานบอกเวลาของการแข่งฟุตบอลเป็นรูปทรงนาฬิกาอูโบลท์ได้ ซึ่งมันทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงอูโบลท์เข้ากับนาฬิกาเพราะคนอาจจะเข้าใจว่าอูโบลท์นั้นเป็นแบรนด์ธนาคารหรือประกันภัยก็ได้ แต่เมื่อคุณเห็นว่ามันเป็นรูปนาฬิกาคุณจะเข้าใจทันที ต้องยกเครดิตให้กับการแข่งขันฟุตบอลที่สร้างให้คนกว่าพันล้านได้เห็นแบรนด์ของเรา แม้ว่าคนกว่าพันล้านคนนั้นอาจจะไม่สามารถซื้อนาฬิกาของอูโบลท์ทั้งหมด แต่พวกเขารับรู้ว่าอูโบลท์นั้นเป็นแบรนด์นาฬิกา

Hublot Loves Football เรามีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไปในทุกครั้ง ในปี 2014 เราได้ร่วมงานกับนักฟุตบอลชื่อดังอย่าง Pelé ในปีนี้เราได้ร่วมงานกับ Kylian Mbappé และในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ผ่านมาที่กาตาร์ก็มีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างออกไป เราตั้งใจที่จะร่วมมือกับศิลปินที่แตกต่างกันเพื่อสร้างสรรค์แคมเปญที่มีรูปแบบเฉพาะ แต่ละแคมเปญนั้นยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ เพียงแต่ร่วมงานกับนักฟุตบอลที่แตกต่างกันไป และมีการดีไซน์ที่ไม่เหมือนกันครับ"

ที่ผ่านมามีแคมเปญใดที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดครับ?

RG: "ผมคิดว่าเป็นแคมเปญฟุตบอลโลกในกาตาร์นะครับ ครั้งนั้นเราได้ร่วมมือกับเฟรนด์ของอูโบลท์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอลหญิงชาวนอร์เวย์อย่าง Ada Hegerberg, Kylian Mbappé และ Gareth Southgate แคมเปญ Hublot Loves Football ในครั้งนั้นทุกคนดีไซน์ลูกฟุตบอลร่วมกับศิลปิน ผมคิดว่ามันเป็นแคมเปญที่สวยงามจริงๆ"

Hublot Loves Football จึงเปรียบเสมือนหนึ่งในกลยุทธ์หลักของแบรนด์​ Hublot มีกลยุทธ์ด้านอื่นที่ทำควบคู่ไปกับแคมเปญนี้มั้ยครับ?

RG: "ผมจะบอกว่า Hublot Loves Football  ถือเป็นแคมเปญหลักของเราจริงๆ ในการเป็นพันธมิตรในโลกของกีฬา เพราะคุณคงจินตนาการได้ว่าการสร้างพันธมิตรครั้งนี้เป็นการลงทุนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกเหนือไปจากนั้นเราได้สร้างจักรวาลของอูโบลท์ขึ้นมาซึ่งมันประกอบไปด้วยโลกของศิลปะ อูโบลท์รักและชื่นชมงานศิลปะเราได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Murakami ไม่นานมานี้เราได้ร่วมมือกับ Daniel Arsham รวมถึง Sang Bleu ซึ่งเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์งานสักบนร่างกาย

นอกจากโลกของศิลปะเรายังมีส่วนร่วมในวงการอาหารด้วยการพาร์ทเนอร์กับเชฟคนดัง แม้ว่ามันจะไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับด้านอื่นๆ แต่ผมนับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลอูโบลท์  เรายังมีส่วนหนึ่งที่สัมพันธ์กับโลกของดนตรีเช่นกัน  โดยร่วมงานกับศิลปินมากมาย เช่น นักเปียโน Lang Lang, วงดนตรี Depeche Mode และดีเจ Snake เป็นต้น ในจักรวาลของอูโบลท์นั้นแน่นอนว่าฟุตบอลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราพยายามที่จะสร้างจักรวาลที่มีส่วนร่วมในทุกอุตสาหกรรม เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคของเรา เพราะเขาอาจจะเป็นคนที่ชอบไปดูคอนเสิร์ต วันหนึ่งอาจจะอยากไปร้านอาหารมิชลินสตาร์ และบางวันอาจจะอยากไปดูการแข่งฟุตบอล เราสร้างจักรวาลเพื่อตอบสนองคอมมิวนิตี้กลุ่มลูกค้าของเรา และเราเชื่อเหลือเกินว่าวันหนึ่งจะมีคนที่อยากจะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมิวนิตี้นี้ ทั้งหมดนี้เป็นที่มาในการสร้างจักรวาลของอูโบลท์ขึ้นมาครับ"

ในปัจจุบันความสนใจของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา Hublot ใช้กลยุทธ์อะไรในการพัฒนาโปรดักส์ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครับ?

RG: "แนวคิดศิลปะแห่งการผสมผสานคือสิ่งที่ทำให้อูโบลท์แตกต่างจากนาฬิกาแบรนด์อื่นๆ ครับ เพราะถ้าเราไม่แตกต่างเราก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้  มีแบรนด์นาฬิกาคลาสสิกชั้นเลิศมากมายจากสวิตเซอร์แลนด์ที่มีประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง อูโบลท์เรานับได้ว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ ดังนั้นเราจึงต้องพยายามสร้างความแตกต่างและนำเสนองานออกแบบนาฬิกาที่ไม่มีอยู่ในแบรนด์นาฬิกาคลาสสิกเหล่านั้น เราจะทำมันได้อย่างไรล่ะ? ศิลปะแห่งการผสมผสานจึงเป็นคำตอบ เราได้นำนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และการปฏิวัติมาสู่งานออกแบบของแบรนด์ เช่นเดียวกับการเลือกใช้วัสดุ เราเป็นแบรนด์แรกที่ใช้สายนาฬิกาซึ่งทำจากยาง ซึ่งเราได้ริเริ่มขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว และทุกวันนี้สายยางถูกใช้ในแบรนด์นาฬิกาคลาสสิกทั้งหมด  นอกจากนี้ยังมีการใช้เซรามิก เช่น นาฬิกาตัวเรือนและสายที่สร้างสรรค์ด้วยเซรามิกสีดำล้วนทั้งหมด รวมถึงการใช้แซฟไฟร์ในการออกแบบนาฬิกา  นาฬิกาตัวเรือนโปร่งใสที่ไม่เหมือนใคร เราเป็นแบรนด์เดียวที่ผลิตนาฬิกาตัวเรือนใสจากแซฟไฟร์ได้จริงๆ...นอกจากนั้นยังมีนาฬิกาจักรกลที่เราพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยกลไกซับซ้อนที่นับเป็นผลงานชิ้นเอก 

ในส่วนของการดีไซน์เราใช้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะอยู่เสมอ ในตอนที่แบรนด์ร่วมงานกับ Murakami  มันเป็นงานออกแบบที่ดูเหนือจริงเพราะไม่มีหน้าปัดตัวเลขบอกเวลา คุณอาจจะชอบมันหรือเกลียดมันไปเลยแต่ถ้าคุณชอบคุณจะชอบแบบตกหลุมรัก เราเคยทำนาฬิกาพกร่วมกับศิลปินอย่าง Arsham คุณลองนึกภาพการทำนาฬิกาพกดูมั้ย? เราออกแบบนาฬิกาพกในรูปแบบใหม่ขึ้นมาโดยสร้างสรรค์ตัวเรือนจากแซฟไฟร์ แนวคิดทั้งหมดนี้ทำให้ชิ้นงานของอูโบลท์แตกต่างออกไป แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วเราอาจจะขายนาฬิกาธรรมดาได้มากกว่า แต่ก็เป็นงานดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็นอาร์ตเอาไว้อยู่เสมอ

เราไม่สามารถผลิตนาฬิกาที่มีรูปแบบเฉพาะตัวดังที่กล่าวมาได้เป็นจำนวนนับ 100 เรือน แต่ชิ้นงานออกแบบเหล่านี้ช่วยทำให้สิ่งที่อูโบลท์เป็นแรงบันดาลใจ ท้ายที่สุดแล้วลูกค้าเองก็ให้ความสนใจกับนาฬิกาคลาสสิกที่ผสมผสานศิลปะและนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกันซึ่งนั่นเป็นการดำเนินธุรกิจหลักของเรา คุณเชื่อมั้ยว่านาฬิกาธรรมดาๆ ในทุกวันนี้ไม่มีใครสนใจแล้ว"

การร่วมงานกับนักฟุตบอลช่วยให้ Hublot บรรลุเป้าหมายของแบรนด์อย่างไรครับ?

RG: "ผมคิดว่านักฟุตบอลเป็นผู้ทรงอิทธิพลนะคุณว่าไหม พวกเขามีอิทธิพลต่อผู้อื่น และเมื่อเราร่วมงานกับ Kylian Mbappé มีอิทธิพลต่อคนรุ่นใหม่หลายล้านคน และเมื่อพวกเขาเห็นว่า Kylian Mbappé มีความเกี่ยวข้องกับ Hublot เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่เขาพูดกันว่ามันว้าวมาก อูโบลท์เป็นแบรนด์ที่เจ๋ง แนวคิดภายใต้แคมเปญของเราคือเพื่อให้เป็นประเด็นในการพูดคุยกับผู้อื่นและดึงดูดผู้คนให้มาที่แบรนด์ของเราผ่านเฟรนด์ออฟเดอะแบรนด์เหล่านั้น จากนั้นเราก็มี Kylian Mbappé เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อันดับหนึ่ง นอกจากนั้นเราก็มีเฟรนด์ออฟเดอะแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของอูโบลท์ ซึ่งพวกเขาได้ทุ่มเทให้กับการโปรโมตในตลาดโลคอล เช่น ในยุโรปเรามีผู้เล่นระดับตำนานชาวเยอรมัน Sammi Khedira เขามุ่งความสนใจไปที่เยอรมนีมากขึ้น สำหรับโปรตุเกสเรามี Luis Figo เขายังมีอิทธิพลในสเปนและประเทศอื่นๆ เราพยายามร่วมงานกับเฟรนด์ออฟเดอะแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักในแต่ละประเทศจริงๆ"

Hublot ก่อตั้งขึ้นมาอย่างยาวนานกว่า 44 ปีแล้ว อะไรคือหลักการและคุณค่าที่ Hublot ยังคงเน้นย้ำอยู่ในปัจจุบันนี้ครับ?

RG: "รู้มั้ยครับว่าเพื่อที่จะรักษาความสำเร็จและประสบความสำเร็จอยู่เสมอ เราต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ การเป็นผู้นำซึ่งการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแบรนด์อื่นๆ เองก็พยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่เหมือนกันไม่ใช่แค่แบรนด์เราเท่านั้นเป็นการแข่งขันที่เราหยุดพักไม่ได้ เป็นเหตุผลที่เราลงทุนมากมายในการวิจัยและพัฒนาด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงมีโรงงานการผลิตขนาดใหญ่ มีการวิจัยมากมายในด้านวัสดุ ทุ่มเทในเรื่องของการออกแบบรวมถึงการพัฒนากลไกล้ำสมัย สำหรับอูโบลท์แล้วสิ่งที่เรามุ่งให้ความสำคัญอย่างแท้จริงกับเรื่องของนวัตกรรมครับ"

อย่างที่คุณริคาร์โดกล่าวว่านวัตกรรมคือหัวใจหลักของอูโบลท์ เพราะเราไม่สามารถละสายตาไปจากเรือนเวลา Hublot Big Bang Unico ที่เผยให้เห็นกลไลสวยล้ำบนหน้าปัดที่เขากำลังสวมใส่ไปได้เลย

อ่านบทความเพิ่มเติม: Blancpain เปิดตัวเรือนเวลา Bathyscaphe Quantième Complet Phases de Lune รุ่นใหม่ล่าสุดในคอลเลคชั่น Fifty Fathoms

RECOMMENDED READS