“…ในโลกของการเดินทางที่ความเร็วและความหรูหรากลายเป็นนิยามใหม่ของประสบการณ์บนท้องฟ้า “MJETS” คือชื่อที่อยู่แถวหน้าของธุรกิจการบินเอกชนในประเทศไทยมาตลอดเกือบสองทศวรรษ…”
จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำเพียงไม่กี่ลำ สู่การเติบโตเป็นผู้นำที่ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจ Charter, Ground Handling, ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO), ไปจนถึง Private Jet Terminal ที่สนามบินดอนเมือง รวมถึงการขยายสู่ตลาดระดับภูมิภาคในอินเดีย กัมพูชา พม่า และสิงคโปร์
วันนี้ Hashtag Legend Thailand ได้พูดคุยกับ ‘แม็กซ์–ชญานินท์ สุขขะสันติกูล” Chief Commercial Officer แห่ง MJETS หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง พร้อมมองภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคด้วยวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมและหัวใจของนักบริการตัวจริง
ปลายปีแบบนี้เป็นช่วงที่ดอนเมืองกลับมาคึกคักอีกครั้ง MJETS เองก็อยู่ในช่วงพีคซีซั่นของการเดินทางเช่นกัน คุณแม็กซ์บอกกับเราด้วยรอยยิ้มว่า “เราพร้อมเสมอสำหรับ Hi-season” ก่อนจะเล่าถึงเส้นทางการเติบโตของบริษัทที่เริ่มจากเครื่องบินไม่กี่ลำ จนวันนี้กลายเป็นชื่อสำคัญของธุรกิจการบินเอกชนในภูมิภาค

จุดไหนที่ทำให้คุณตัดสินใจเข้ามาทำงานในธุรกิจ Private Jet กับ MJETS ?
“เดิมผมมีแบ็กกราวนด์จาก Etihad Airways อยู่แล้วครับ ผมชอบวงการการบินมาตลอด และรู้สึกว่า Private Jet Business เป็นสิ่งที่น่าจับตาโดยเฉพาะในประเทศไทย เพราะตอนที่ MJETS เปิดเมื่อ 17 ปีก่อน คำว่า ‘Private Jet’ แทบจะไม่มีอยู่ในวงการ โดยเฉพาะในภูมิภาคนี้เลยครับ
ตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ ธุรกิจเติบโตขึ้นมาก คนเริ่มเข้าถึง Private Jet มากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ MJETS ยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงก็คือ ‘ระบบโครงสร้างพื้นฐาน’ ที่เราสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเดินทางของPrivate Jet ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งแต่ศูนย์ซ่อม FBO, Ground Handling ไปจนถึง Trip Support ซึ่ง MJETS มีครบทั้งหมดครับ”
ธุรกิจ Private Jet วันนี้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนอย่างไรบ้าง ?
“เครื่องบินในภูมิภาคเติบโตมากขึ้นครับ มีคนเข้าถึงได้มากขึ้น เราเองก็เป็นทั้งตัวแทนจำหน่าย ศูนย์ซ่อม และ Warranty Facility ของ Gulfstream และ Textron ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนความไว้วางใจที่ผู้ผลิตและลูกค้ามีต่อ MJETS ในฐานะผู้นำ Private Jet ใน Southeast Asia”
แล้วในแง่การแข่งขัน ตลาดนี้ถือว่ารุนแรงไหม ?
“ในเชิงเช่าเหมาลำ เราไม่ได้เป็นเจ้าเดียวในไทย และยังมีอีกหลายเจ้าทั่วโลกที่นำนักท่องเที่ยวหรือนักธุรกิจเดินทางเข้ามา แต่สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างคือบริการ Aircraft Management ที่ดูแลทุกอย่างให้เจ้าของเครื่องบิน ตั้งแต่ระบบหลังบ้าน ซ่อมบำรุง ไปจนถึงการขนส่งทั้งหมด เรามี Ecosystem ครบวงจรทั้ง Trip Support, FBO, Ground Handling, MRO และเป็นตัวแทนจำหน่าย เป็น One Stop Service จริง ๆ ครับ”

หลายคนมักมองว่า Private Jet คือความหรูหรา แต่ในมุมของคุณ ความหมายของมันคืออะไร
“จริงๆ แล้วคนที่เดินทางกับ Private Jet จริง ๆ แล้วเขาซื้อเวลา เพราะเวลามันมีค่าเหนือสิ่งอื่นใดครับ เขาสามารถเลือกเวลาที่เดินทางได้ ขึ้น–ลงเมื่อไรก็ได้ จะไปกับครอบครัว เพื่อน หรือคู่ค้าธุรกิจก็ได้หมด มัน Beyond คำว่าหรูหรา เพราะความหรูหราเป็นมาตรฐานที่ลูกค้าต้องการอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “เวลา” และ“อิสระ” ในการเดินทางครับ”
เวลาคุณขึ้นเครื่องในฐานะผู้โดยสารเอง รู้สึกพิเศษไหม ?
“ลูกค้ามักคาดหวังบริการ ความเป็นส่วนตัว และความสะดวกสบาย ซึ่ง MJETS มอบสิ่งเหล่านี้ผ่านบริการ FBO ของเรา ลูกค้าสามารถขึ้นเครื่องได้ภายใน 5 นาทีหลังมาถึง เพราะพวกเขาซื้อ ‘เวลา’ และ ‘ความเป็นส่วนตัว’ นอกจากนี้ เรายังให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และรูปแบบการบริการที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะตัว (bespoke experience) ที่ราบรื่นและมีมาตรฐานสูงสุดครับ”
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ MJETS แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ?
“เราคือ One-Stop Service Solution ที่มีระบบนิเวศครบวงจร ดูแลลูกค้าในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น Aircraft Management, Dispatch, Trip Support หรือบริการภาคพื้น เราทำเองทั้งหมด ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ อินเดีย กัมพูชา และเมียนมา ลูกค้าจึงไว้วางใจในแบรนด์ MJETS เพราะเห็นถึงความครบวงจร ความเป็นส่วนตัว และความตรงต่อเวลาที่เรามอบให้ครับ”
แล้วในอีก 5 ปีข้างหน้า คุณเห็นภาพของ MJETS เป็นอย่างไรบ้าง ?
“เรามีแผนขยายธุรกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นตลาดหลักของเรา ตอนนี้เราขยายไปยังอินเดีย เมียนมา กัมพูชา และสิงคโปร์แล้ว ภายใน 2–3 ปีข้างหน้า ตั้งใจจะมีศูนย์ให้บริการในทุกเมืองหลัก และหากมีโอกาสที่เหมาะสม เรายังพร้อมขยายไปนอกภูมิภาคด้วย ในด้านการบริหารจัดการเครื่องบิน เราตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเครื่องบินเป็นสองเท่าใน 18 เดือนข้างหน้า และเพิ่มรุ่นใหม่ในฝูงบินเช่าเหมาลำ เพื่อให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นครับ”
ในมุมของผู้โดยสาร การเดินทางกับ MJETS เป็นประสบการณ์แบบไหน ?
“หัวใจหลักของเราคือบริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มีบริการ Wi-Fi บนเครื่อง แต่สิ่งที่เหนือกว่าเทคโนโลยีคือการบริการที่เรามอบให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดเตรียมอาหารตามความต้องการ ไปจนถึงการต้อนรับที่อบอุ่นตลอดการเดินทาง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของการเดินทางคือ ‘ผู้ร่วมทาง’ เพราะเรามองว่าช่วงเวลาบนเครื่องคือโอกาสที่คุณจะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความหมาย และหน้าที่ของเราคือทำให้เวลาเหล่านั้นสมบูรณ์แบบที่สุด”

ในมุมของลูกค้า MJETS ให้ความสำคัญกับกลุ่มไหนเป็นพิเศษไหม ?
“เรายินดีให้บริการลูกค้าทุกกลุ่ม เราให้บริการลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่การเดินทางแบบครอบครัว คนดัง ผู้นำประเทศไปจนถึงสัตว์เลี้ยง เราเป็นสายการบินที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly) อย่างในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เราก็มีลูกค้าที่จะเดินทางไปยุโรปพร้อมกับสุนัขของเขาครับ เรียกได้ว่าเราพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบอย่างแท้จริง”
ในฐานะผู้บริหาร ทำอย่างไรให้ “ความปลอดภัย” และ “ประสบการณ์ที่ดี” เดินคู่กันไปได้ ?
“เราดำเนินงานโดยยึดมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพอย่างสูงสุด เราได้รับการรับรองมาตรฐาน IS-BAO และ IS-BAH ในระดับที่ 3 (Stage 3) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมการบินเพื่อธุรกิจ รวมถึงมาตรฐาน ISO 9001 เรามั่นใจว่าเราดำเนินงานด้วยมาตรฐานที่สูงที่สุดในทุกๆ ด้าน”
แล้วกับทีมงานกว่า 200 คนในองค์กร ดูแลกันอย่างไรให้ทุกอย่างราบรื่น ?
“เรามีพนักงานกว่า 200 คน ซึ่งถือเป็นขนาดที่ลงตัว ทำให้ดำเนินงานได้ตามมาตรฐานสูงสุด พนักงานทุกคนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ดูแลกันเหมือนครอบครัว ทุกคนรู้จักชื่อกัน พูดคุยได้อย่างเปิดเผยและเป็นกันเอง บรรยากาศแบบนี้สำคัญมาก เพราะมันทำให้การสื่อสารภายในราบรื่น และทุกคนทำงานอย่างมีความสุข”
เวลามองหาคนใหม่เข้ามาในทีม สิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุดคืออะไร ?
“นอกเหนือจากความสามารถ สิ่งสำคัญที่เรามองหาในทีมงานคือทัศนคติแบบ ‘ทำได้เสมอ’ (Can-Do Attitude) ครับเพราะในโลกของการบินส่วนตัว ลูกค้าคาดหวังว่าจะไม่มีคำว่า ‘ทำไม่ได้’ สำหรับพวกเขา หลายครั้งที่ลูกค้ามีคำขอพิเศษ เราไม่เคยปฏิเสธ เราจะหาทางตอบสนอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อพิเศษ การเดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์พิเศษ ไปจนถึงการจัดหาบอดี้การ์ด รถรับส่ง หรือแม้แต่การจองตั๋วคอนเสิร์ตที่หาได้ยาก เราจัดการให้ได้ทั้งหมดเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า”

คิดว่าทุกวันนี้ตัวเองประสบความสำเร็จหรือยัง ?
“ผมมองว่า MJETS ยังอยู่บนเส้นทางของการเติบโตอย่างต่อเนื่องครับ ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยหยุดพัฒนา และยังคงก้าวไปข้างหน้าเสมอ เราได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับสูงสุดจาก IS-BAO Stage 3 ทั้งในส่วนการดำเนินงานและการให้บริการภาคพื้น ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในอุตสาหกรรมการบินธุรกิจ
นอกจากนี้ เรายังได้รับการโหวตให้เป็น “ศูนย์บริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่ดีที่สุดในเอเชีย” ติดต่อกันถึง10 ปีจาก AIN สิ่งที่เรามุ่งมั่นต่อจากนี้คือการต่อยอดมาตรฐานทั้งด้านความปลอดภัยและบริการให้สูงขึ้นไปอีก พร้อมกับการขยายฝูงบินและเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ในแบบฉบับของ MJets อย่างแท้จริง”
มองเป้าหมายของความสำเร็จไว้อย่างไร ?
”สำหรับผม ความสำเร็จไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่เป็น “การเดินทาง” ที่เราต้องเติบโตอยู่เสมอ ทุกวันนี้ MJETS ถือเป็นผู้เล่นหลักในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว แต่เป้าหมายต่อไปคือการก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลก และถ้าวันหนึ่งเราทำได้สำเร็จจริง ๆ ผมคิดว่านั่นจะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจสูงสุดของในชีวิตของเราทุกคนครับ
แบ่งเวลาระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวยังไงบ้าง ?
“ผมเป็นคนที่หลงใหลในงานที่ทำมากครับ เลยรู้สึกสนุกกับมัน เวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวจึงมักจะผสมกลมกลืนกัน ถ้าให้ทำงานได้ 24 ชั่วโมง ผมก็ทำได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
ถ้าได้กลับบ้าน คุณทำอะไรเป็นอย่างแรก ?
“ผมจะใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ ครับ ตอนนี้มีลูกสาวอายุ 3 ขวบครึ่ง และลูกชายอายุ 4 ขวบครึ่ง เป็นช่วงที่พวกเขากำลังเรียนรู้ทุกอย่าง และผมรู้สึกดีมากที่ได้อยู่กับพวกเขาในทุกช่วงเวลานั้น”

สไตล์การแต่งตัวของคุณเป็นแบบไหน ?
“ในสายงานของผม การใส่สูทผูกเนกไทถือเป็นเรื่องปกติ เลยมีสูทกับเนกไทเยอะมากจนหลายคนชอบแซวว่าผมคงมีครบทุกสีทุกเฉด เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวันไหนจะมีโอกาสแบบไหนรออยู่ ผมเลยชอบเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ
แต่ถ้าเป็นเวลาว่าง ผมจะต่างออกไปเลย ผมชอบแต่งตัวสบาย ๆ ผมใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเป็นตัวเองในมุมที่เรียบง่ายที่สุด
ข้อสุดท้ายแล้ว อยากขอคำแนะนำสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจการบิน ?
“สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นอาชีพในวงการการบิน ผมอยากแนะนำให้ลองเข้ามาในสาย General Aviation หรือ Business Aviation อย่างเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวครับ เพราะนี่คืออุตสาหกรรมที่คุณจะได้เรียนรู้แทบทุกอย่างเกี่ยวกับการบินจริง ๆ
หลายคนที่เข้ามาร่วมงานกับเรา มักจะบอกว่า MJets เหมือน “สถาบันแห่งการเรียนรู้” เพราะพวกเขาได้เห็นทั้งภาพใหญ่และเบื้องหลังทั้งหมดของการทำงาน แตกต่างจากสายการบินพาณิชย์ที่แต่ละคนจะดูแลเพียงส่วนเล็ก ๆ ของระบบที่ใหญ่กว่า
แต่ในวงการ General Aviation คุณจะได้เห็นระบบทั้งหมดว่ามันทำงานอย่างไร โดยเฉพาะที่ MJETS ซึ่งเรามี ‘ระบบนิเวศครบวงจร’ ตั้งแต่ศูนย์ซ่อม ภาคพื้น การบริการลูกค้า ไปจนถึงฝูงบินและการซัพพอร์ตทั้งหมด คุณจะได้เรียนรู้ของจริงจากทุกมุม และประสบการณ์แบบนี้แหละครับ ที่จะยกระดับความเข้าใจของคุณต่ออุตสาหกรรมการบินอย่างแท้จริง”
บทสนทนาจบลงด้วยรอยยิ้มของคุณแม็กซ์รอยยิ้มของคนที่ยังเชื่อในสิ่งที่ตัวเองทำและยังมองท้องฟ้าด้วยความหลงใหลเหมือนวันแรกที่เริ่มต้น สำหรับเขา“ความสำเร็จ” ไม่ได้วัดจากจำนวนเครื่องบินในฝูงหรือยอดผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีแต่คือการได้เห็นลูกค้าทุกคนลงจากเครื่องด้วยรอยยิ้มและความรู้สึกว่า“นี่แหละคือการเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด”



