“ชาตรามือ” (ChaTraMue) แบรนด์ชาไทยอันดับหนึ่งในใจคนไทย ฉลองวาระสำคัญครบรอบ 80 ปี แห่งการเดินทางจากร้านชายุคบุกเบิก สู่การเป็นผู้นำธุรกิจชาครบวงจร ผลักดัน เมนูชาไทย ให้ก้าวขึ้นเป็นเมนูเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกต่างรู้จัก และหลงรัก
งาน ChaTraMue Original Thai Tea Festival ฉลองชาตรามือครบรอบ 80 ปี ไม่ใช่เพียงการเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นโอกาสที่เราจะได้สะท้อนคุณค่าและศักยภาพของชาไทยผ่านพันธมิตรชั้นนำ และส่งต่อแรงบันดาลใจสู่ผู้บริโภครุ่นใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็นความสำเร็จของต้นตำรับชาไทยสู่สากล ผ่านกิจกรรมอันหลากหลายที่ต่างก็ได้แรงบันดาลใจจาก ชาไทยต้นตำรับชาตรามือ เพื่อแฟนๆ ชาไทยตัวจริง อาทิ หลากหลายเมนูสุดพิเศษจาก “ชาตรามือ” เปิดตัวและจำหน่ายให้ได้ลิ้มลองที่งานนี้เป็นครั้งแรก, แก้วลิมิเต็ด 3 สี ทอง เงิน และนาค, บูทสินค้า “ชาตรามือ” คอลเล็กชันพิเศษ และนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวของ “ชาตรามือ” ตลอด 80 ปี จากร้านชายุคบุกเบิก สู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจชาครบวงจร เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบูทจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เมนูชาไทย จาก 10 แบรนด์ดัง ที่สร้างสรรค์เมนูพิเศษเฉพาะงานนี้มาให้ลิ้มลองกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น After You: ขนมปังเนยโสดชาไทย, Layers: Thai Tea Layer Cake, Souri: มาการองชาไทย, Yole: Yogurt Shake Thai Tea, Moone: โรลเค้กชาไทย และน้ำเต้าหู้ปูปลา: ซอฟเสิร์ฟชาไทยงาดำ และน้ำเต้าหู้ชาไทย เป็นต้น
คุณพราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช กรรมการบริหาร แบรนด์ชาตรามือ กล่าวไว้ว่า “นับตั้งแต่ปี 2488 จนถึงปัจจุบัน “ชาตรามือ” ได้สร้างสรรค์ เมนูชาไทย สูตรต้นตำรับที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทย สู่การขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และก้าวสู่การเป็นแบรนด์ที่มีบทบาทในระดับโลก และยังได้ประกาศวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การเติบโตอย่างเป็นทางการ มุ่งเดินหน้าสู่การเป็น Global Brand ที่ตั้งใจจะยกระดับแบรนด์ชาตรามือ สู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก
เพื่อสื่อสารภาพการเดินทางของแบรนด์อย่างชัดเจน พร้อมเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี ที่เราเติบโตเคียงคู่สังคมไทย จึงเป็นที่มาของการจัดงาน “ChaTraMue Original Thai Tea Festival” 80 ปีแห่งความภาคภูมิใจ ต้นตำรับไทยสู่สากล ระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับงาน ‘ChaTraMue Original Thai Tea Festival’ ครั้งนี้ นอกจากจะจัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดคุณค่าความเป็นต้นตำรับของชาไทยจากชาตรามือให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นและสัมผัสกับก้าวใหม่ครั้งสำคัญของแบรนด์สู่ความเป็น Global brand ยังถือเป็นการขอบคุณผู้บริโภคที่อยู่กับเรามาตลอด 8 ทศวรรษด้วยค่ะ”
