Logo Hashtag Legend

วัสดุอัจฉริยะและก้าวสำคัญของนวัตกรรมแฟชั่น

Author: Pimpichaya Chaikittiporn | Photographer: Courtesy of brands

Jan 09, 2025

"...ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ ขณะปัจจุบัน อุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและนวัตกรรมอย่างชัดเจน การพัฒนาวัสดุใหม่ที่มีประโยชน์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญที่กำลังเปลี่ยนโฉมวงการ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุชีวภาพ วัสดุรีไซเคิล วัสดุอัจฉริยะ หรือเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น การพิมพ์ 3D และนาโนเทคโนโลยี การพัฒนาเหล่านี้ไม่ได้เพียงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์แฟชั่นที่ต้องการลดผลกระทบต่อโลกและสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับอุตสาหกรรมนี้..."

วัสดุจากพืชและชีวภาพกำลังเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่น อาทิ Piñatex หรือหนังสับปะรดที่ผลิตจากเส้นใยใบสับปะรด เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับหนัง ด้วยน้ำหนักเบาและทนทาน เหมาะสำหรับการรังสรรค์กระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า นอกจากนี้ หนังจากเห็ด Mycelium ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทอย่าง MycoWorks และ Bolt Threads กำลังได้รับความนิยม เพราะเลียนแบบเนื้อสัมผัสและความรู้สึกของหนังธรรมชาติได้ดี วัสดุจากสาหร่ายยังเป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากย่อยสลายได้ง่ายและช่วยลดมลพิษในมหาสมุทร การรีไซเคิลและอัพไซเคิลเป็นอีกแนวโน้มสำคัญที่ส่งเสริมความยั่งยืนในแฟชั่น โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และ ไนลอนรีไซเคิล ซึ่งผลิตจากขยะพลาสติกและอวนจับปลา กำลังได้รับความนิยมจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Patagonia และ Prada ในการออกแบบคอลเลคชั่นที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การอัพไซเคิลเสื้อผ้าเก่าหรือวัสดุเหลือทิ้งเพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นงานแฟชั่นใหม่ ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะ แต่ยังสร้างเอกลักษณ์ในดีไซน์อีกด้วย

วัสดุอัจฉริยะเป็นอีกก้าวสำคัญของนวัตกรรมแฟชั่น เช่น ผ้าที่นำไฟฟ้าได้ ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ดิจิทัลผ่านเสื้อผ้า วัสดุที่ซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งสามารถแก้ไขรอยขีดข่วนหรือรอยขาดได้ และ ผ้าที่ปรับอุณหภูมิ ที่ใช้วัสดุเปลี่ยนสถานะ (PCMs) เพื่อปรับความร้อนตามสภาพอากาศ เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพของเสื้อผ้า แต่ยังตอบโจทย์ความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ในส่วนของทางเลือกหนังที่ยั่งยืน หนังจากห้องปฏิบัติการ ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการสร้างคอลลาเจน เป็นวัสดุที่เลียนแบบหนังธรรมชาติได้ดี โดยไม่ต้องพึ่งพาการเลี้ยงสัตว์ หนังจากแอปเปิ้ลที่ผลิตจากเศษแอปเปิ้ลยังเป็นตัวเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีความยั่งยืนและให้ลักษณะคล้ายกับหนังดั้งเดิม

กระบวนการผลิตที่ยั่งยืนยังครอบคลุมถึงการใช้ สีย้อมธรรมชาติจากขยะอาหาร เช่น กากกาแฟหรือบีทรูท เพื่อลดผลกระทบจากสีย้อมสังเคราะห์ รวมถึงเทคโนโลยีการย้อมผ้าแบบไม่ใช้น้ำ ซึ่งลดการใช้น้ำและลดมลพิษในกระบวนการผลิต สีย้อมเหล่านี้ได้รับความสนใจจากแบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างในด้านสิ่งแวดล้อม สุดท้าย การพิมพ์ 3D ในแฟชั่นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นักออกแบบใช้เทคโนโลยีนี้สร้างเสื้อผ้า รองเท้า หรือเครื่องประดับจากวัสดุที่ยั่งยืน เช่น พลาสติกชีวภาพหรือพอลิเมอร์รีไซเคิล ตัวอย่างเช่น Iris van Herpen และ Balenciaga ที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ 3D ในคอลเลคชั่น การพิมพ์ 3D ยังช่วยลดของเสียในกระบวนการผลิต โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรองเท้า

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของเทคโนโลยีหาใช่ว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในแบรนด์ต่างประเทศหรือระดับสากลเพียงอย่างเดียว เพราะล่าสุดนี้ Jim Thompson แบรนด์สิ่งทอชื่อดังของประเทศไทยเองได้ทำการเดบิวต์คอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำสำหรับสุภาพบุรุษเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยนวัตกรรมผ้าสุดล้ำอย่าง AQUASILK® ที่ซึ่งเป็นผ้าไหมผสมไนลอนประสิทธิภาพสูงที่ให้สัมผัสแสนนุ่มนวลและเย็นสบายในเวลาเดียวกัน โดยที่ทุกออเดอร์จากคอลเลคชั่น AQUASILK® จะนำเงิน 10% จากยอดขายไปสนับสนุนโครงการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทรด้วยเช่นกัน

ด้วยเรื่องราวดังกล่าว ทำให้ปี 2025 นี้ เราทุกคนพอจะคาดหวังที่จะเห็นการนำวัสดุเหล่านี้มาใช้มากขึ้น เนื่องจากความยั่งยืนจะมีความสำคัญมากขึ้นทั้งในหมู่ผู้บริโภคและแบรนด์ เทคโนโลยีใหม่ เช่น แพลตฟอร์มการออกแบบดิจิทัลและผ้าอัจฉริยะจะพัฒนาไปอีกขั้น และเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ อย่าง Circular Fashion ที่วัสดุสามารถถูกนำมาใช้ใหม่และหมุนเวียนได้ตลอดเวลา แฟชั่นกำลังมุ่งสู่อนาคตที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ฟังก์ชั่น และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้งนักออกแบบและผู้บริโภค

อ่านบทความเพิ่มเติม: ที่สุดของความหรูหราเหนือระดับแห่งไลฟ์สไตล์ที่ส่งผ่านจาก Euro Creation

RECOMMENDED READS