December 25, 2025

เวลาผ่านไปไวมาก เผลอแป๊บเดียวเราก็เดินทางมาถึงช่วงท้ายปี 2025 กันแล้ว ปีนี้ต้องยอมรับเลยว่าแวดวงบิวตี้ยังคงสนุกและคึกคักเช่นเดิม ใครที่ติดตามเทรนด์มาตลอดคงเห็นแล้วว่าเราไม่ได้เน้นแค่การแต่งแต้มสีสันภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับสุขภาพผิวจากภายใน รวมถึงกิจวัตรที่ทำให้รู้สึกดีกับตัวเองอย่างแท้จริงอีกด้วย

ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เราได้ทำความรู้จักเทคโนโลยีความงามใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์สำหรับคนหลงใหลในงานผิว แฮร์คัตที่ตัดแล้วดูเด็กและทันสมัยอยู่เสมอ ไปจนถึงเมกอัพลุคที่พาย้อนกลับไปหาเสน่ห์ยุคเก่า บทความนี้เราจึงตั้งใจรวบรวม 2025 Biggest Beauty Trends ทุกเรื่องราวความงามที่สร้างกระแสไวรัล และเปลี่ยนทัศคติในการดูแลตัวเองของเราตลอดทั้งปี ใครที่ยังอินอยู่ หรืออยากเช็คลิสต์ว่าปีนี้เราพลาดเทรนด์ไหนไปบ้าง มาอ่านบทสรุปไปพร้อมกันเลย

1. 90S LIP LINER

Photo: Instagram @sabrinacarpenter

เทคนิคการเขียนขอบปากจากยุค 90 และกลับมาเป็นเทรนด์ฮิตอีกครั้งในปัจจุบัน เอกลักษณ์ของลุคนี้คือการใช้ดินสอเขียนขอบปากสีเข้มตัดกับสีลิปสติกด้านในที่อ่อนกว่า เพื่อสร้างความโดดเด่นให้ริมฝีปากดูมีมิติที่คมชัดเหมือนซูเปอร์โมลในยุคนั้น จุดเด่นของเทรนด์นี้คือการเลือกสีลิปที่คอนทราสต์ มักใช้ดินสอเขียนขอบปากสีน้ำตาล (Brown) น้ำตาลเทา (Taupe) หรือสีม่วงตุ่น (Mauve) ที่เข้มกว่าสีปากจริงประมาณ 2-3 เฉด วาดขอบปากให้เกินรูปปากออกมาเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณ รอยหยักริมฝีปาก (Cupid’s Bow) เพื่อให้ปากดูหนาและอิ่มเอิบแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์บริเวณกึ่งกลางริมฝีปากให้ใช้ลิปสติกสีนู้ดหรือสีเบจ จากนั้นไล่เฉดเป็นออมเบร (Ombré) ทาทับด้วยลิปกลอสใสหรือลิปที่มีความแวววาว

2. THE BOB CUT

Courtesy of Saint Laurent

ผมบ๊อบกลับมาทวงบัลลังก์ในฐานะทรงผมยอดฮิตอีกครั้ง เพราะนอกจากจะดูแลจัดการง่าย ยังช่วยปรับลุคให้ดูเด็กลงด้วย ทรงบ๊อบที่ตัดเท่าระดับกรามของไอคอนสาว เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ซึ่งเป็นลุคใหม่หลังจากที่เธอประกาศเปิดตัวค่ายของตัวเองในชื่อ Becky Entertainment เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ได้ไม่น้อย ในขณะที่ปีนี้ เอมี่-ทสร กลิ่นเนียม เปลี่ยนจากสาวผมยาว หันมาตัดผมบ็อบสไลซ์เลเยอร์ล้อมกรอบหน้า เซ็ตแบบ messy ให้ดูยุ่งๆ เปิดฤกษ์ก่อนเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ Saint Laurent Women’s Summer 2026 เป็นครั้งแรก หรือการปรากฏตัวของเอ็มม่า สโตน (Emma Stone) ในรายการทอล์กโชว์ The Late Show With Stephen Colbert พร้อมกับเสื้อผ้าสีเขียวโอลีฟ ก็เรียกได้ว่าหน้าส่งผม ผมส่งชุดสุดๆ ใครที่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับตัวเอง ลองเริ่มจากตัดผมดูก่อนก็ได้ เหมือนอย่างคำกล่าว “A woman who cuts her hair is about to change her life.” ของ Coco Chanel ที่ยังคงคลาสสิกเสมอ

3. CLOUD BLUSH

Cloud Paint จาก Glossier

เทคนิคการปัดแก้มที่เน้นความละมุน ฟุ้งกระจายแบบก้อนเมฆ และดูเป็นธรรมชาติเหมือนผิวที่มีเลือดฝาดจากภายใน เทรนด์นี้ได้รับความนิยมเพราะช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง ฟินิชลุคจะเป็นแบบ Dreamy & Soft Focus ปัดแล้วจะไม่เป็นปื้นหรือเห็นขอบชัดเจน แต่จะมีความฟุ้ง (Blured Effect) เหมือนก้อนเมฆที่ค่อยๆ กลืนไปกับผิว มักใช้บลัชออนเนื้อครีม เนื้อลิควิด หรือเนื้อพุดดิ้งเพื่อให้เกลี่ยง่าย ปัดบริเวณโหนกแก้มช่วงบนหรือหน้าแก้ม แล้วลากเบาๆ ผ่านสันจมูก (W-Shape) เพื่อให้ดูเหมือนผิวบ่มแดด หรืออาการเขินอายที่เป็นธรรมชาติ มักใช้โทนสีที่มีความนุ่มนวล เช่น Baby Pink (ชมพูนม) Soft Peach (ส้มพีช) และ Lavender (สีม่วงอ่อน ซึ่งช่วยลดความเหลืองของผิวและทำให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น)

4. PDRN SKINCARE

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า 360 Shot PDRN Active Serum จาก Centellian 24

ในปี 2025 วงการ K-Beauty กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากผลักดัน PDRN (Polydeoxyribonucleotide) ให้เกิดเป็นกระแสในแวดวงบิวตี้ ผ่านหัตถการฟื้นฟูผิวยอดนิยมที่มีชื่อว่า รีจูรัน (Rejuran) ซึ่งหลายคนคงทราบอยู่แล้วว่า PDRN คือส่วนประกอบระดับดีเอ็นเอจากสเปิร์มแซลมอน (Salmon DNA) และขึ้นชื่อเรื่องการเป็น Skin Booster ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้น จากนั้นก็เพิ่มทางเลือกสำหรับคนที่กลัวเข็มด้วย PDRN Skincare ตามมาอีกระลอก

5. AZELAIC ACID

ผลิตภัณฑ์ Azelaic Acid Suspension 10% จาก The Ordinary

กรดอะซีลาอิกคือกรดธรรมชาติที่พบได้ในธัญพืช เช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี และข้าวไรย์ เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมในสกินแคร์ที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นสารที่มีคุณสมบัติหลายอย่างและมีความอ่อนโยนสูง ในสกินแคร์มักมีความเข้มข้นไม่เกิน 10% เช่น แบรนด์ The Ordinary หรือ Paula’s Choice เหมาะสำหรับใช้ดูแลผิวทั่วไป โดดเด่นด้วยสรรพคุณหลักที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (P. acnes) ที่เป็นสาเหตุของสิว ช่วยยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่ผลิตเม็ดสี ช่วยให้รอยสิว ฝ้า กระ แลดูจางลง ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยน และช่วยลดอาการบวมแดงของสิวอักเสบ

6. LYMPHATIC FACE MASSAGE

N°1 de Chanel Massage Accesssory

โลกความงามในปีนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การประทินผิวภายนอก แต่ได้ยกระดับสู่สุนทรียศาสตร์แห่งการดูแลตัวเองอย่างยั่งยืน (Sustainable Self-Care) โดยเฉพาะความใส่ใจในเรื่อง ‘โครงหน้า’ ที่ชัดเจนและสุขภาพผิวที่เปล่งประกายจากภายใน สังเกตว่าผู้คนเริ่มปรับพฤติกรรมจากการพึ่งพาหัตถการหรือสกินแคร์เพียงอย่างเดียว หันมาให้ความสำคัญกับกลไกธรรมชาติของร่างกายมากขึ้น การใช้เวลา 5-10 นาทีในตอนเช้าเพื่อนวดเดรนน้ำเหลืองบริเวณใบหน้าโดยใช้มือเปล่าหรืออุปกรณ์อย่างกัวซา (Gua Sha) ได้กลายเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้ เพราะนี่คือวิธีดีท็อกซ์ผิวแบบง่ายๆ ที่จะช่วยขับของเสียและน้ำส่วนเกินที่คั่งค้างอยู่ใต้ชั้นผิวออกไป อาการบวมบริเวณใบหน้า รอบดวงตา และลำคอที่มักเกิดขึ้นหลังตื่นนอน จึงถูกจัดการได้อย่างตรงจุด ช่วยเผยโครงหน้าที่คมชัดและลดการอักเสบของผิวได้ดี นอกจากนี้การสัมผัสที่แผ่วเบายังช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความงามที่ยั่งยืน เพราะผิวที่ปราศจากความเครียดคือผิวที่ดูเยาว์วัยและมีชีวิตชีวาที่สุด

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search