“…ตัวตนหลากแง่มุมของเบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง นักแสดงดาวรุ่งหญิงที่ครองหัวใจแฟนคลับนับล้าน…”

จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบฟังเพลงของ Taylor Swift เป็นชีวิตจิตใจ และมีความใฝ่ฝันที่จะก้าวเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง วันนี้เบ็คกี้-รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ได้กลายมาเป็นดาวรุ่งหญิงที่มีแฟนคลับติดตามนับล้านคน หลังจากประสบความสำเร็จจากซีรีส์วายสายเกิร์ลเลิฟทฤษฎีสีชมพู GAP The Series ประตูแห่งโอกาสในวงการบันเทิงนั้นได้เปิดต้อนรับเธอคนนี้กับบทบาทที่หลากหลาย ซึ่งเบ็คกี้เปิดใจกับ #legend_th ว่าเธอยังต้องการที่จะสานต่อความฝันการเป็นนักร้องและเธอนั้นหลงใหลการทำงานบนเส้นทางนี้ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม

“เบ็คกี้ยังอยากเป็นนักร้องอยู่นะคะ อยากมีเพลงเป็นของตัวเองแต่ถ้าทำอัลบั้มเป็นของตัวเองมันอาจจะใช้เวลา ตอนนี้หนูก็มีเขียนเพลงบ้างนะคะ หนูชอบฟังเพลงที่ตัวเองรู้สึก relate ได้ ถ้าเราได้เขียนเพลงให้คนอื่นฟังแล้วเขารู้สึกไปกับเรา เพลินไปกับเพลงของเรามันน่าจะดีมากนะคะ ตอนนี้ก็จะได้ร้องเพลงประกอบบ้างค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองนะคะ…จริงๆ เบ็คกี้ชอบทำงานทุกด้านเลยค่ะ มันสนุกในทุกวันไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นางแบบ หรือออกอีเวนต์ คือเราเป็นคนที่มีแพสชั่นด้านนี้สูงมาก อยากเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กพอได้มีโอกาสเข้ามาทำงานตอนนี้ก็รู้สึกดีใจ ถึงแม้ว่าจะมีกดดันตัวเองบ้าง แต่เรารู้สึกสนุกได้เจอกับคนใหม่ๆ ทุกวัน ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในทุกวัน มันไม่น่าเบื่อเพราะมีอะไรให้ตื่นเต้นตลอด”

นอกจากฝีมือการแสดงที่ถูกถ่ายทอดผ่านซีรีส์เรื่องดังแล้วยังมีเรื่องของความสัมพันธ์นอกจอระหว่างเบ็คกี้และฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ ที่ผู้คนให้ความสนใจ

“เจอกันครั้งแรกที่เวิร์คช้อปของซีรีส์แอบหลงรัก ไม่รู้ว่าเราต้องเล่นด้วยกัน แล้วผู้จัดเห็นเคมีบางอย่างก็เลยจับเรามาคู่กัน ซึ่งทำให้เราได้มีผลงานเรื่องต่อมาคือทฤษฎีสีชมพู GAP The Series เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราเป็นที่รู้จักเบ็คก็ตกใจเหมือนกันนะไม่คาดคิดเลย ตอนนี้ทำงานด้วยกันมานานสี่ปีแล้ว เราอยู่ด้วยกันในทุกห้วงอารมณ์ เวลาเจอปัญหาอะไรเราสองคนก็จะช่วยกันหรือในวันที่มีความสุขได้รับรางวัลเราก็อยู่ด้วยกัน หรือแม้แต่ในเวลาที่เครียดก็ปรึกษากัน รู้สึกว่าเรามีความรับผิดชอบในสิ่งต่างๆ ร่วมกัน เราทั้งคู่ทำงานเยอะก็จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพเข้ามาเพราะทำงานจนลืมนึกถึงตัวเอง มีหลายครั้งที่เราป่วยแต่เราฝืนทำงานคิดว่ายังไหวและสุดท้ายไปจบที่โรงพยาบาล ปีนี้ตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่าจะพยายามไม่ให้เป็นแบบนั้นเพราะทุกคนก็เป็นห่วงเราทั้งคู่”

แม้ใครหลายคนจะมองว่าเธอเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ตัวตนที่แท้จริงของเบ็คกี้นั้นยังเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีความต้องการในชีวิตไม่ต่างจากคนทั่วไป

“ความสุขของเบ็คมันคือการที่เราเข้านอนแล้วไม่มีอะไรต้องคิดในหัวนะคะ มันเหมือนเป็นเรื่องเล็กนะแต่มันค่อนข้างสำคัญสำหรับหนู​ หนูจะมีเรื่องคิดเยอะมากก่อนเข้านอน บางทีเรามักมีความคิดแนว What if ขึ้นมา ถ้าเราเลือกการกระทำอีกแบบผลของมันจะออกมาเป็นยังไง เราไม่อยากให้ตัวเองมีความคิดแบบนั้น มันคือการไปนอนแบบไม่มีความสุขเป็นการข่มตาให้ตัวเองหลับพอตื่นขึ้นมาเราก็ต้องวนอยู่กับความคิดแบบนี้ใหม่ เหมือนตอนที่หนูเล่นเรื่องปิ่นภักดิ์ หนูจะร้องไห้กับตัวเองบ่อยมาก มีความเครียดและกังวลกับภาษามากๆ เราพยายามแล้วแต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิดสักที แต่ตอนนี้มันผ่านไปแล้วหนูก็มีความโล่งใจเพราะมันผ่านไปแล้ว แต่มันก็อาจจะมีเรื่องใหม่ให้คิดอีก ความสุขมันคือการไปนอนแล้วไม่มีอะไรคิดในหัว เออวันนี้มันเป็นหนึ่งวันที่ดีนะ แค่นี้เลยค่ะ”

อีกหนึ่งความฝันที่เบ็คกี้อยากจะทำให้สำเร็จคือการเรียนกฎหมาย และแม้ว่าเธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วในวันนี้เบ็คกี้กลับมองว่าตัวเองยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพิสูจน์ต่อไป

“ตอนนี้การเรียนกฎหมายจะเหลือแค่ฝึกงานค่ะ ซึ่งต้องไปฝึกงานจริงๆ ใจก็พยายามหาอยู่จะทำยังไงให้ฝึกงานที่ประเทศไทยได้ มันใช้เวลานานสองเดือนซึ่งมันกระทบกับงานในวงการตอนนี้ ซึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้เพราะหนูเองก็ไม่อยากทิ้งแฟนๆ ไปตอนนี้ มันเป็นเวลานานเหมือนกันนะคะสองเดือน เบ็คให้ความสำคัญกับทั้งสองเรื่องนะคะแต่ตอนนี้มันหาเวลาที่จะไปทำไม่ได้จริงๆค่ะ…คำว่า Success หนูยังไม่ให้คะแนนตัวเองเต็มนะคะ เพราะหนูคิดว่าตัวเองมีเรื่องให้ปรับปรุงอยู่เสมอ มันยังไม่มีอะไรที่ดีแบบร้อยเปอร์เซนต์ แต่เราก็ขอบคุณตัวเองนะที่ผ่านเรื่องราวทุกอย่างมาได้”

สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ตลอดทั้งวันที่อยู่กับนักแสดงดาวรุ่งคนนี้คือความสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ พลังงานดีๆ ที่เธอส่งต่อให้กับคนอื่นผ่านรอยยิ้มและบทสนทนาที่เป็นกันเอง มากไปกว่านั้นคือศักยภาพในการทำงานของเธอ ทุกครั้งที่เบ็คกี้เดินเข้าฉากเพื่อเริ่มการถ่ายทำ เธอได้สวมบทบาทเป็นอีกคนหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อ่านสัมภาษณ์พิเศษของ Rebecca Patricia Armstrong เต็มรูปแบบได้ที่นิตยสาร Hashtag Legend Thailand ฉบับเดือนตุลาคมได้แล้ววันนี้