June 12, 2024

“…Cruise 2025 Collection ถือเป็นงานออกแบบที่แฟชั่นเฮ้าส์ฝรั่งเศสต่างก็ปล่อยพลังโชว์ความเหนือชั้นทั้งในแง่ของงานดีไซน์ งานฝีมืออันละเอียดลออ รวมไปถึงโลเคชั่นในการจัดแสดงโชว์ที่เป็นเหมือนฉากหลังที่บอกเล่าข้อความที่แฝงอยู่ในผลงานออกแบบได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดิออร์ (Dior) ถือเป็นอีกหนึ่งเมซงที่พาเราออกเดินทางไปสู่ดินแดนอันแสนไกลและชวนฝัน ผ่านผลงานดีไซน์ที่หลายคนมองว่าเป็นคอลเลคชั่นที่น่าจดจำที่สุดของมาเรีย กราเซีย คิอูรี (Maria Grazia Chiuri)…”

โชว์ครั้งนี้จัดขึ้น ณ สวนสวยในพระราชวังดรัมมอนด์ (Drummond) สถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นฉากหลังที่ลงตัวสำหรับงานดีไซน์ที่หลอมรวมความโรแมนติกเข้ากับความดราม่า เป็นคอลเลคชั่นที่หยิบเอาองค์ประกอบจากทั้งแฟชั่นเฮ้าส์ฝรั่งเศสและรากฐานของสกอตแลนด์มาผสมผสานกันได้อย่างน่าค้นหา เราได้เห็นการจับคู่เดรสผ้าลูกไม้เข้ากับรองเท้าบู๊ตหนังไบค์เกอร์ บาร์แจ๊คเก็ตที่ตัดเย็บด้วยผ้าทาร์ทาน  การถ่ายทอดความเป็นเฟมิมิสต์ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากที่เธอเคยสร้างสรรค์มา

The Collaborations

เมื่อพูดถึงวัฒนธรรมของสกอตแลนด์ที่สะท้อนผ่านแฟชั่นแล้ว ผ้าลายสกอตหรือที่เรียกว่าทาร์ทานถือเป็นสิ่งแรกที่บ่งบอกความเป็นสกอตแลนด์ได้ดีที่สุด แต่สำหรับจดหมายรักที่มาเรีย กราเซียตั้งใจประพันธ์ให้สก็อตแลนด์ในครั้งนี้มีมิติที่น่าสนใจมากกว่านั้น โดยเริ่มต้นจากรากฐานแฟชั่นของสกอตแลนด์ที่มีชื่อเสียงในการตัดเย็บสไตล์เทเลอร์เมดรวมถึงการผลิตผ้าคุณภาพเยี่ยม ครั้งนี้เธอได้ร่วมงานกับโรงงานและแบรนด์ท้องถิ่น เพื่อสรรสร้างชิ้นงานที่มีกลิ่นอายของแผ่นดินนี้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับ Johnstons of Elgin ดีไซน์และตัดเย็บสเวตเตอร์แคชเมียร์, ผ้าคลุมแผนที่สกอตแลนด์ทำจากผ้าแคชเมียร์สองด้านที่ละเอียดลออด้วยงานทอผสมงานปักด้วยวัสดุที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ นอกจากนั้นยังได้ร่วมงานกับ Lekilr x Lochcarron เพื่อสร้างสรรค์กระโปรง Kilt รูปแบบต่างๆ ที่ตัดเย็บด้วยผ้าทวีดลายเฮอริงโบนที่ทั้งทนทานและมีดีไซน์สวยในทุกรายละเอียด

ไม่เพียงเท่านั้นดิออร์ยังได้ร่วมงานกับ Robert Mackie of Scotland เพื่อออกแบบแอ็กเซสเซอรี่อย่างหมวกเบเรต์ตกแต่งไหมพรมสุดน่ารักที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคการทอแบบดั้งเดิม ในคอลเลคชั่นนี้ยังมีลวดลายเพ้นต์และดีเทลการปักตัวอักษรซึ่งเป็นผลงานศิลปินสาวชาวอังกฤษ Pollyanna Johnson Ceramics ผู้รังสรรค์ภาพวาดบนเซรามิกที่มักนำแรงบันดาลใจจากพอร์เทรตของผู้หญิงในประวัติศาสตร์รวมถึงศิลปะการเขียน Typography มาออกแบบตัวอักษรที่มีเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นลายปักตัวอักษรสีแดงบนชุดกระโปรงหนังแขนพองหรือเสื้อเชิ้ตสวมทับด้วยคอร์เซ็ตเพ้นต์ลายสีน้ำไล่ระดับที่เพิ่มมิติให้กับผู้หญิงของดิออร์ได้อย่างน่าสนใจ

Punk Aesthetics

ผืนผ้าลายสกอตซึ่งมีมาแต่ดั้งเดิมเมื่อผ่านกาลเวลามามันได้ถูกนำมาใช้ในการแต่งตัวของกลุ่มวัฒนธรรมพังค์ซึ่งได้รับความนิยมในอังกฤษและสกอตแลนด์นับตั้งแต่ช่วงปี 70S และส่งอิทธิพลไปทั่วโลกไม่น่าแปลกใจที่กลิ่นอายของดนตรีพังค์นั้นยังคงฟุ้งกระจายไปทั้งคอลเลคชั่น ด้วยการใช้องค์ประกอบอย่างเข็มขัดและโช้คเกอร์หนัง หมุดโลหะ,หมุดไข่มุก และหมุดคริสตัลประดับบนเสื้อผ้าและกระเป๋าสะพายแบบ crossbody  การมิกซ์แอนด์แมตช์ลุคเข้ากับรองเท้าบู๊ตหนังยาวและถุงเท้ายาวครึ่งน่องลายตาราง เป็นส่วนผสมที่ลงตัวในงานออกแบบของมาเรีย กราเซีย นอกจากลุคเสื้อผ้าแล้วการสไตลิ่งหน้าและผมในโชว์นี้ด้วยเมคอัพสีธรรมชาติ คิ้วปัดตั้งขึ้นไล่เรียงเส้น ผมเปียเดี่ยวแบบไม่เนี้ยบที่ตกแต่งด้วยหมุดหนามยังช่วยเสริมให้ลุคนางแบบโดยรวมชวนหลงใหลมากยิ่งขึ้น

ย้อนกลับไปในปี 1955 เมอซิเออร์ดิออร์ได้เดินทางไปจัดแสดงโชว์ในห้องบอลรูมของโรงแรม Glenegles ในสกอตแลนด์ โดยในคอลเลคชั่นนั้นมีทั้งหมด 172 ลุค ในครั้งนี้ยังถูกเลือกเป็นสถานที่ในการรับรองแขกทั่วโลกที่มาเข้าร่วมแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ ภาพความทรงจำจากโชว์ครั้งนั้นยังได้ถูกนำมาเป็นลวดลายพิมพ์ภาพถ่ายขาวดำและนำมาใช้สร้างสรรค์เป็นเทรนช์โค้ตผ้าพิมพ์ลาย รวมถึงรายละเอียดในการตกแต่งชุดที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับลุคต่างๆ เป็นการรำลึกถึงวันวานที่ทำออกมาได้ทันสมัยและน่าสวมใส่  

Mary of Scots

Mary ราชินีแห่งสก็อตแลนด์ผู้ครองราชย์ดินแดนแห่งนี้ยาวนานร่วมสองทศวรรษ คือหนึ่งแรงดลใจสำคัญในงานออกแบบครั้งนี้ รวมถึงการแต่งตัวของผู้หญิงในยุคกลาง ที่มีโครงเสื้อแขนพอง ปกคอระบายตั้ง  ชุดกระโปรงยาวแบบผ่าหน้ามาถึงช่วงเอว รวมไปถึงชุดเกราะ ก่อนที่มาเรีย กราเซียจะได้สร้างสรรค์คอลเลคชั่นนี้ขึ้นมาเธอได้ไปเยี่ยมชม Musee de Cluny เธอได้ชื่นชมศิลปะบนผืนพรมจากยุคกลางที่ถักทอเป็นลวดลายชวนฝันเป็นรูปยูนิคอร์น สิงโต สตรีในยุคนั้นที่แต่งตัวอย่างงดงามท่ามกลางพรรณพฤกษา นอกจากนั้นมาเรีย กราเซียยังได้ใช้แรงบันดาลใจจากงานปักที่ควีนแมรี่ได้พร่ำเพียรทำขึ้นในระหว่างที่เธอถูกกุมขังเป็นเวลาเกือบสองทศวรรษก่อนที่จะถูกประหารชีวิตในข้อหากบฏความรุ่มรวยและสัญลักษณ์ในงานออกแบบเหล่านั้นได้ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นชุดสวยในหลากหลายลุคโดยช่างฝีมือของดิออร์ได้รังสรรค์ขึ้นมาจากงานฝีมือเทคนิคการตัดเย็บอันละเอียดออ ทั้งการต่อลูกไม้ งานปักลูกปัดนับร้อยนับพันเป็นรูปดอกธิสเซิลรวมถึงการปักคริสตัลและไข่มุกลงบนผืนผ้าลายตารางที่ให้อารมณ์เดียวกับเสื้อผ้าที่สตรีในยุคกลางสวมใส่ในรูปแบบที่ร่วมสมัย

 

ลุคเมคอัพแบบธรรมชาติคิ้วปัดเรียงเส้นในแนวตั้งและผมเปียเดี่ยวแบบเซอร์ๆช่วยให้ลุคในโชว์ครั้งนี้สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ


อ่านบทความเพิ่มเติม: ศิลปะแห่งการเดินทางและมนต์เสน่ห์ของสเปนถ่ายทอดสู่คอลเลคชั่น Cruise 2025 จาก Louis Vuitton งานออกแบบสวยล้ำผ่านมุมมองของ Nicolas Ghesquière

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search