ร้านอาหารไทย
September 22, 2025

หากคุณมีโอกาสแวะมาพักผ่อนที่โรงแรม W Bangkok เราอยากให้เผื่อเวลาช่วงเที่ยง หรือช่วงเย็นไว้สักนิดเพื่อมาฝากท้องที่ห้องอาหารพาย ร้านอาหารไทย ร่วมสมัยที่ตั้งอยู่ภายในเดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร อาคารโบราณที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งนี้

ห้องอาหารพาย เป็น ร้านอาหาร ร่วมสมัยที่พัฒนา และอนุรักษ์ความเป็นต้นตำรับของอาหารไทยไว้อย่างครบถ้วน ควบคู่ไปกับการเติมแต่งความร่วมสมัยเข้าไป เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทยรสดั้งเดิม แต่ละเมนูรังสรรค์ขึ้นโดย เชฟโจ วีรเกต นิลายน หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร เชฟโจเล่าให้เราฟังว่าเขาใช้แรงบันดาลใจจากความชอบส่วนตัว และบุคคลรอบข้างในการครีเอทเมนูแต่ละจานออกมาให้ดูแตกต่าง น่าสนใจ แต่ยังคงคุ้นลิ้นคนไทยไม่เปลี่ยนแปลง

ร้านอาหารไทย

สำหรับเมนูที่เรามาชิม ณ ร้านอาหารไทย ในวันนี้ เชฟเตรียมไว้ให้ทั้งหมด 6 เมนู ซึ่งเป็นเมนูใหม่ที่ทั้งแปลกใหม่ และน่าสนใจชนิดที่ได้กลิ่นแล้วชวนให้หิวกันพอสมควร เริ่มที่จานแรก ยำสตรอว์เบอร์รีกุ้งย่าง เชฟโจบอกเราว่าได้แรงบันดาลใจมาจากคุณแม่ เพราะคุณแม่ชอบกินสตรอว์เบอร์รีมาก จึงลองนำมาจับคู่กับกุ้ง ปรุงรสออกมาเป็นยำในแบบของไทย ทั้งเนื้อสัมผัส และรสชาติหวานอมเปรี้ยว เมื่อรวมกับความเผ็ดนิดๆ ของเครื่องเทศ จานนี้จึงเหมาะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยสำหรับจานต่อไปมากทีเดียว

ร้านอาหารไทย

จานต่อไปเป็น สะเต๊ะกุ้ง ที่เชฟตั้งใจทำให้คุณแม่ด้วยเช่นกัน เพราะคุณแม่เชฟชอบกินกุ้งมาก บวกกับคุณแม่เป็นคนภูเก็ต เชฟจึงพยายามทำจานนี้ออกมาให้มีกลิ่นอายของอาหารอิสลามรวมอยู่ด้วย ซึ่งเราชิมแล้วรู้สึกถูกปาก กุ้งชิ้นโตนุ่มเด้งไม่เหนียว ซอสสะเต๊ะรสชาติจัดจ้าน เครื่องเทศเนียนละเอียน กินแกล้มคู่กับผักสด และหอมดองสูตรเฉพาะของเชฟยิ่งอร่อยกลมกล่อม ให้รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครบมิติ

ร้านอาหารไทย

อีกหนึ่งจานที่นับว่าเป็นไฮไลท์ของมื้อนี้เลยก็ว่าได้ คือ มัสมั่นแกะ ที่เชฟเสิร์ฟขาแกะยักษ์ในแกงมัสมั่นมาให้เรา เราประทับใจตรงที่เชฟพิถีพิถันในการเตรียมขาแกะมาก เริ่มจากนำขาแกะไปหมักข้ามคืนก่อน จากนั้นนำไปสโลว์คุก อุณหภูมิ 90 องศา ทั้งหมด 12 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อแกะนุ่ม ไม่เหนียว ไม่เหม็น ส่วนพริกแกงเชฟก็เตรียมเอง ตำเอง เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นที่ไม่เหมือนกับที่อื่น ยิ่งกินกับทุเรียนกรอบที่เสิร์ฟมาคู่กันยิ่งอร่อย จากที่เราชิม กลิ่นสาบของแกะน้อยจริงอย่างที่เชฟว่า ส่วนเนื้อแกะนุ่มเนียนแทบจะละลายในปาก เนื้อร่อนออกจากกระดูกแบบไม่ต้องใช้แรงเลาะ แนะนำให้กินกับข้าวสวยร้อนๆ จะยิ่งเพิ่มรสชาติความอร่อยชวนให้ติดใจ

เชฟโจบอกกับเราเพิ่มเติมว่า มัสมั่นแกะเมนูนี้ทำจำนวนจำกัดต่อวันต่อรอบ เสิร์ฟรอบละแค่ 4 จานเท่านั้น ใครที่อยากลิ้มรสชาติความนุ่มละมุนแต่จัดจ้านถึงใจของแกะชามนี้ ต้องรีบมารีบสั่ง

ร้านอาหารไทย
ร้านอาหารไทย

ต่อกันด้วย ต้มกะทิเนื้อเค็ม ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟชอบเป็นพิเศษ จานนี้เชฟรวมเนื้อจากออสเตรเลีย 3 ประเภทเข้าไว้ด้วยกัน คือ ซันดรายวากิว, เสือร้องไห้รมควัน และแก้มวัวที่ใช้เวลาปรุง 2 วัน เพื่อให้ต้มกะทิชามนี้แตกต่าง มีรสสัมผัสหลากหลาย ถ้าอยากให้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้นแนะนำให้กินกับลูกโดดจะยิ่งอร่อย จานเนื้ออีกจานที่อร่อยไม่แพ้กัน คือ ข้าวซอยเนื้อ ที่มีรสชาติเข้มข้น เชฟเพิ่มลูกชะโกลงไปเพื่อให้กลิ่นหอมเย็นที่แตกต่างไม่ซ้ำกับที่ไหน ยิ่งกินกับผักกาดดองยูนนานยิ่งกลมกล่อม ลดความเลี่ยนไปได้เยอะมาก

ร้านอาหารไทย

ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย ผัดไทล็อบสเตอร์ จานใหญ่แบบจุกๆ ที่เสิร์ฟกุ้งล็อบสเตอร์ตัวโตเนื้อนุ่มเด้งมาพร้อมกับเส้นจันทน์เหนียวหนึบ ซอสเคลือบเส้นตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย ให้รสชาตินัวอร่อย ไม่หวานเลี่ยน และไม่อมน้ำมัน สิ่งที่ทำให้เราประทับใจ คือ เชฟเปลี่ยนจากกุ้งแห้งมาเป็นกุ้งเต้น ทำให้ทั้งรสสัมผัส และรสชาติเข้มข้นกว่าเดิม สมแล้วกับที่เชฟบอกว่าถ้าอยากกินอาหารไทยที่แตกต่าง แต่ยังคงมีกลิ่นอายที่เราคุ้นเคย ต้องมากินฝีมือเชฟที่ห้องอาหารพายเท่านั้น

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเมนูอาหารของ ห้องอาหารพาย ร้านอาหารไทย ร่วมสมัยแห่งนี้เท่านั้น ยังมีเมนูที่น่าสนใจอื่นๆ รอให้เราไปลิ้มลองอีกมากมาย ใครอยากสัมผัสอาหารไทยต้นตำรับฝีมือเชฟโจ สามารถแวะมาที่ห้องอาหารได้ตั้งแต่เวลา 12.00-23.00 น. ร้านตั้งอยู่ชั้น 1 ภายในเดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search