Omega เผยแคมเปญ Precision ถ่ายทอดความยอดเยี่ยมของกรรมวิธีรังสรรค์เรือนเวลา
Author: Kantinan Srisan | Photographer: -
Apr 04, 2024
โอมาก้า (Omega) หนึ่งในชื่อของแบรนด์นาฬิกามากเรื่องราวที่สร้างคุณูปการให้กับอุตสาหกรรมเรือนเวลามากว่า 176 ปี ด้วยจิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิก ทำให้โอเมก้าเป็นหนึ่งในแบรนด์เรือนเวลาที่มีนวัตกรรมล้ำสมั้ยเสมอมาผ่านหลากหลายโมเดลระดับไอคอนิคอันเป็นที่รักของคนทั่วโลก และ Precision คือแคมเปญใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์ที่จะมาตอกย้ำถึงความสมบูรณ์แบบเหล่านี้อีกครั้ง ผ่าน 3 เรื่องราวสำคัญที่ทางแบรนด์ยึดถือเป็นสำคัญ
ความเที่ยงตรงและแม่นยำ
หัวใจสำคัญของการออกแบบที่โอเมก้าไม่เคยละลายและพัฒนาสู่ความเหนือระดับอย่างต่อเนื่อง และระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial คือหนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่ทาวแบรนด์ภาคภูมิใจเสมอมา เผยโฉมครั้งแรกในปี 1999 ผ่านวิสัยทัศน์ของ George Daniels โดดเด่นด้วยพื้นผิวสัมผัสที่น้อย อันส่งผลให้เกิดแรงเสียดทานต่ำและต้องการสารหล่อลื่นน้อย พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริง (Si14) ที่มีความบางมากกว่าเส้นผมของมนุษย์ถึงสามเท่า ทนทานต่อแรงกระแทกและไม่ได้รับผลกระทบจากสนามแม่เหล็กอย่างสิ้นเชิง ชิ้นส่วนสำคัญในกลไกของโอเมก้านับแต่ปี 2008 ที่ยังคงยอดเยี่ยมมาจวบจนปัจจุบัน ทั้งยังการันตีความเหนือระดับด้วย Master Chronometer ที่มีคุณสมบัติต้านทานสนามแม่เหล็กได้สูงถึง 15,000 เกาส์ พร้อมระดับความเที่ยงตรงอันยอดเยี่ยม ที่ได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวดตลอดระยะเวลากว่า 10 วันโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (METAS)
วัสดุและผิวสัมผัส
เป็นที่สังเกตุได้ว่าวัสดุและผิวสัมผัสของเรือนเวลาโอเมก้านั้นมีความแตกต่าง อัลลอยหลากชนิดได้เสริมการออกแบบเรือนเวลาของแบรนด์ให้มีสีสันโดดเด่นและความคงทนอันเป็นหนึ่ง พร้อมเผยถึงจุดเด่นและความแตกต่างที่สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ไม่ว่าจะเป็น
Sedna Gold อัลลอยชิ้นงามโทนสีแดงของ OMEGA ที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ปี 2012 โดดเด่นด้วยความทนทานต่อการซีดจางจากกาลเวลา Canopus Gold อัลลอยไวท์โกลด์ 18K ที่ประยุกต์ใช้ตั้งแต่ปี 2015 ถ่ายทอดสัญญะแห่งความหรูหราในทุกรายละเอียดและทนทานต่อการซีดจาง วัสดุในอุดมคติสำหรับเรือนเวลาชั้นสูง Moonshine Gold อัลลอยเยลโลว์โกลด์ 18K เอกสิทธิ์ใหม่จากปี 2019 ที่รังสรรค์ขึ้นแรงบันดาลใจของแสงจันทร์ มอบเฉดสีที่อ่อนกว่าเยลโลว์โกลด์ 18K ทั่วไป
และที่พิเศษยิ่งกว่าใครอย่าง Bronze Gold ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมอบเฉดสีและสัมผัสชวนหลงใหล อัลลอยชนิดพิเศษนี้รังสรรค์ขึ้นจากโลหะระดับสูงอย่างทอง 37.5% อันได้รับการรับรองระดับ 9K รวมถึงประกอบด้วยพัลลาเดียมและเงินในตัว มอบสีสันอันโดดเด่นระหว่าง Moonshine Gold 18K กับSedna Gold 18K พร้อมไปกับคุณสมบัติการต้านทานการกัดกร่อนโดยปราศจากสนิมเขียว (verdigris- oxidation)
ชิ้นส่วนเรือนเวลาและรายละเอียด
ท้ายที่สุดนี้ “รายละเอียด” คือสัญญะแห่งความสมบูรณ์แบบส่วนสุดท้ายที่โอเมก้าให้ความสำคัญและใส่ใจอย่างสูงสุดเสมอมา หน้าปัดสีแซนด์สโตนของ Seamaster Aqua Terra Shades คือหนึ่งในเครื่องยืนยันในเรื่องนี้ ด้วยขนาด 43 มม. ที่ผลิตจากแผ่นทองเหลืองตกแต่งด้วยลวดลายรัศมีซันบรัชเคลือบด้วยแลคเกอร์ พร้อมตรา OMEGA ที่รังสรรค์จากไวท์โกลด์ 18K ที่ขัดแบบไดมอนด์ มาพร้อมสายนาฬิกาที่รังสรรค์อย่างวิจิตรบรรจงในขนาด 34 มม. ที่โดดเด่นด้วยการขัดเงาสลับด้าน สร้างความแตกต่างในรายละเอียดให้กับเรือนเวลาได้อย่างน่าหลงใหล
ชุดเข็มนาฬิกาคืออีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจ นักออกแบบของโอเมก้าปรารถนาให้ทุกชิ้นส่วนมีสไตล์และความโดดเด่นอย่างแตกต่าง และเข็มชั่วโมงของ Seamaster 300 คือผลงานทรงคุณค่าที่หลอมรวมฟังก์ชั่นการอ่านเวลาและรสนิยมได้อย่างไร้ที่ติ โดดเด่นด้วยการตกแต่งผ่านเฉดสีที่อ่อน สร้างความกลมกล่อมให้กับตัวเรือนที่ใช้วัสดุ Bronze Gold ของโมเดล
ท้ายสุดกับขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงากับหลักเลขโรมันจากวัสดุทรงคุณค่าอย่าง Ceragold คือองค์ประกอบที่สะท้อนถึงความเหนือระดับได้อย่างไร้ข้อกังขาให้กับหน้าปัดซันบรัชสีน้ำเงินเรือนเวลา Constellation รุ่น 41 มม. ซึ่งรังสรรค์จากวัสดุอย่างสตีลและ Sedna Gold 18K
รับชมความวิจิตรบรรจง ความแม่นยำอันเป็นหนึ่ง และความงามมากมิติของแคมเปญ Precision จากโอเมก้าได้แล้ววันนี้ผ่าน omegawatches.com และช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์
รูปภาพจาก: Omega
อ่านบทความเพิ่มเติม: Tiffany & Co. unveils its iconic collections through the campaign ‘With Love, Since 1837