December 9, 2025

“…ในปีที่ประเทศไทยยังคงก้าวเดินอย่างมั่นคงบนเวทีอาหารโลก MICHELIN Guide Thailand 2026 ได้เผยโฉมความน่าภาคภูมิใจให้กับคนไทยอีกครั้ง เมื่อจำนวนภัตตาคารที่นำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทยได้รับรางวัลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตอกย้ำได้ถึงเส้นทางการเติบโตของเชฟรุ่นใหม่และผู้ประกอบการอาหารที่กำลังขับเคลื่อนแวดวงนี้ไปสู่ยุคที่เข้มแข็งที่สุดยุคหนึ่ง…”

ปีนี้ประเทศไทยเองมีภัตตาคารที่สามารถคว้า “ดาวมิชลิน” เพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 10 ร้าน รวมถึงการปรากฏตัวของร้าน สามดาวมิชลินร้านใหม่อย่าง ‘Sühring’ ร้านอาหารเยอรมันร่วมสมัยที่ก้าวจากสองดาวสู่จุดสูงสุดของการยอมรับระดับนานาชาติ และกลายเป็นร้านที่สองในประเทศที่ครอบครองตำแหน่งทรงเกียรตินี้ ต่อจาก ‘Sorn’

Three Michelin Stars: Sühring

การเลื่อนระดับของ Sühring นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความลุ่มลึกของวัฒนธรรมอาหารร่วมสมัยในไทย เชฟฝาแฝดอย่าง Thomas และ Mathias Sühring ถ่ายทอดเรื่องเล่าจากรากเหง้าครอบครัวเยอรมันผ่านเมนูที่ร้อยเรียงทั้งความทรงจำวัยเด็ก วัตถุดิบตามฤดูกาล และเทคนิคดั้งเดิมอย่างการดอง หมัก และรมควัน ความปราณีตที่ไม่เคยประนีประนอมนี้ทำให้ร้านแห่งนี้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อาหารระดับโลกโดยไม่ต้องเดินทางข้ามทวีป

Two Michelin Stars: Anne-Sophie Pic at Le Normandie & INDDEE

Anne-Sophie Pic at Le Normandie: ด้วยเมนูสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัยที่ผสานเข้ากับฝีมืออันละเมียดละไมของเชฟ Anne-Sophie Pic และ เชฟ Tamaki Kobayashi ทำให้ Anne-Sophie Pic เป็นภัตตาคารมากเรื่องราวและความทรงจำที่ไม่เพียงนำเสนอรสชาติระดับเวิลด์คลาส แต่ยังสะท้อนจิตวิญญาณของห้องอาหารในตำนานแห่งโอเรียนเต็ลที่ยังคงเสน่ห์ไม่เสื่อมคลายได้ในเวลาเดียวกัน

INDDEE: แม้อาหารอินเดียอาจไม่เป็นที่คุ้นเคยนักสำหรับใครหลายๆ คน แต่เมื่อผสมผสานเข้ากับการตีความใหม่ที่คมชัดและพิถีพิถัน ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด ที่ INDDEE ภัตตาคารผู้ช่ำชองในการนำเสนอประสบการณ์อินเดียสมัยใหม่จะสามารถคว้ารางวัลสองดาวมิชลินและดวงใจของเหล่าผู้ที่หลงใหลในรสสัมผัสได้อย่างไม่เสื่อมคลาย โดดเด่นด้วย กุ้งคาราบิเนโรจากแรงบันดาลใจของรัฐกัว หรือปราตาจากหอยเชลล์ที่สะท้อนความผูกพันของเชฟต่อครัวญี่ปุ่น นี่คือร้านที่พิสูจน์ว่าความสร้างสรรค์ไร้พรมแดนสามารถปั้นอาหารให้กลายเป็นเรื่องเล่าได้อย่างวิจิตร

One Michelin Star: Bo.lan, Cannubi by Umberto Bombana และ Etcha

สำหรับรางวัลหนึ่งดาวมิชลินในปีนี้ หลากหลายร้านอาหารหน้าใหม่ที่มาพร้อมคอนเซปต์น่าสนใจ ต่างเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ทาง MICHELIN Guide Thailand 2026 ให้ความสนใจอย่างมีนัยยะสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น 

Bo.lan: ร้านอาหารไทยที่นำเสนอเมนูซึ่งผสมผสานตำรับไทยดั้งเดิมควบคู่กับแนวคิดเรื่องการทำอาหารอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยคัดสรรวัตถุดิบหายากจากเกษตรกรรายย่อยมารังสรรค์เป็นอาหารที่ถ่ายทอดมรดกไทยอย่างลึกซึ้งผ่านเทคนิคการปรุงที่แม่นยำและการนำเสนอที่เรียบง่าย 

Cannubi by Umberto Bombana: ร้านอาหารอิตาเลียนที่นำเสนอ เซ็ตเมนูมื้อกลางวันหรือดินเนอร์แบบ Testing Menu ที่ใส่ใจในทุกมิติของรสชาติ อาหารทุกจานผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคนิคสมัยใหม่ได้อย่างละเมียดละไม

Etcha: เจ้าของฉายาร้านอาหาร Fine Dining ผ่าน Testing Menu จำนวนกว่า 11 คอร์ส “360°” และ 8 คอร์ส “180°” ซึ่งนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ผสานเทคนิคการปรุงแบบยุโรปเข้ากับวัตถุดิบพื้นถิ่นของไทยได้อย่างประณีต 

นอกจากนี้ยังมีหลากหลายภัตตาคารที่ได้รับการเลื่อนระดับจากร้านแนะนำหรือ หรือ MICHELIN Selected  สู่การเป็นเจ้าของหนึ่งดาวมิชลินด้วยเช่นกัน อันได้แก่ Gaggan, Jucksunchae, Nusara และ Sushi Saito ทั้งหมดล้วนสะท้อนพลังสร้างสรรค์ของเชฟและทีมที่ร่วมกันขับเคลื่อนรสชาติให้คมชัดยิ่งกว่าที่ผ่านมา

Special Awards of the Year

อย่างไรก็ตาม ทุกปี MICHELIN Guide ไม่เพียงคัดสรรร้านอาหารที่โดดเด่นด้านรสชาติและประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับ “คน” ผู้เป็นแก่นกลางของวงการอาหารไม่ว่าจะเป็น เชฟ ผู้จัดการร้าน ทีมงาน และผู้บุกเบิกความคิดใหม่ ๆ ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมอาหารไทยให้ก้าวหน้าอย่างงดงามยิ่งขึ้น และสำหรับปี 2569 นี้มิชลินได้มอบ 4 รางวัลพิเศษ เพื่อเชิดชูบุคลากรผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่อาจลืมเลือน

MICHELIN Guide Young Chef Award

ปีนี้ รางวัลแห่งความหวังและศักยภาพถูกมอบให้แก่ เชฟ “มอนด์” สุวิจักขณ์ กังแฮ แห่งร้าน ‘Royd’ ร้าน MICHELIN Selected ที่จังหวัดภูเก็ตอันเป็นบ้านเกิดซึ่งหล่อหลอมเขามาตั้งแต่วันแรก เชฟมอนด์เติบโตในครอบครัวที่ทำธุรกิจอาหาร ทำให้เขาผูกพันกับรสชาติของอาหารใต้ตั้งแต่วัยเยาว์ ก่อนต่อยอดทักษะในครัวฝรั่งเศสไฟน์ไดนิงที่มอบความละเอียดอ่อนทางเทคนิคให้เขาอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อกลับสู่ภูเก็ต เขาเลือกสร้าง ‘หรอย’ เพื่อบอกเล่าเสน่ห์ของทะเลใต้ผ่านวัตถุดิบชุมชน และเทคนิคการปรุงร่วมสมัยที่ทำให้เมนูท้องถิ่นกลายเป็นงานศิลปะแห่งจานอาหาร

MICHELIN Guide Opening of the Year Award

รางวัลนี้ตกเป็นของ Wilfrid Hocquet เชฟและเจ้าของร้าน ‘Margo’ ภัตตาคารฝรั่งเศสร่วมสมัยที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 แต่กลับสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แวดวงอาหารไทยในทันที มาร์โก ผสมผสานความคลาสสิกของครัวฝรั่งเศสเข้ากับความเป็นกันเองแบบบิสโทรยุคใหม่ ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมบริการและความตั้งใจในรายละเอียด ทำให้แม้จะเป็นร้านเปิดใหม่ แต่กลับให้ความรู้สึกราวกับเป็น “ร้านประจำที่ดีต่อใจ” ของทุกคนที่มาเยือน

MICHELIN Guide Service Award

ปีนี้รางวัลด้านงานบริการถูกมอบให้แก่ Arsen Brahaj ผู้จัดการร้าน ‘Aulis’ ร้านหนึ่งดาวมิชลินในจังหวัดพังงา ด้วยความสามารถในการสื่อสารได้ถึง 4 ภาษา และประสบการณ์ในร้านดาวมิชลินของเชฟไซมอน โรแกนที่มอลตา มร.บราเฮจนำทักษะระดับสากลมาผสานเข้ากับบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัย เขารับผิดชอบทั้งการควบคุมงานบริการและการจับคู่เครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เขาคือบุคคลที่ทำให้ประสบการณ์การรับประทานอาหารของแขก “สมบูรณ์” ตั้งแต่การต้อนรับจนถึงคำสุดท้าย

MICHELIN Guide Mentor Chef Award

รางวัลทรงเกียรติที่สุดของปีถูกมอบให้แก่ เชฟ David Thompson ผู้เป็นตำนานของการผลักดันอาหารไทยสู่เวทีโลก เจ้าของร้าน ‘Aksorn’ หนึ่งดาวมิชลิน และ ‘Chop Chop Cookshop’ เส้นทางของเขาเริ่มต้นเมื่อกว่า 40 ปีก่อน เมื่อเขาได้สัมผัสกับอาหารไทยครั้งแรกและตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เขาคือผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้โลกเห็นว่า อาหารไทยไฟน์ไดนิง สามารถยืนในระดับสูงสุดได้ ด้วยการคว้าดาวมิชลินให้ร้าน Nahm แห่งกรุงลอนดอนในปี 2544 กลายเป็นร้านไทยร้านแรกที่ได้รับรางวัลระดับนี้

MICHELIN Green Star

และท้ายสุดกับรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก ที่ในปีนี้ตกเป็นของ ‘GOAT’ ร้านอาหารหนึ่งดาวที่ใช้แนวคิดความยั่งยืนเป็นหัวใจของทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบที่มาจากชุมชนเกษตรกรและชาวประมง ไปจนถึงสวนสมุนไพรบนดาดฟ้า การหมักปุ๋ยจากเศษพืช และการรีไซเคิลวัสดุในทุกรายละเอียด แม้แต่ภาชนะก็ยังสะท้อนแนวคิดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

GOAT ร่วมยืนอยู่เคียงข้างร้านอาหารรักษ์โลกอีก 4 ร้านอย่าง PRU, Haoma, Jumpa และ Baan Tepa ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของการผลักดันวงการอาหารไทยให้ก้าวสู่ยุคที่คุณภาพของอาหารและความรับผิดชอบต่อโลกเดินไปพร้อมกัน

ด้วยร้านระดับดาวที่เพิ่มขึ้น, เชฟรุ่นใหม่ที่โดดเด่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารที่ขยายตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง ปี 2569 คือปีที่ตอกย้ำว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “จุดหมายของนักชิม” แต่กำลังเป็น หนึ่งในผู้นำด้านประสบการณ์อาหารระดับโลก

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search