June 6, 2024

“…เริ่มเข้าสู่เดือนมิถุนายนซึ่งเป็นเดือนของเทศกาล Pride Month เราได้เห็นกิจกรรมหลายอย่างที่ฝั่งเอกชนและแบรนด์ต่างๆได้ให้การสนับสนุนกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึง คีลส์ (Kiehl’s) แบรนด์สกินแคร์ชั้นนำระดับโลกจากนิวยอร์ก ภายใต้ลอรีอัล กรุ๊ป (L’oreal Group) ที่ชวนสื่อมวลชนมาร่วมงานเปิดตัวโครงการคีลส์ โอเพน ดอร์ส (Kiehl’s Open Doors) โครงการเพื่อสังคมที่เป็นประตูสู่โอกาสให้เยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อสร้างโอกาสในการทำงานให้เท่าเทียมกับทุกคนในสังคม…”

สำหรับโครงการคีลส์ โอเพน ดอร์ส เป็นโครงการที่คีลส์ ประเทศไทยต้องการให้การสนับสนุนกลุ่มเยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศโดยอาศัยบริบททางสังคมไทยที่คนกลุ่มนี้ยังขาดโอกาสที่เท่าเทียมรวมถึงทรัพยากรในการทำงาน โครงการนี้ได้เน้นส่งเสริมทักษะทางอาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการเลือกเส้นทางชีวิตให้กับทุกคน โดยคีลส์ ประเทศไทยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน (The Foundation Of Transgender Alliance For Human Rights  หรือ Thai TGA) พร้อมองค์กรเครือข่ายอื่นๆ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มคนเหล่านี้จนเข้าถึงความต้องการ และเข้าใจปัญหาในเชิงลึกของกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ

ที่ผ่านมาคีลส์ได้สนับสนุนโครงการที่ให้การสนับสนุนกลุ่มเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศในหลายโปรเจ็คต์ เช่น การจัดงานนิทรรศการภาพวาด “Gender of My Choice เพศกำหนดเอง“ โดย ThaiTGA , สนับสนุนการจัดงาน Youth Pride Thailand 2024 โดย ThaiTGA รวมถึงการจัดโครงการฝึกอบรมพิเศษเพื่อฝึกฝนให้กลุ่มเยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นสามารถก้าวขึ้นมาเป็น Beauty Advisor ของคีลส์ หรือไปประกอบอาชีพในสายงานนี้ในบริษัทอื่นได้ ซึ่งในปัจจุบันคีลส์ได้เปิดกว้างในการร่วมงานกับพนักงานผู้มีความหลากหลายทางเพศโดยไม่ปิดกั้นโอกาสเพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมในสังคมการทำงาน

โครงการ คีลส์ โอเพน ดอร์ส’ คือการสานต่อปณิธาน การให้’ กลับคืนสู่สังคมของคีลส์ พร้อมตอกย้ำเป้าหมายในการสร้างความงามที่ขับเคลื่อนโลกของลอรีอัล กรุ๊ป โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดประตูโอกาสให้กับกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศและกลุ่มเยาวชน ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียม คีลส์มุ่งหวังจะเป็นกำลังสนับสนุนและมอบโอกาสเพื่อให้พวกเขา สามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างที่พวกเขาสมควรจะได้รับ” คุณอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงจุดประสงค์สำคัญของโปรเจ็คต์นี้ 

คุณอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย)

คีลส์ โอเพน ดอร์ส มีเป้าหมายสำคัญในการสนับสนุนกลุ่มเยาวชนผู้มีความหลากหลายด้วยจุดประสงค์สำคัญ 3 ประการ คือ Proud & Empowered, Proud & Nourished และ Proud & Inspired ในการที่จะบรรลุจุดประสงค์ทั้งหมดนั้น จึงต้องได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่างๆเป็นกำลังสำคัญ ซึ่งในงานจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณ หยงฮั้ว ณชเล บุญญาภิสมภาร รองประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และคุณเขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ นักจิตบำบัดหนึ่งพันธมิตรของโครงการได้มาร่วมพูดคุยเพื่อสะท้อนปัญหาความไม่เท่าเทียมและแนวทางในการเปิดประตูสู่โอกาสให้กลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ

โดยคุณหยงฮั้วได้หยิบยกเรื่องราวความไม่เท่าเทียมแง่มุมต่างๆ พร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นและเปิดโอกาสให้กลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงโอกาสและทรัพยากรในการทำงาน, การเข้าถึงบริการสุขภาพโดยทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณะสุขในการออกแบบสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับ gender-affirming care, การสร้างเครือข่ายผู้ปกครองที่มีบุตรหลานผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยองค์กรได้จัดทำคู่มือสำหรับผู้ปกครองให้พวกเขาได้ยอมรับว่าไม่ได้เป็นความผิดจากการเลี้ยงดู พร้อมเปิดใจยอมรับและเปิดประตูความรักให้กับลูกหลาน รวมถึงสร้างศูนย์การเรียนรู้ที่ให้ข้อมูลของกลุ่ม LGBTQIA+ สุดท้ายคือการ Open to self determination เพื่อผลักดันให้เกิดกฎหมายรับรองอัตลักษณ์เพศสภาพในอนาคต เป็นสิ่งที่มูลนิธิขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 2012 เพื่อให้กลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศใช้คำนำหน้านามได้ตรงตามเจตจำนงของตัวเอง หรือจะใช้ X สำหรับ Non Binary ที่ไม่ต้องการระบุเพศสภาพของตัวเอง

หยงฮั้ว ณชเล บุญญาภิสมภาร รองประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน

“การพัฒนาศักยภาพ Professional Skill ช่วยทำให้เรามีทางเลือก

เชื่อเสมอว่าการที่คนเรามีทางเลือกมันทำให้เราก้าวเข้าใกล้ความสุข”

ณชเล บุญญาภิสมภาร

ภัทรดนัย เสตสุวรรณ นักจิตบำบัด พาร์ทเนอร์คนสำคัญของโครงการ Kiehl’s Open Doors

สำหรับ เขื่อน-ภัทรดนัย นักจิตบำบัดผู้สร้างความตระหนักรู้ให้คนในสังคมรู้จักกับพื้นที่ปลอดภัย ได้พูดถึงความสำคัญของสุขภาพจิตในกลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศซึ่งเป็นสิ่งที่เขาได้ร่วมกับคีลส์เพื่อสร้างให้เกิดความเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพจิตต่อไปในอนาคต “เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องคือสุขภาพจิต จากสถิติในปีที่ผ่านมากลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศคิดค่าตัวตายเป็นจำนวนมากถึง 49% คนที่ลงมือทำจริงๆ มีจำนวนมากถึง 17%  และส่วนมากเป็นเยาวชนในช่วงอายุ 17-20 ปี…กว่า 40% ของเกย์และ 60% ของเลสเบี้ยนโดนคุกคามทางเพศและไม่กล้าขอความช่วยเหลือจนสุดท้ายต้องตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ไม่รู้จะขอความช่วยเหลือหรือเข้าถึงบริการทางสุขภาพจิตอย่างไร และกลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลกส่วนมากยังรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต นอกจากการสร้างศักยภาพในการประกอบอาชีพแล้ว การเข้าถึงบริการทางด้านสุขภาพจิตจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องผลักดันกันต่อไป”

“เราได้ยินเรื่องของความไม่เท่าเทียมกันอยู่บ่อยๆ แต่ละคนเกิดมามีต้นทุนไม่เท่ากัน ถ้าต้องแข่งขันกันมันก็เกิดความไม่เท่าเทียมกัน…ด้วยการร่วมมือกันของหลายองค์กรจะช่วยให้กลุ่มคนผู้มีความหลากหลายทางเพศ สามารถเข้าถึงทรัพยากรได้เหมือนกันมันก็จะเกิดความเท่าเทียมและมีต้นทุนที่มากขึ้นด้วย”

ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

จากปณิธานคีลส์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1851 ในการต้อนรับและดูแลผู้คนทุกคนอย่างใส่ใจ ทั้งลูกค้า และพนักงานในองค์กร ไม่จำกัดว่าเพศหรือรสนิยมแบบใด ด้วยกาiเปิดรับทุกคน ทุกความคิดอย่างเสมอภาคเท่าเทียมมาโดยตลอด และยังได้สนับสนุนเยาวชนกลุ่ม YouthAIDS ด้วยการให้ทุนและอุปกรณ์ยังชีพ เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมต่อไปได้ และตั้งแต่ปี 2004 คีลส์ได้ร่วมเฉลิมฉลอง Pride parade ในอเมริกา รวมถึงให้การสนับสนุนองค์กรต่างๆ ที่ทำงานเพื่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ปัจจุบันคีลส์ยังคงดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีผู้คนอีกมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงประตูแห่งโอกาสได้อย่างที่ควรจะเป็น และยังได้เดินหน้าขยายการทำงานไปยัง คีลส์ ในทุกประเทศทั่วโลก

รูปภาพ: Kiehl’s

อ่านเพิ่มเติม: สาวก Kylie Jenner เตรียมช้อป Kylie Cosmetics ป๊อบอัพสโตร์สุดน่ารักในร้าน EVEANDBOY

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search