สานต่อความเข้มข้นในการตั้งคำถามเรื่องความศรัทธาที่มีต่อศาสนาอย่างต่อเนื่องกับ “สาธุ 2” ที่หลังออนแอร์ไปได้ไม่นานยอดผู้เข้าชมก็ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของ Netflix Thailand อย่างรวดเร็ว แต่วันนี้เราไม่ได้ชวนคุณมาวิเคราะห์เนื้อหาที่มี เราจะชวนคุณมาทำความรู้จักตัวละครสำคัญที่ส่งผลต่อการดำเนินเรื่องในซีซั่นนี้กันต่างหาก
ก่อนเราจะไปพูดคุยเกี่ยวกับตัวละคร มาทำความรู้จักเนื้อเรื่องคร่าวๆ ของทั้งสองซีซั่นกันก่อนจะดีกว่า สาธุ 2 เป็นการเล่าเรื่องราวต่อเนื่องมาจากซีซั่นแรกที่เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่น 3 คน คือ วิน (รับบทโดย เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ), เกม (รับบทโดย พีช-พชร จิราธิวัฒน์) และ เดียร์ (รับบทโดย แอลลี่-อชิรญา นิติพน) ที่มีหนี้สินก้อนโตจากการทำธุรกิจร่วมกัน จึงร่วมมือกันหาทางปลดหนี้ให้ได้เร็วที่สุด จนพบไอเดียสุดบรรเจิดในการทำ “พุทธพาณิชย์” คือ การนำความเชื่อที่มีต่อศาสนามาเปลี่ยนเป็นเงิน โดยการปลุกวัดร้างสักแห่งให้กลายเป็นแหล่งทำเงิน โดยที่ทั้งสองไม่ทันคาดคิดว่าโลกสีเทาแห่งศรัทธามีสิ่งดำมืดซ่อนตัวอยู่มากกว่าที่พวกเราคิด




สำหรับซีซั่น 2 เราจะได้พบกับตัวละครใหม่มากหน้าหลายตา เพราะสเกลเรื่องขยายเพิ่มจากเรื่องราวเกี่ยวกับวัดท้องถิ่น กลายเป็นวัดประจำจังหวัด มีผลประโยชน์มากขึ้น มีคนใหญ่คนโตเข้ามามีส่วนร่วมด้วยมากมาย แน่นอนว่าปมความขัดแย้ง และการแก่งแย่งผลประโยชน์ที่เต็มไปด้วยความอันตรายก็ย่อมเข้มข้นขึ้นตามไปด้วย
คำเตือน เรากำลังจะเข้าสู่หัวข้อการวิเคราะห์ตัวละคร เนื้อหาต่อจากนี้จะมีการสปอยล์เนื้อหาซีรีส์ และเนื้อเรื่องส่วนสำคัญ ใครที่ยังไม่ได้รับชม เราแนะนำไปดูจนจบก่อน แล้วจึงกลับมาอ่านจะได้อรรถรสแบบครบเครื่อง
สจ.เอ๋: เพราะอำนาจคือสิ่งที่เธอแสวงหา
ตัวละครแรกที่เราจะพาไปวิเคราะห์กัน คือ สจ.เอ๋ ที่รับบทโดย โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ตัวละครนี้ปรากฏตัวในช่วงท้ายซีซั่นแรก แต่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่องของซีซั่นที่สอง เพราะเมื่อเธอเห็นลู่ทางในการเข้าถึงอำนาจจากเด็กทั้งสาม เธอก็ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวพวกเขามาไว้ในกำมือ ไม่ว่าจะต้องบีบบังคับด้วยวิธีใดก็ตาม แรงผลักดันที่ทำให้เธอมาไกลจนถึงจุดนี้ได้ จากเนื้อเรื่องที่เผยออกมาทั้งหมดตอนนี้ชี้เป้าไปเพียงจุดเดียว คือ พ่อของเธอเอง
พ่อของ สจ.เอ๋ คือ นักการเมืองท้องถิ่นผู้ทรงอิทธิพลที่ติดกรอบความคิดแบบเดิมๆ ของสังคม คือ ไม่สามารถฝากความหวังไว้ที่ลูกสาวได้ ดังนั้น ไม่ว่า สจ.เอ๋ จะเก่งแค่ไหน พิสูจน์ตัวเองขนาดไหนพ่อก็ยังไม่เห็นความพยายาม และก็ยังมองว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นตัวแทนของพรรคอยู่ดี สุดท้ายพ่อก็เลือกน้องชายที่ถึงแม้จะไม่มีทั้งวุฒิภาวะ ไม่เหมาะสม และเหลวไหลไม่เอาไหน แต่เพราะเป็น ลูกชาย จึงได้รับตำแหน่งนั้นไปในที่สุด
เมื่ออำนาจคือสิ่งที่เธอต้องไขว่คว้ามาด้วยตัวเอง สจ.เอ๋ จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเธอสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งบารมีของพ่อ กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการบีบบังคับเด็กวัยรุ่น 3 คนที่มีหัวด้านธุรกิจให้มาทำในสิ่งที่เธอต้องการ ไม่ว่าเธอจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม
ทุกความคิดและการกระทำของ สจ.เอ๋ สะท้อนให้เราเห็นทั้งระบบสังคมชายเป็นใหญ่ที่กดทับผู้หญิง รวมไปถึงการเมืองที่แทรกแซงศาสนาอย่างแนบเนียน แม้สุดท้าย สจ.เอ๋ จะได้รับความพ่ายแพ้และต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่เราทุกคนเชื่อว่าเธอไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน การไปครั้งนี้อาจเป็นการ “ไปตั้งหลัก” เพื่อรอการกลับมาใหม่ที่เล่นใหญ่กว่าเดิมเท่านั้นเอง
ทิดดล: จากคนที่สงบที่สุด สู่คนที่แตกสลายที่สุด
ในซีซั่นแรกเรารู้จักตัวละครนี้ในฐานะ “พระดล” (รับบทโดย ปั๊บ-พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข) พระป่าที่มีทักษะการเทศน์โดดเด่นน่าสนใจจนเหล่าตัวเอกต้องพามาที่วัดภุมรามเพื่อกระตุ้นเอ็นเกจให้คนเข้าวัดพวกเขามากขึ้น หลังจากที่พระดลรู้สึกตัวว่ากำลังตกหลุมรักเดียร์ และทำให้พระธรรมที่ยึดมั่นไม่บริสุทธิ์ ในซีซั่นสองจึงตัดสินใจสึกออกมา และเริ่มใช้ชีวิตในฐานะปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง
สำหรับซีซั่นสองนี้เราได้เห็นพัฒนาการตัวละครของทิดดลอย่างชัดเจน ด้วยเพราะบวชตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเป็นพระป่าสายปฏิบัติ จึงไม่เคยรับรู้เรื่องเกี่ยวกับทางโลกมาก่อน การสึกนี้จึงเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ และถือเป็นการก้าวออกจากความสงบ สู่ความวุ่นวายและกิเลสอย่างแท้จริง
ท่ามกลางความสับสนว้าวุ่นใจที่ถาโถมเข้ามา อย่างน้อยทิดดลก็ยังมีน้ำใสไหลเย็นอยู่ข้างๆ ให้พอชุ่มชื่นหัวใจ นั่นคือ เดียร์ ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง แม้ครั้งแรกที่ติดต่อกันหลังสึกจะเป็นการยืมเงินก็ตาม แต่เมื่อทั้งสองได้มาทำงานร่วมกันในคลาสบำบัดจิตใจ ความรู้สึกดีๆ ของทั้งสองก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละนิด แต่เหมือนฟ้าเล่นตลก เมื่ออะไรๆ เริ่มจะดี เดียร์ก็มาโดนฆาตกรรมไปต่อหน้าต่อตา ส่งผลให้ความหวัง และความฝันเขาพังทลายลงในทันที ในตอนท้ายของซีซั่น ทิดดลกลับไปบวชเป็นพระธุดงค์อีกครั้ง และเดินเข้าป่าไปเพียงลำพังด้วยสีหน้าที่ปลงตกจากการแตกสลายอย่างแท้จริง
สำหรับเราเรื่องราวของทิดดลไม่ได้เป็นเพียงเรื่องที่ราบเรียบไร้สีสัน แต่เป็นการสะท้อนชีวิตของคนๆ หนึ่งที่กล้าตัดสินใจก้าวใหญ่ในชีวิตถึงสองครั้ง ครั้งแรกเป็นการก้าวออกจากความสงบเพราะจิตใจแปดเปื้อน ส่วนก้าวครั้งต่อมาเป็นการก้าวเข้าสู่ความสงบเพราะกำลังแตกสลาย เราทุกคนก็ได้แต่ลุ้นว่าพระดลจะมีก้าวต่อไปในซีซั่นถัดไปหรือไม่ เพราะเนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นมากทีเดียว
ป้าเปิ้ล: ตัวประกอบที่ซีนใหญ่ไม่แพ้ตัวละครหลักของเรื่อง
ตัวละครที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ป้าเปิ้ล (รับบทโดย รัสมี เวระนะ) หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของ สจ.เอ๋ ที่ถูกส่งมาประกบแม่ของวิน หากดูมาจนถึงช่วงท้ายของซีรีส์เราจะได้รู้ว่าป้าเปิ้ลไม่ใช่ป้าแม่บ้านธรรมดา แต่ป้าคือมือสังหารที่พร้อมปลิดชีพใครก็ตามที่นายสั่งได้ทุกเมื่อ ป้าเปิ้ลโผล่มาในซีนให้เราเห็นไม่บ่อยนัก แต่กลายเป็นที่จดจำของผู้ชมทุกคน เพราะแต่ละซีนของป้าทิ้งความเกลียดชังไว้ให้คนดูอย่างพวกเราหนักหนามาก โดยเฉพาะซีนที่เดียร์จากพวกเราไปตลอดกาล
สำหรับเรา ป้าเปิ้ล เป็นหนึ่งในตัวละครที่น่ากลัว และอันตรายไม่แพ้ สจ.เอ๋ เลย เพราะเธอสามารถทำได้ทุกอย่างตามที่นายสั่งโดยไม่ลังเล ไม่มีความเห็นใจ และไม่มีความผูกพัน
นี่เป็นเพียงบทวิเคราะห์ตัวละครสำคัญในซีรีส์ สาธุ 2 เท่านั้น ยังมีตัวละครที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่ชื่นชอบซีรีส์สะท้อนสังคม เนื้อเรื่องเข้มข้น มีการหักมุมเชือดเฉือนน่าติดตาม สามารถรับชมซีรีส์เรื่องนี้ได้ทาง Netflix Thailand ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป



