แบรนด์นาฬิกาอิสระที่เหล่านักสะสมลุ่มหลง ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและนวัตกรรมแห่งเวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of Brands and Press
Feb 03, 2025
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรือนเวลาจากแบรนด์อิสระนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักสะสมนาฬิกา ด้วยรูปลักษณ์และกลไกสวยล้ำที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษผสมผสานประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เพิ่มเรื่องราวและคุณค่าของแบรนด์ให้ทวีคูณยิ่งขึ้น
BOVET
ประวัติ: ก่อตั้งขึ้นในปี 1822 Bovet มีมรดกที่สืบทอดมายาวนานซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจภายใต้การบริหารของ Pascal Raffy เจ้าของรายใหม่ที่เข้าซื้อแบรนด์ในปี 2001ภายใต้วิสัยทัศน์อันแน่วแน่ในการผลิตนาฬิกาหรูและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภายในเวิร์กช้อปของแบรนด์เป็นหัวใจสำคัญ ในอดีต Bovet เป็นที่รู้จักจากนาฬิกาพกที่ได้รับการสลักเสลาและตกแต่งอย่างประณีต สร้างให้แบรนด์ได้รับความนิยมอย่างมากในจักรวรรดิจีนและอีกหลายประเทศ ตลอดระยะเวลาสองทศวรรษที่ผ่านมา ครอบครัว Raffy ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นาฬิกาที่ให้เกียรติแก่งานฝีมือดั้งเดิมของแบรนด์เสมอมา เมื่อ Audrey Raffy เข้ามาสมทบในการบริหารทำให้มั่นใจได้ถึงการสานต่อภารกิจอันแน่วแน่ของแบรนด์ ในปี 2022 Bovet ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีที่แบรนด์ได้นำเสนอการปรับโฉมแบรนด์ภายใต้การบริหารของ Raffy ซึ่งสามารถดึงดูดความสนใจของนักสะสมผู้เปี่ยมด้วยรสนิยม
![]() |
![]() |
รุ่นไฮไลต์: Recital 28 Prowess 1 เปิดตัวในงาน Geneva Watch Week 2024 เรือนเวลาที่มีดีไซน์โดดเด่นสะท้อนถึงนวัตกรรมการสร้างสรรค์อันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยกลไกนี้ได้ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของการปรับเวลาในช่วง Daylight Saving Time (DST) ในการบอกเวลาแบบเวิร์ลไทม์ โดดเด่นด้วยส่วนประกอบอันน่าทึ่งกว่า 744 ชิ้น ทั้งทูร์บิญองแบบลอยตัวและปฏิทินถาวรที่แสดงผ่าน 24 โรลเลอร์ซึ่งแต่ละตัวมีสี่ตำแหน่ง การออกแบบที่ได้รับการคิดคำนวณอย่างถี่ถ้วนนี้ทำให้สามารถปรับเวลาให้ตรงกับเขตเวลาแบบเฉพาะเจาะจงได้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Bovet ในการสร้างงานฝีมืออันประณีตและวิศวกรรมทางเวลาอันซับซ้อนอย่างมีระดับ
Czapek & Cie.
ประวัติ: Czapek ก่อตั้งขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดยช่างนาฬิกาชาวโปแลนด์ Franciszek Czapek ซึ่งต่อมาเขาได้เปลี่ยนชื่อเป็น François Czapek ต้นกำเนิดของแบรนด์เริ่มต้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ Czapek ได้ร่วมมือกับ Antoine Norbert de Patek ในปี 1836 เพื่อก่อตั้ง Patek, Czapek & Cie ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนกระทั่งทั้งคู่แยกกิจการกันในปี 1845 หลังจากนั้น Czapek ได้ร่วมมือกับ Juliusz Gruzewski เพื่อสร้าง Czapek & Cie. ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในช่างนาฬิกาที่เก่งที่สุดของศตวรรษที่ 19 เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้รังสรรค์นาฬิกาสำหรับราชสำนักและกลายเป็นช่างนาฬิกาของนโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับในปี 1869 ยุคสมัยใหม่ของ Czapek & Cie. เริ่มขึ้นในปี 2015 โดยมีรูปแบบการแบ่งหุ้นที่เปิดโอกาสให้นักสะสมเข้ามามีส่วนร่วมเป็นผู้ถือหุ้น รวมถึงการร่วมสร้างสรรค์นาฬิกากับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำมากมายในวงการ
![]() |
![]() |
รุ่นไฮไลต์: Antarctique S Mirrored Sincere Platinum Jubilee Edition ไฮไลต์สำคัญของแบรนด์ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 38 เรือน หน้าปัดของรุ่นนี้สง่างามด้วยพื้นผิวสะท้อนแสงที่สมบูรณ์แบบทำจากซิลิกอนเพียงแผ่นเดียวเคลือบด้วยแพลตินัม สะท้อนถึงความสำเร็จในรอบ 70 ปีของ Sincere Fine Watches นอกจากนี้ตัวเรือนและสายของนาฬิกายังได้รับการออกแบบด้วยการผสมโลหะสองชนิดคือสตีลและเยลโลว์โกลด์ เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบกับหน้าปัดที่สะท้อนแสง ขับเคลื่อนด้วย Calibre SXH5 ของ Czapek & Cie. เครื่องกลไกที่มีสะพานแบบสเกเลตันถึงเจ็ดชิ้นและบาลานซ์แบบฟรีสปริง งานดีไซน์อันยอดเยี่ยมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและให้เกียรติต่อมรดกอันล้ำค่าในเวลาเดียวกัน
H. Moser & Cie.
ประวัติ: Heinrich Moser ก่อตั้งในเมือง Schaffhausen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 1805 ครอบครัวของเขาประกอบไปด้วยช่างนาฬิกาที่มีชื่อเสียงทั้ง Johannes ผู้เป็นปู่และพ่อ Erhard Heinrich เขาได้รับความรู้ในศาสตร์การทำนาฬิกาที่ยากจะหาใครเหมือน และกลายเป็นช่างนาฬิกาผู้เชี่ยวชาญในเมือง Le Locle ในเวลาอันสั้น ด้วยจิตวิญญาณแห่งนักธุรกิจของ Heinrich นำเขาไปสู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปี 1828 เพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเอง H. Moser & Cie. ซึ่งได้สร้างสรรค์นาฬิกาที่ประณีตและหายาก ในเวลาไม่นานนักเรือนเวลาของแบรนด์นั้นเป็นที่สะดุดตาของเจ้าชายรัสเซียและสมาชิกของราชสำนักมากมาย
![]() |
![]() |
รุ่นไฮไลต์: Streamliner Tourbillon Skeleton งานดีไซน์ล่าสุดในคอลเลคชั่น Streamliner ที่ประสบความสำเร็จของ H. Moser & Cie. นาฬิกาสปอร์ตหรูในสไตล์ที่โดดเด่นนี้มาพร้อมกับตัวเรือนสตีลขนาด 40 มม. x 12.1 มม. และหน้าปัดแบบเปลือยที่ผสมผสานตัวเรือนและสายเชื่อมต่อกันอย่างลงตัว พร้อมกลไก One Minute ทูร์บิญองแบบลอยตัว มาพร้อมกับวิธีการทำงานแบบ double-hairspring อันมีชื่อเสียงของแบรนด์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องกลไก calibre HMC 814 สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง ศิลป์แห่งเวลาชิ้นเอกนี้ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องยืนยันถึงศิลปะการรังสรรค์เครื่องกล แต่ยังสะท้อนความโดดเด่นของการออกแบบที่ทันสมัยอีกด้วย\
Moritz Grossmann
ประวัติ: Moritz Grossmann แบรนด์ชั้นนำในวงการนาฬิกาหรูของเยอรมัน ก่อตั้งโดย Christine Hutter ผู้เปี่ยมด้วยแพสชั่นและความสามารถ โดยเธอเข้ามารีแบรนด์ในปี 2008 หลังจากซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานจาก Karl Moritz Grossmann ซึ่งก่อตั้งแบรนด์ขึ้นในศตวรรษที่ 19 การเดินทางของ Hutter เริ่มต้นขึ้นด้วยการฝึกงานในปี 1986 ซึ่งจุดประกายความหลงใหลในศิลปะเครื่องกลและนำเธอไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาใน Glashütte แบรนด์สร้างชื่อในวงการได้โดยการนำเสนองานฝีมืออันประณีต โดยคำนึงถึงเทคนิคการสร้างสรรค์และความร่วมสมัย ซึ่งเห็นได้จากการเปิดตัวเรือนเวลา Benu ที่ประสบความสำเร็จในปี 2010 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องกลไก Calibre 100.0
![]() |
![]() |
รุ่นไฮไลต์: เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 16 ปี Moritz Grossmann ได้เปิดตัว Enamel Roman Vintage นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ศิลป์แห่งเวลาอันน่าจดจำนี้มาพร้อมกับหน้าปัดลงยาสีดำที่สวยสะดุดตา สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญของแบรนด์ในเทคนิคการงานฝีมือแบบดั้งเดิม ผ่านขั้นตอนการสร้างสรรค์อันประณีตกว่า 90 ขั้นตอน Enamel Roman Vintage ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือน ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 100.1 โดดเด่นด้วยแผ่นเพลต 2/3 รังสรรค์ด้วยเงินจากเยอรมันที่ไม่ผ่านการเคลือบ ตกแต่งด้วยการแกะสลักด้วยมือเน้นความประณีตซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Moritz Grossmann
อ่านบทความเพิ่มเติม: https://hashtaglegend.com/th-th/swatch-introduces-a-special-collection-to-celebrate-the-year-of-the-snake