วันที่ 27 พฤศจิกายน 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของคนรัก Hermès ในกรุงเทพฯ เมื่อแบรนด์เปิดตัวร้านโฉมใหม่ที่ ICONSIAM หลังการรีโนเวทและขยายพื้นที่ริมเจ้าพระยา โลเคชันที่เหมือนถูกออกแบบมาเพื่อสนทนากับชีวิตของเมืองหลวงที่มีทั้งสีสัน วัฒนธรรม และจังหวะการค้าขายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
ตั้งแต่แรกเห็น façade กระจกที่โอบล้อมด้านหน้า ร้านใหม่ของ Hermès ดูเหมือนกำลังสะท้อนลมหายใจของกรุงเทพฯ กลับออกมาสู่แม่น้ำ ส่วนภายใน ซึ่งถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด สว่างและโปร่งในแบบสองชั้น รองรับสินค้าหลากหลายจากทั้ง 16 métier ของแบรนด์
มานิต มณีพันธกุล รายงาน
ชั้นบน: งานฝีมือในภาษาของ “แสง” และ “การเดินทาง”
ก้าวผ่านประตูหลัก สิ่งแรกที่ต้อนรับคือ Ex-libris สีชมพูทำจากหินอ่อน สัญลักษณ์ของ Hermès ที่ถูกบรรจงวางไว้เหมือนบทนำของเรื่องราวใหม่ จากนั้นเส้นทางเดินผ่านพื้นหินขัดลายเทอร์ราคอตตาพาเข้าสู่โซนผ้าพันคอไหมและแฟชั่นจิวเวลรีสำหรับสุภาพสตรี
ฝั่งขวาเป็นโซนเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษ ส่วนฝั่งซ้ายคือพื้นที่เสื้อผ้าและรองเท้าสตรี ทั้งหมดถูกคั่นด้วย “เสาหวายทรงโค้ง” ที่ถูกสานด้วยมือโดยช่างฝีมือไทย รายละเอียดเล็กๆ ที่ทำให้ร้านนี้มีความเป็นกรุงเทพฯ ในแบบร่วมสมัยและละเมียดละไม
ต่อจากนั้นคือมุมความงามและน้ำหอม ที่ตั้งอยู่ในบรรยากาศที่สงบกว่าเล็กน้อยเหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้หยุดหายใจลึกๆ ก่อนเดินสำรวจต่อ
ชั้นล่าง: จากทะเลสีน้ำเงินสู่หัวใจของ Hermès
บันไดหินขัดทอดลงสู่ชั้นล่าง เปิดสู่พื้นที่จิวเวลรีและนาฬิกาในโทน “น้ำทะเล” พรมไล่เฉดสีฟ้าและเขียว รวมถึงผืนผ้าทอมือที่ระยิบระยับเหมือนประกายของแม่น้ำในตอนกลางคืน
ด้านในสุดคือโซนเครื่องหนังและคอลเลกชันสำหรับการขี่ม้า ที่รับแสงธรรมชาติเต็มๆ ผ่านกระเบื้องโมเสก Faubourg และหินอ่อนสีเขียว สร้างบรรยากาศที่เหมือนนำเอาหัวใจดั้งเดิมของ Hermès กลับมาบรรจบกับความร่วมสมัยของกรุงเทพฯ
บริเวณชั้น G คือพื้นที่ของผลิตภัณฑ์บ้านที่จัดวางไว้รอการค้นพบ เหมือนเป็นบทท้ายที่อบอุ่นของการเดินทางในร้าน
งานออกแบบที่หายใจเป็น “กรุงเทพฯ”
ร้านโฉมใหม่นี้ออกแบบโดย RDAI สตูดิโอสถาปัตยกรรมจากปารีส ที่ตีความความงามของเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาออกมาอย่างกลมกลืน ทั้งเสาหวายที่สั่งทำพิเศษโดยช่างฝีมือไทย พรมและโคมไฟสไตล์กรีก รวมถึงการคุมแสงแบบอบอุ่นที่เชื่อมจิตวิญญาณของ Hermès กับความเคลื่อนไหวของเมืองได้อย่างนุ่มลึก
ในร้านยังมีงานศิลปะจากคอลเลกชันของ Émile Hermès รวมถึงภาพถ่ายร่วมสมัยจากศิลปินนานาชาติ หนึ่งในชิ้นเด่นคือผลงานชุด “Nocturne 3” ของช่างภาพฝรั่งเศส Marie Joubert
แต่หนึ่งในไฮไลต์ที่ทำให้หลายคนหยุดมองคือ “ม้าคู่จากหวายและโลหะ” โดยนักออกแบบไทย ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ที่ดูราวกับกำลังกระโจนขึ้นบันได เหมือนกำลังเล่าเรื่องพลังและการเคลื่อนไหวที่เป็นหัวใจของ Hermès และของกรุงเทพฯ ไปพร้อมกัน
Hermès วันนี้: รากเหง้าแห่งงานฝีมือที่ยังเติบโต
ตั้งแต่ปี 1837 Hermès ยังคงยืนบนความเชื่อเรื่องงานฝีมือ นวัตกรรม และความงามที่เกิดจากฟังก์ชันจริง ไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ มี 16 métier และฐานการผลิตหลักในฝรั่งเศสกว่า 60 แห่ง เพื่อส่งต่อสินค้าสู่ 300 ร้านใน 45 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันบริหารโดย Axel Dumas ผู้สืบทอดรุ่นที่หก
และในปี 2008 ได้ตั้ง Fondation d’entreprise Hermès ขึ้นเพื่อสนับสนุนงานศิลปะ การศึกษา และโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ต่อยอดรากฐานของแบรนด์
บทเปิดใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
การกลับมาของ Hermès ที่ ICONSIAM ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การรีโนเวทร้าน แต่คือ “บทสนทนาใหม่” ระหว่างแบรนด์ระดับโลกกับกรุงเทพฯ เมืองที่เดินเร็ว คิดเร็ว เต้นเป็นจังหวะของตัวเอง และเต็มไปด้วยชีวิตที่ Hermès เลือกจะเล่าอย่างอ่อนหวานผ่านแสง เงา และงานฝีมือ
ครั้งต่อไปที่คุณเดินผ่าน ICONSIAM ลองแวะเข้าไปดู แล้วคุณอาจรู้สึกเหมือนกำลังได้เห็น Hermès เล่าเรื่องกรุงเทพฯ ผ่านสายตาแบบเฉพาะตัว ไม่เร่งรีบ แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดเหมือนทุกอย่างในร้านตั้งใจ “สานขึ้นด้วยมือ”
