Givenchy SS26
October 10, 2025

มันเริ่มจากหนังสือเล่มหนึ่ง “The Eye of Love” ของช่างภาพชาวสวิส René Groebli ภาพถ่ายภรรยาของเขา Rita ระหว่างฮันนีมูนในปี 1954 กลายเป็นบันทึกแห่งความรักและความใกล้ชิดที่ลึกซึ้งที่สุดเล่มหนึ่งในประวัติศาสตร์การถ่ายภาพ ร่างกายของ Rita ที่เปลือยเปล่าอย่างไร้การยั่วยวน กลับมีพลังจากการที่เธอ “รู้ว่าตัวเองถูกมอง” และยอมรับมันอย่างสงบ มันคือการมองเห็นความงามของสัมผัส ความจริงของเนื้อผ้า และภาษาของผิวหนัง

สองเดือนก่อนโชว์ Sarah Burton หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอ่าน และพบคำตอบที่เธอกำลังตามหา “ฉันอยากถอดเสื้อผ้าออกจากโครงสร้างทั้งหมด แล้วดูว่าเหลืออะไรอยู่ข้างใน” เธอพูดหลังเวทีรันเวย์ของ Givenchy ในคืนวันศุกร์ “ฉันชินกับเสื้อผ้าที่มีโครง มีไหล่ มีน้ำหนัก พอถอดมันออก ฉันต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด” และนั่นคือหัวใจของ Givenchy Spring–Summer 2026 การถอดโครงสร้าง เพื่อค้นหาวิญญาณของความเป็นผู้หญิง มานิต มณีพันธกุล @kaimanit รายงาน

Givenchy SS26

รันเวย์เปิดขึ้นในความเงียบ เสื้อเชิ้ตสีขาวเดินออกมาไม่ต่างจากบทกวี เสื้อเชิ้ตที่บางครั้งเป็นหนัง บางครั้งกลายเป็นกระโปรงพัน หรือบางครั้งถูกถลกออกจากบ่าให้เห็นสายบราละเอียด ทำให้ใต้แสงไฟนั้นส่งให้เสื้อเชิ้ตขาวธรรมดากลายเป็นสิ่งลึกลับ อ่อนโยนแต่ทรงพลัง เหมือนหญิงสาวที่รู้พลังของการนิ่ง เธอเรียกมันว่า “การปอกเปลือกโครงสร้างของการตัดเย็บ (Peeling back the structure of tailoring)” แจ็กเก็ตของเธอจึงแทบไม่มีโครง บางเบาเหมือนคาร์ดิแกน เสื้อสูททรงทักซิโด้ที่เคยแนบเป๊ะกลับถูกถอดปกออก เผยบ่าและสายเสื้อใน นั่นคือวิธีที่ Burton ตอบคำถามเรื่อง “อำนาจ” ในแบบใหม่ อำนาจที่ไม่จำเป็นต้องมาจากความแข็ง แต่จากความอ่อน เธอจงใจตั้งคำถามกับรากความคิดในแฟชั่นที่เชื่อว่า “ผู้หญิงต้องยืมอำนาจจากผู้ชายเพื่อดูทรงพลัง” และเลือกหาคำตอบในทางตรงข้าม “แทนที่จะไปยืม archetype ของผู้ชาย ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงจะรู้สึกแข็งแรงได้อย่างไรผ่าน archetype ของผู้หญิงเอง”

คำตอบจึงอยู่ในกระโปรงพันผ้าที่เผยสะดือเล็กน้อยแต่กลับดูหรูในความเป็น couture อยู่ในชุดตาข่ายรัดรูปที่ให้กลิ่นอาย fetish แบบเล็กน้อย พร้อมด้วยบอดี้สูทกับส้นเข็มเรียวสูงที่สะท้อนความมั่นใจของร่างกาย และอยู่ในโค้ตพิมพ์ใบหน้าของ Marilyn Monroe จากภาพถ่ายสุดท้ายของ Bert Stern ซึ่ง Burton นำมาตีความใหม่ ไม่ใช่ในฐานะสัญลักษณ์ของหญิงที่ถูกกลืน แต่ของหญิงที่ “เลือกจะเปลือย” “มีความกลัวในสังคมต่อผู้หญิงที่อยากรู้สึกเซ็กซี่” เธอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “แต่ฉันรู้สึกถึงพลังทางเพศในงานนี้จริง ๆ มันไม่ใช่การทำให้วัตถุ แต่คือการทำให้ชีวิต” และในทุกฝีเข็มของเธอ ความรู้สึกนั้นปรากฏออกมาอย่างชัดเจน

Givenchy SS26

หนึ่งในช่วงที่น่าจดจำที่สุดคือเมื่อนางแบบเดินออกมาในลุคเสื้อพันขาวกับแจ็กเก็ตโครงหลวม ทำให้นึกถึง “ความเย้ายวนอย่างไม่ตั้งใจ” แบบที่ Donna Karan เคยสร้างไว้ในยุค 80s ผู้หญิงออกแบบเพื่อผู้หญิง ความเซ็กซี่ที่เกิดจากความสบายใจในร่างกายของตัวเอง ไม่ใช่เพื่อสายตาของผู้อื่น ความเป็น couture spirit ก็ยังแทรกอยู่ในทุกรายละเอียดทั้ง โค้ตเปิดไหล่สีฟ้าอ่อนปักดิ้นไหมที่ปล่อยชายเป็นพู่เฉด ombré ชุดขาวที่เหมือนผ้าปูเตียงแต่ปักมืออย่างประณีต บราท็อปสีพีชกับกระโปรงบอลกาวน์ที่ดูเหมือนปกคลุมด้วยขนนกแต่แท้จริงคือ plumes of chiffon ที่ถูกฉีกด้วยมือทีละเส้น ซึ่งทุกชิ้นพูดถึง “สัมผัสของมือ” มากกว่าการโชว์ฝีมือ

ในแง่ของภาพรวมแบรนด์ Burton ทำสิ่งที่เธอพูดได้จริง เธอให้ความ “ชัด” กับหญิงสาวของ Givenchy “Because it’s been a lot of things,” เธอกล่าว “มันสำคัญมากที่จะต้องนิยาม silhouette ของเธอให้ชัดตั้งแต่ต้น” และตอนนี้มันชัดเจนแล้วทั้ง เสื้อเชิ้ตหลวมพันตัว กระโปรงผ้าพันสะดือ โค้ตเปิดไหล่ และเผยช่วงตัว

สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ตัวโชว์คือผลสะท้อนกลับในเชิงธุรกิจ ทั้งการที่ 4 จาก 10 ภาพที่ถูกบันทึกมากที่สุดบน Vogue Runway ในฤดู Fall 2025 มาจากโชว์เดบิวต์ของเธอ และในโชว์ครั้งนี้ ผู้ชมจำนวนมากที่นั่ง front row ก็สวมเสื้อผ้าจากคอลเลกชันนั้น โดยเฉพาะลุค pale yellow duchesse satin caban กับเข็มขัดดำที่กลายเป็นลุคยอดฮิตของซีซันก่อน การปรากฏของลูกค้าเหล่านี้คือสัญญาณของ “brand adoption” ที่เกิดเร็วผิดปกติในระดับ luxury house ส่วนการตอบรับในสื่อสังคมก็บ่งบอกชัด engagement บน Instagram ของ Givenchy เพิ่มขึ้นกว่า 30% ภายใน 48 ชั่วโมงหลังโชว์ และคำค้นอย่าง “wrap shirt” และ “bare bejeweled top” พุ่งขึ้นในตลาดรีเซลและแฟชั่นคอนเทนต์

 Givenchy SS26

โชว์นี้ไม่เพียงต่อยอดความสำเร็จทางศิลป์ แต่ยังยึดมั่นในทิศทางเชิงธุรกิจที่ Givenchy ต้องการอย่างยิ่ง การนิยาม silhouette ใหม่ให้เป็นทรัพย์สินทางภาพลักษณ์ (visual equity) และเชื่อมโยงกับ narrative ของ “powerful femininity” ที่จับต้องได้ในเชิงอารมณ์มากกว่าความหรูหราเพียงเปลือก

และในตอนท้าย เมื่อเสียงปรบมือดังขึ้นหลัง Burton ออกมาคำนับ เธอกล่าวเบา ๆ ว่า “How do I get the pagan into Givenchy?” มันคือคำถามที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะออกจากปากอดีตดีไซเนอร์แห่ง Alexander McQueen แต่ก็เป็นคำถามที่อธิบายเส้นทางของเธอได้ดีที่สุดนั่นคือ การนำ Givenchy ออกจากเงาของความสมบูรณ์แบบและความชั้นสูงที่ดูเกินฝัน มาสู่โลกที่ความเป็นหญิงไม่ต้องถูกกรอบไว้ในคำว่า “สุภาพ”

ภายใต้ผลงานของเธอ Givenchy กลายเป็นเรื่องของ “การสัมผัส” มากกว่าการมอง การกลับไปสู่ความรักในรูปแบบที่ปราศจากอาวุธแฟชั่นแบบซับซ้อนหรือเข้าใจยากมาสู่การเป็นเสื้อผ้าที่สั่นสะเทือนด้วยความรู้สึก ไม่ใช่ด้วยโลโก้ และบางที นี่แหละคือคำตอบของคำถามที่แฟชั่นเฮาส์หลายแห่งพยายามหามานาน ว่าจะทำให้ผู้หญิงรู้สึกทรงพลังได้อย่างไรโดยไม่ต้องเปลี่ยนเธอให้เป็นใครอื่น

Share

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Search