Logo Hashtag Legend

Exclsuive Interview: สัมภาษณ์พิเศษกับ พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ในวันที่ต้องขึ้นเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มศิลปินฝึกหัด one TRAINEE

Author: Kantinan Srisan | Photographer: Somkiat Kangsdalwirun

Feb 14, 2025

“…จากความหลงใหลในเรื่องราวของการแสดงและอุตสาหกรรมบันเทิงมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งได้ฉายแสงประกายสู่การเป็นสมาชิกวง one TRAINEE ประจำช่อง one31 พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ได้แชร์กับ #legend_th อย่างสุดเอ๊กซ์คลูซีฟว่า กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ โชคไม่ใช่องค์ประกอบเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นเรื่องของความพยายาม การฝึกฝน และความเคารพต่อการซัพพอร์ทของกลุ่มแฟนคลับอย่างจริงใจ…”

จริงๆ แล้วในตอนแรกผมเองมีความสนใจในด้านวงการบันเทิงนะครับ แต่ไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าเราจะลงไปศึกษากับมันอย่างจริงจัง และไม่ได้คาดหวังว่าปลายทางของเราจะมาอยู่ในวงการบันเทิงอย่างในทุกวันนี้ด้วยครับ แต่ระหว่างที่ผมศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมเองได้รับรางวัล Shining Star จาก TU Freshy Game และมีโอกาสเป็นเชียร์ลีดเดอร์และมีโอกาสเป็นโมเดลให้กับรุ่นพี่ทั้งในคณะและต่างคณะระหว่างนี้ด้วย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเริ่มรู้สึกเอนจอยกับการเจอผู้คนและทำงานหน้าเซ็ต ซึ่งต่อมาสิ่งเหล่านี้ได้นำไปสู่โอกาสในการถ่าย MV ให้กับ The Toys ไปจนถึงโฆษณาในภายหลังด้วย แต่เหตุการณ์สำหรับในเรื่องนี้คือการที่เราได้รับการติดต่อมาจากช่อง one และโอกาสในการแคสติ้งเป็น one TRAINEE สิ่งตรงนี้ช่วยจุดประกายให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมาในมหาวิทยาลัย เราชอบการทำงานในวงการบันเทิง และหากเราปล่อยโอกาสนี้ไป เราคงจะเสียดายที่ไม่ได้แม้แต่จะลองทำ และสิ่งนี้คือสิ่งที่ปูทางให้ผมได้เข้ามาสู่วงการบันเทิงอย่างในทุกวันนี้ครับ

แต่การเข้ามาเป็นสมาชิกของกลุ่ม one TRAINEE ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของการฝึกฝนทักษะและความสามารถส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว ในฐานะของการเป็นพี่ใหญ่ พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ยังคงมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกแต่ละคนให้ฉายแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

LT: ในฐานะของพี่ใหญ่ ผมต้องบอกว่าผมสังเกตและสัมผัสได้ถึงการเติบโตของสมาชิกทุกคนในวงเลยครับ ในตอนแรกพายคิดว่าสมาชิกคนอื่นๆ จะอายุไร่เรี่ยกับผม แต่ปรากฏว่าจะเป็นน้องๆ ที่อายุ 15-18 ปี ในตอนแรกแอบกังวลอยู่ครับว่าเราจะเข้ากันได้รึเปล่า ด้วยช่วงว่างอายุที่ห่างกันระดับนี้ แต่พอได้อยู่ด้วยกัน ได้เรียนและทำกิจกรรมด้วยกันก็รู้สึกว่าเราสามารถเข้าใจกันและกันได้ไม่ยากเลย มีบ้างที่คอยเตือนเรื่องของเวลาหรือตารางที่ต้องทำ แต่โดยรวมคือผมคิดว่าทุกคนมีเป้าหมายและทิศทางที่ตรงกัน และพร้อมที่จะผลักดันและส่งเสริมซึ่งกันและกันตลอดครับ

การจัดสรรเวลายังคงเป็นสิ่งที่ พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ ในแต่ละวัน เพราะเขาเชื่อว่าชีวิตส่วนตัวนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญของเขา ไม่แตกต่างกันกับการการฝึกซ้อมเพื่อความพัฒนาในฝีมือการแสดงและการฝึกปรือเพื่อรับมือกับความกดดันในฐานะของศิลปิน

LT: ในแต่ละวันทางช่องและพี่ๆ จะมีตารางมาให้เสมอครับว่าแต่ละวันเราจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งเราเองต้องเตรียมตัวมาก่อนเสมอๆ ครับ ซึ่งตัวผมเองเป็นคนที่มักจะแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน เรามักจะเต็มที่กับทุกช่วงเวลาของเรา ทำงานก็ทำงานจริงจัง ซีเรียสกับมันจริงๆ แต่เราไม่ใช่คนที่เฟลกับฟีดแบคเชิงลบสักเท่าไหร่ ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนครูและคำแนะนำให้กับเรา ซึ่งเป็นแรงผลักดันและบทเรียนให้เราให้ดีขึ้นในครั้งต่อๆ ไป แต่เมื่อถึงเวลาส่วนตัวเรามักจะใช้เวลากับตนเอง เป็นเวลาชาร์จพลังของเรา 

เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แพลทฟอร์มออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทรงพลังที่ช่วยให้หลากหลายบุคคลสาธารณะได้ใกล้ชิดกับเหล่าแฟนคลับมากขึ้น และ พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ คือหนึ่งในผู้ที่เห็นด้วยกับเรื่องราวนี้อย่างที่สุด

LT: ผมคิดว่าช่องทางเหล่านี้มีประโยชน์มาก บางครั้งเราเดินกลับบ้านและถ่ายวิดีโอระหว่างทางและโพสต์ลงโซเชี่ยลมีเดีย และมีคนมาเห็นแล้วบอกว่า ‘ชอบเวลาที่พายเดินถ่าย TikTok กลับบ้านมากเลย ดูแล้วแฮปปี้ เป็นพลังบวก’ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้เริ่มคุยกับแฟนคลับในช่องทางนี้ เพราะมันเป็นพลังบวกให้ทั้งกับเราและเขาในเวลาเดียวกัน แต่จริงๆ แล้ว X คือช่องทางที่เรามักจะใช้ในการติดต่อและพูดคุยกับแฟนคลับมากที่สุด ในฐานะที่มันเป็นช่องทางที่เราได้ถ่ายทอดความเป็นตัวเองให้แฟนคลับหรือคนที่ติดตามเราได้มากที่สุด

พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ยังกล่าวเสริมอีกว่า นอกเหนือไปจากโปรเจคที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้ บิลกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล คือบุคคลที่เขาเองอย่างจะร่วมงานด้วยในอนาคต

LT: คนที่พายรู้สึกอึนมากๆ กับการแสดงของเขาในตอนนี้คือ บิลกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ซึ่งผมประทับใจการแสดงของเขามากในภาพยนตร์เรื่อง หลานม่า ที่ผมได้มีโอกาสไปดูกับคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งการแสดงของในเรื่องนี้ของเขาคือการส่งอารมณ์ที่ดีมากๆ เรารู้สึกว่าในฐานะของนักแสดงด้วยเหมือนกัน เราอยากจะไปให้ถึงระดับนั้นในสักวัน ทำให้ บิลกิ้น หากเป็นไปได้ ผมเองอยากจะร่วมงานและเรียนรู้จากเขาในสักวันครับ

ในฐานะของการเริ่มต้นปีใหม่ พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ยังได้เผยกับ #legend_th อย่างสุดพิเศษอีกด้วย ถึงเป้าหมายและความตั้งใจที่จะสำเร็จ ทั้งในฐานะของตัวบุคคลและศิลปินภายใต้ช่อง one31

LT: จริงๆ มีสองสิ่งครับที่ผมตั้งใจจะทำให้สำเร็จให้ได้ในปีนี้ หนึ่งคือการได้เล่นละครและการมีฝีมือการแสดงที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งละครที่เป็นเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีการทิ้งปมไว้ให้คนดูได้คิดต่อคือลักษณะของละครที่ผมเองชื่นชอบเป็นพิเศษ ส่วนอีกอย่างคือการดูแลสุขภาพและหุ่นที่ดีขึ้นกว่าตอนนี้ เพราะส่วนตัวรู้ว่าตนเองค่อนข้างผอมไปสักนิด แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่สิ่งนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมเองอยากจะทำให้สำเร็จในปีนี้ครับ

และก่อนที่สัมภาษณ์พิเศษในครั้งนี้จะจบลง พาย ลัทธนันท์ ตันพิวัฒน์ ยังได้เผยกับ #legend_th อีกด้วยว่า หากต้องเลือกเพียงหนึ่งบุคคลที่เขามีความชื่นชอบโดยส่วนตัวมากที่สุด บิลกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล คือผู้ที่เปรียบเสมือนบุคคลต้นแบบของเขา ทั้งในแง่มุมส่วนตัวและการทำงาน

LT: ในเรื่องของการแสดง พี่บิลกิ้น คือคนที่เราอยากจะเป็นให้ได้อย่างเขา แต่ในพาร์ทของดนตรี ผมเองมีศิลปินคนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเสมอๆ คือ Brenjoy ซึ่งเป็นศิลปินที่ผมชื่นชอบเป็นอย่างมาก ทั้งเทคนิคการร้อง ทั้งสไตล์ของเพลง ผมเองได้มีโอกาสไปฟังด้วยตนเองตอนอยู่ปี1 ซึ่งจนทุกวันนี้ก็ยังติดตามและชื่นชอบเหมือนเดิม ซึ่งถ้ามีโอกาสผมเองก็อยากจะร้องให้ได้เหมือนเขาในสักวันครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม: Cover Story: Jeff Satur ศิลปินผู้เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นในทุกจังหวะของชีวิต

RECOMMENDED READS