Logo Hashtag Legend

เฉดสีสวยที่กำลังจะครองพื้นที่ความนิยมของอุตสาหกรรมออกแบบในปี 2025

Author: Phuriwat Hirunrangsee | Photographer: Courtesy of the brands

Jan 23, 2025

"...อัพเดตเทรนด์สีมาแรงประจำปี 2025 จากการคาดคะเนของสถาบันชื่อดังระดับโลก PANTONE, WGSN และ INTERCOLOUR มาดูกันว่าเฉดสีที่น่าจะส่งผลอิทธิพลต่อวงการออกแบบในทุกมิติสำหรับปีนี้ จะมีสีไหนที่น่าจับตามองกันบ้าง..."

PANTONE

ในโลกของแฟชั่นและการออกแบบ PANTONE นับเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเรื่องของสีสัน ด้วยการครีเอตสีที่เปรียบเหมือนภาษาสากลที่ช่วยให้แบรนด์และนักออกแบบสามารถเลือกสีที่โดดเด่นและเข้ากับเทรนด์เพื่อปรับใช้ในกระบวนการสร้างสรรค์ได้ สำหรับปี 2025 Pantone ได้ประกาศให้ PANTONE 17-1230 Mocha Mousse สีน้ำตาลที่ดูหรูหราให้ความรู้สึกสบายใจเมื่อจ้องมองราวกับสีสันของช็อกโกแลตและกาแฟที่เข้มข้นเป็นสีเด่นประจำปี 

สีน้ำตาลที่มีเอกลักษณ์นี้ไม่เพียงแต่โดดเด่นเมื่ออยู่ตามลำพังเท่านั้น แต่ยังเป็นสีพื้นฐานที่เสริมความงามให้กับเฉดสีอื่นๆ ได้ในหลากหลายสไตล์ตั้งแต่สไตล์มินิมอลอันเรียบง่ายเรื่อยไปจนถึงการออกแบบที่มีรายละเอียดฟุ้งเฟ้อ PANTONE ได้สร้างสรรค์ชุดสีที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาห้าชุดโดยมี PANTONE 17-1230 Mocha Mousse สีน้ำตาลอันมีเอกลักษณ์เป็นส่วนประกอบ แต่ละชุดสีนั้นสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกัน หนึ่งในเฉดสีที่น่าสนใจคือ “Relaxed Elegance” นำเสนอการผสมผสานสีสันที่กลมกลืนกันระหว่างเฉดสีเบจ ครีม เทา และน้ำตาล เป็นชุดสีที่ทรงพลังเมื่อรวมกับ PANTONE 17-1230 Mocha Mousse ชุดสีเหล่านี้ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ของความเรียบง่ายอันสง่างาม เปิดโอกาสในการสร้างสรรค์ผลงานออกแบบใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

WGSN

ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง WGSN และ Coloro WGSN ได้เปิดตัวสีประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2025  นำเสนอพาเลตสีที่มีความหลากหลายสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่นำมาสู่การใช้ความคิดสร้างสรรค์เชิงกลยุทธ์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนและการหยุดชะงักที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลก สีสันที่มีความโดดเด่นในปีนี้คือ Future Dusk สีน้ำเงินโทนม่วงที่มีความลุ่มลึก เฉดสีที่แปลกใหม่สื่ออารมณ์ถึงความลึกลับและการหลบหนี ต่างไปจากสีม่วงเข้ม Midnight Plum ในซีซั่นที่ผ่านมา 

ตามมาด้วยสี Transcendent Pink สีที่ดูเรียบง่ายและเปล่งปลั่ง ให้ความรู้สึกถึงความสมดุลและสัมผัสที่มั่นคง พาเราเข้าสู่โลกดิจิทัลของเมตาเวิร์สที่เส้นแบ่งระหว่างความจริงและแฟนตาซีนั้นเริ่มเลือนลางลง และยังมี Aquatic Awe สีฟ้าเทอร์ควอยซ์นำเสนอความแปลกและน่าพิศวงของธรรมชาติ ผสมผสานองค์ประกอบของสิ่งสังเคราะห์ที่เชื่อมโยงโลกดิจิทัลในยุคปัจจุบัน การบรรจบกันระหว่างจินตนาการและความเป็นจริงนี้ถ่ายทอดเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตในทะเลที่เรืองแสงและระบบนิเวศทางทะเลอันเปราะบาง เติมเต็มความสดใสด้วยสี Sunset Coral ที่ชวนให้เราค้นหาความสุขและความสำคัญในการหยุดพักเพื่อสร้างความสงบในชีวิตอันเร่งรีบ สำหรับสีสุดท้าย Ray Flower พร้อมมอบความสุขด้วยสีเหลืองอันมีชีวิตชีวาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นตัวแทนของการใส่ใจธรรมชาติในแง่มุมของการออกแบบ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างโลกและท้องฟ้าและยังเชื่อมโยงกับการเกิดจันทรุปราคาในปี 2025 อีกด้วย เฉดสีเหล่านี้ไม่เพียงแต่กำหนดทิศทางในการสร้างสรรค์และความสวยงามในฤดูกาลที่จะมาถึงนี้ แต่ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ WGSN และ Coloro ที่มุ่งเน้นไปยังนวัตกรรมล้ำสมัย การแสดงตัวตน และความยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองการรับรู้และแฟชั่นในชีวิตประจำวัน

INTERCOLOUR

INTERCOLOUR องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรก่อตั้งขึ้นในปี 1963 โดยรวมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสีจากองค์กรระดับชาติต่างๆ และบริษัทที่ปรึกษาด้านแฟชั่น สิ่งทอ และการออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มผู้แทนจะมาประชุมร่วมกันทุกปีเพื่อนำเสนอสีประจำฤดูกาล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากมุมมองความคิด ไลฟ์สไตล์ และสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลาย

inFASH สถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทยได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมประชุมเพื่อนำเสนอสีประจำปี โดยธีมสีที่รับคัดเลือกในระดับสากลแบ่งออกเป็นเจ็ดประเภท โฟกัสที่ครึ่งปีหลังของปี 2025 หนึ่งธีมที่โดดเด่นคือ “Psycare” ซึ่งแสดงถึงตัวตนที่มีเอกลักษณ์ขณะเดียวกันก็เปิดรับแนวคิดของการไม่แบ่งเพศชายหญิง และแนวคิดทางสตรีนิยม ถ่ายทอดมาสู่พาเลตสีที่สดใสกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกถึงความมีออร่าและสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงเฉดสีที่สะท้อนความงามของร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสีชมพูอ่อนๆ ที่คล้ายคลึงกับสีของผิวที่มีเลือดฝาด สีเขียวอ่อนที่ชวนให้คิดถึงเส้นเลือด เรื่อยไปจนถึงสีส้มปะการัง สีหน่อไม้ฝรั่ง สีโทนอบอุ่นของสโคน และสีเหลืองสดของซอสเพสโตผสมพริกแดง 

เรื่องราวของธีมสีเปลี่ยนทิศทางไปอย่างน่าสนใจเมื่อเราลงลึกไปในธีม “Inter Generation” ซึ่งเริ่มมาจากการตั้งคำถาม “Age, why not?” แนวคิดที่เปลี่ยนเรื่องของการมีอายุที่มากขึ้นให้กลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกของชีวิต ในธีมนี้ยังเสริมด้วยแนวคิดในเรื่องของ “Who’s tradition?” ที่ชวนให้เราตระหนักถึงการร้อยเรียงเรื่องราวอันซับซ้อนของวัฒนธรรมสมัยใหม่ ซึ่งประเพณีไม่ได้เป็นเพียงแค่ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ถูกแบ่งปันให้กับกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย นำมาสู่โทนสีที่มีความขัดแย้งกันไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างสีม่วงกับสีเหลือง และสีน้ำตาลช็อกโกแลตเข้มที่จับคู่กับสีครีมอันเปล่งประกายงดงาม สร้างชุดสีที่โดดเด่นดึงดูดสายตา

และในธีม “Speaking to the Weaknesses within Us” กล่าวถึงความท้าทายในจิตใจที่เกิดจากการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ในขณะเดียวกันก็สะท้อนแก่นแท้ของการต่อสู้ภายในตัวเองผ่านเฉดสีที่มีความสดใสชวนหลงใหล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกดิจิทัล เช่น สีเหลือง Sulfur  สีเทา graphite และสีฟ้า Salem ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาและพลังงานได้อย่างชัดเจน

อ่านบทความเพิ่มเติม: FENDI Men's Spring/Summer 2025: การเดินทางสู่ศตวรรษแห่งความหรูหรา

RECOMMENDED READS