Logo Hashtag Legend

#influence PERSES และการเติบโตในฐานะของบอยกรุ๊ปรุ่นใหม่ไฟแรงของวงการ T-Pop

Author: Pimpichaya Chaikittiporn | Photographer: Somkiat Kangsdalwirun

Dec 11, 2024

"...จากเด็กวัยรุ่น 5 คนที่วิ่งตามความฝันในวงการบันเทิงอย่างไม่หยุดยั้ง สู่การเป็นบอยกรุ๊ปรุ่นใหม่ไฟแรง ‘PERSES’ ซึ่งสมาชิกแต่ละคนล้วนมีสไตล์ เอกลักษณ์ และความชอบที่ไม่เหมือนกัน แต่ความแตกต่างเหล่านั้นได้หล่อหลอมให้เกิดเป็น PERSES ได้อย่างลงตัว พร้อมกับความตั้งใจที่อยากจะผลักดันวงให้ไปไกลถึงระดับโลก..."

ในช่วงปีหลังๆ อุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของประเทศไทยได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือวงการ T-Pop ที่เริ่มมาเป็นกระแสทำให้วัยรุ่นยุคใหม่เริ่มสนใจฟังเพลงไทยมากขึ้น รวมไปถึงการติดตามศิลปินไอดอลไทย  #legend_th ได้มีโอกาสพูดคุยและทำความรู้จักกับ 5 หนุ่มศิลปินไอดอลจากวง ‘PERSES’ จั๋ง วิกร,เน ณรัณ ,กฤต กฤติน, ปาล์ม พีรวิชญ์ และ ปลั๊กกี้ ธรากร ที่กว่าจะได้รวมตัวเป็นวง ทั้ง 5 หนุ่มต้องผ่านบทพิสูจน์และความท้าทายอย่างมากในการเป็นศิลปิน

ปลั๊กกี้ สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของวงกล่าวกับ #legend_th ว่า “จริงๆแล้ว จุดเริ่มต้นของ PERSES มาจากโปรเจกต์การค้นหาศิลปินไอดอล จากค่าย G’NEST ค่ายเพลงในเครือ GMM Grammy ด้วยความที่แกรมมี่ไม่มีวง T-POP มามากกว่า 10 กว่าปีแล้ว แล้วเราเป็นโปรเจกต์แรกที่ทางค่ายเพลงอยากจะเริ่มทำ พวกเราทุกคนผ่านการออดิชั่นกันมาจากคนละที่”  

แม้มีจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงที่แตกต่างกันและต้องพบเจอกันความกดดันหลากหลายรูปแบบ แต่สมาชิกทุกคนก็พยายามฝึกฝนอย่างหนักจนได้มาเป็น PERSES

จั๋ง: “ผมมีความสนใจในดนตรีมาตั้งแต่เด็ก เคยเป็นมือกลองให้กับวงดนตรี แต่ตอนแรกไม่ได้จริงจังมากขนาดนั้น มองแค่ว่าการเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรก จุดเปลี่ยนของผมคือการได้มาแคสติ้งกับค่าย MBO เป็นครั้งแรกที่ได้มาเป็นศิลปินอย่างจริงจัง มีโอกาสได้ทำเพลงเอง และผมค้นพบว่าเราชอบการเป็นศิลปิน หลังจากนั้น MBO ก็ส่งไปออดิชั่นที่ค่าย G’NEST ได้เข้าร่วมเป็นเด็กฝึกของทางค่าย ระหว่างนั้นก็มีการคัดคนออกทุกเดือน แต่สุดท้ายเราได้เข้ารอบจนมาเป็นหนึ่งในสมากชิกวง PERSES”

กฤติน: “จริงๆ ผมเป็นคนชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่รู้ว่าเราร้องได้ดีหรือเปล่า เพราะเคยมีเรื่องฝังใจกับการร้องเพลง เคยโดนไล่ออกจากวงดนตรี ตอนไปประกวดร้องเพลงก็เคยได้รับคำวิจารณ์แย่ๆมาก่อน ตอนนั้นก็เลยไม่มั่นใจไม่กล้าร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะๆ ช่วงนั้นเราได้ไปเป็นนายแบบอยู่โมเดลลิ่งแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นค่าย G’NEST ก็มาชวนให้ไปออดิชั่น เราเลยกลับไปร้องเพลงอีกครั้ง ตอนแรกๆ ยอมรับเลยว่าท้อ เพราะต้องทุ่มเวลาให้กับตรงนี้ทั้งหมด เราต้องเรียนไปด้วยและทุ่มเทกับการฝึกซ้อมไปด้วย แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็เกิดความเคยชินและเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข พอเราเริ่มมีแฟนคลับมีคนติดตามเราเลยรู้สึกว่าเราทำความฝันของตัวเองให้มันเป็นจริงได้อีกขั้นแล้ว”

เน: “ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นนายแบบมาก่อน มีถ่ายงานแสดงโฆษณามาบ้าง ในช่วงนั้นไม่เคยมีความคิดที่จะเป็นศิลปินมาก่อนเลย แต่บังเอิญว่าโมเดลลิ่งส่งมาให้ออดิชั่นของค่าย G’NEST เลยลองไป ไหนๆโอกาสก็มาแล้ว ตอนเทรนแรกๆ ร้องไม่ได้ เต้นไม่ได้เลย แต่ค่ายให้โอกาสให้เราฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนได้รับโอกาสให้เป็นหนึ่งในสมาชิกวง PERSES”

ปลั๊กกี้: “สำหรับผมเส้นทางการเป็นศิลปินของผมเริ่มต้นมาจากการประกวด The Voice Kids และช่วงมัธยมปลายเราเปิดช่อง Youtube ทำ Cover Dance กับเพื่อนๆ ช่วงนั้นคลิปของผมเป็นกระแส ค่าย G’NEST เลยชวนไปออดิชั่น ทางค่ายบอกว่าชอบเสียงร้องเพลงของผม พอออดิชั่นผ่านผมเลยย้ายจากขอนแก่นมาที่กรุงเทพฯ ช่วงนั้นผม พี่จั๋ง พี่กฤติน และ พี่เน ฝึกมาพร้อมๆกัน มีปาล์มที่เข้าตามมาทีหลัง”

เมื่อพูดถึงเพลงดังของวงอย่าง ‘น่ารักน้อยลงหน่อย’ และ ‘Bodyguard’ PERSES เผยกับทาง #legend_th ว่า สมาชิกในวงมีส่วนร่วมในการทำเพลงร่วมกับโปรดิวเซอร์เพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด

จั๋ง: “ผมเป็นคนเขียนท่อนแร็ปและเป็น Background Vocal ครับ พี่ปณต Getsunova เป็น Executive Producer ให้กับวงเรา เพลงนี้เกิดจากการที่พี่เขาศึกษาพฤติกรรมของเมมเบอร์แต่ละคนเวลาเล่นกับแฟนคลับครับ เราให้ความสำคัญกับแฟนคลับมากๆ พี่เขาก็จะรู้สึกว่าน่ารักจังเลย เลยคิดในทางกลับกันเหมือนเราเป็นฝ่ายบอกกับแฟนคลับว่า เธออย่าน่ารักไปกว่านี้เลยนะ ส่วนเพลง Bodyguard พวกเรามีโอกาสเข้าไปนั่งฟัง แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำดนตรีขนาดนั้น ผมเป็นแค่คนทำ Background Vocal ครับ”

ปลั๊กกี้: “มันก็จะมีเรื่องการอัดเพลงครับ เราจะเรียงลำดับคนเข้าไปอัดเพลง ส่วนใหญ่จะเป็นพี่กฤตินเป็นคนเข้าไปอัดคนแรก เพราะเขาเป็นคนที่พลังล้นเหลือ”

จากซิงเกิลแรก ‘My Time’ จนถึง ‘Bodyguard’ สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับ PERSES คือการแสดงบนเวทีที่เน้นให้คนดูมีส่วนร่วมและสนุกไปกับโชว์ให้มากที่สุด โดยไม่ต้องกังวลถึงความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น

เน: “ย้อนไปเพลงแรกคือ My time สิ่งที่ผมจำได้ดีในวันที่พวกเราเดบิวต์ คือ ความกังวล ผมกังวลไปหมดทุกอย่าง กลัวว่าจะเต้นผิดแต่ว่าพอมาหลังๆ เราจะไม่ได้กังวลตรงส่วนนั้นแล้ว เราจะเน้นความสุขของผู้ชมเป็นหลักให้ทุกคนมีความสนุกร่วมไปกับเรา โดยที่เราไม่กังวลว่ามันจะเกิดความผิดพลาดอีกแล้ว”

ปลั๊กกี้: “พวกเราจะคิดถึงแค่เรื่องความสนุกของผู้ชมมากกว่า วันนี้เขามาดูเราแสดงเขาสนุกกันไหม มีความรู้สึกร่วมไปกับโชว์ของพวกเราหรือเปล่า เหมือนเราโตขึ้นทั้งในแง่ความคิดและตัวตนของทุกคนที่ชัดเจนมากขึ้นจากตอนแรก เปรียบเทียบช่วงแรกๆแล้ว พวกเราทั้ง 5 คน เหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมมาครับ” (หัวเราะ)

กฤติน: “ตอนแรกพวกเราแข็งมาก พูดทุกอย่างตามสคริปต์เพราะกลัวตกหล่นอะไรไป ตั้งหน้าตั้งตาเต้น ลืมมองว่าคนดูสนุกกับการแสดงของเราหรือเปล่า พอเราได้รับคำวิจารณ์มาเราก็เริ่มปรับให้การแสดงของพวกเราเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมว่าคนดูชอบดูอะไรที่เป็นธรรมชาติที่สุดครับ”

อ่านสัมภาษณ์พิเศษของ PERSES เต็มรูปแบบได้ที่นิตยสาร Hashtag Legend Thailand ฉบับเดือนธันวาคมได้แล้ววันนี้

RECOMMENDED READS