Logo Hashtag Legend

Chinese New Year 2025: หลากสีสันแห่งความหมายในเทศกาลตรุษจีน

Author: Pimpichaya Chaikittiporn | Photographer: -

Jan 28, 2025

“...วนกลับมาสู่เทศกาลตรุษจีนอีกครั้ง เทศกาลดังกล่าวถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดในวัฒนธรรมจีน ซึ่งไม่ได้เป็นแค่การเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปีใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์และการระลึกถึงประเพณีที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น…วันนี้ #legend_th จะพาไปสำรวจสีสันแห่งความหมายของชาวจีน…โดยสีในวัฒนธรรมจีนนั้นแผงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของชาวจีน…” 

เทศกาลตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (春节, Chūn Jié) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดในวัฒนธรรมจีน ซึ่งไม่ได้เป็นแค่การเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปีใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์และการระลึกถึงประเพณีที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ชาวจีนจะให้ความสำคัญกับสีสันต่างๆ ที่ปรากฏในเทศกาลนี้ เนื่องจากแต่ละสีมีความหมายที่ลึกซึ้งและเชื่อว่าเป็นการดึงดูดโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความสุขที่จะเข้ามาในปีใหม่

สีแดง (红 - hóng)

รูปภาพจาก Lalin, Gucci, และ Freepik 

สัญลักษณ์: โชคลาภ, ความสุข, ความมั่งคั่ง และการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย

สีแดงถือเป็นสีที่เด่นที่สุดในเทศกาลตรุษจีน เชื่อกันว่าสีแดงจะนำโชคลาภมาให้และช่วยป้องกันวิญญาณชั่วร้าย ตามตำนานในอดีต สีแดงถูกเชื่อว่าแข็งแกร่งพอที่จะขับไล่ เนียน (Nian) ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานที่ออกมากินผู้คนในช่วงปีใหม่ คนโบราณจะตกแต่งบ้านด้วยสีแดง จุดประทัด และใส่เสื้อผ้าสีแดงเพื่อขับไล่เนียน วันนี้สีแดงยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ พบได้ในตกแต่งบ้าน ซองแดง (红包, hongbao), โคมไฟสีแดง, คู่คำมงคล และเสื้อผ้าประจำเทศกาล ซองแดงที่บรรจุเงินจะถูกมอบให้แก่เด็กๆ และผู้ที่ยังไม่แต่งงานเป็นสัญลักษณ์แห่งการอวยพรและโชคลาภ

สีทอง (金 - jīn)

รูปภาพจาก @davikah และ gagagleam

สัญลักษณ์: ความมั่งคั่ง, ความอุดมสมบูรณ์ และความสำเร็จ

สีทองมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองในวัฒนธรรมจีน มักปรากฏคู่กับสีแดงในช่วงเทศกาลตรุษจีน สีทองสื่อถึงความสำเร็จทางวัตถุ การเติบโตทางการเงิน และความอุดมสมบูรณ์ในปีที่จะถึง คุณจะเห็นสีทองในของตกแต่งต่างๆ ตั้งแต่การห่อขนมแบบดั้งเดิม เช่น ส้มทอง หรือ ลูกอมรูปแท่งทอง การผสมผสานระหว่างสีแดงและสีทองถือเป็นการเสริมโชคและความมั่งคั่งให้เพิ่มพูนในปีใหม่

สีเหลือง (黄 - huáng)

รูปภาพจาก Pinterest, Boonlert Ro และ ichongqing.info

สัญลักษณ์: อำนาจ, ความมั่นคง และความอบอุ่น

แม้ว่าสีแดงและสีทองจะเด่นมากกว่า แต่สีเหลืองก็ยังคงมีความสำคัญในเทศกาลตรุษจีน ในอดีต สีเหลืองมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความมั่งคั่ง และพลังศักดิ์สิทธิ์ สีเหลืองยังสื่อถึงธาตุดิน ซึ่งเป็นตัวแทนของความมั่นคงและความสมดุลที่ช่วยเสริมบรรยากาศในช่วงเทศกาล คุณจะพบสีเหลืองในของตกแต่งบ้าน อาหาร และเสื้อผ้า ที่ทำให้การเฉลิมฉลองดูสมดุลและลงตัว

สีเขียว (绿 - lǜ)

รูปภาพจาก WeTV, Pinterest, im_phuongg และ @baydoucet

สัญลักษณ์: การเริ่มต้นใหม่, ความมีชีวิตชีวา และการเติบโต

สีเขียวเป็นอีกหนึ่งสีที่มีความเชื่อมโยงกับเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะในแง่ของธรรมชาติและการเริ่มต้นใหม่ สีเขียวหมายถึงการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ การฟื้นฟู และการเริ่มต้นใหม่ ซึ่งเป็นธีมหลักของเทศกาลนี้ นอกจากนี้สีเขียวยังเกี่ยวข้องกับธาตุไม้ในปรัชญาจีน ซึ่งแสดงถึงการเติบโต ความมีชีวิตชีวา และความมั่งคั่ง ในช่วงเทศกาลนี้มักจะพบต้นไม้ ดอกไม้ และผัก เช่น ต้นหอม (葱, cōng) ที่เชื่อว่าจะนำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้ ผลไม้เขียว เช่น ลูกแพร์และส้ม ก็เป็นของขวัญยอดนิยมที่สื่อถึงความมั่งคั่งและการเติบโต

สีชมพู (粉红 - fěn hóng)

รูปภาพจาก Sandy Liang และ Espoir 

สัญลักษณ์: ความรัก, ความเยาว์วัย และความสุข

แม้ว่าสีชมพูจะไม่เด่นเท่าสีแดงหรือทอง แต่ก็เริ่มได้รับความนิยมในเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความงาม และพลังแห่งความเยาว์วัย จึงเหมาะสำหรับคู่รักหรือคู่แต่งงานใหม่ในเทศกาลนี้ สีชมพูที่สดใสมักปรากฏในดอกไม้ ของตกแต่ง และเสื้อผ้า นอกจากนี้ยังถือเป็นสีที่นำโชคลาภในความสัมพันธ์รักและความสุขในปีใหม่

สีดำ (黑 - hēi) และสีขาว (白 - bái)

รูปภาพจาก Au Pont Rouge, Chanel และ Saint Laurent 

สัญลักษณ์: ความระมัดระวัง, ความเศร้าโศก และความสมดุล

สีดำและสีขาวมักถูกหลีกเลี่ยงในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะทั้งสองสีมีความสัมพันธ์กับการไว้ทุกข์และการตาย สีเหล่านี้เชื่อมโยงกับงานศพและถือว่าไม่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขและการเฉลิมฉลอง แต่ทั้งสองสีอาจปรากฏในรายละเอียดเล็กน้อยหรือในงานออกแบบที่เน้นความสมดุล แม้ว่าจะไม่โดดเด่น แต่จะไม่ใช้สีเหล่านี้ในปริมาณมาก เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้เกิดความไม่เป็นมงคล

สีม่วง (紫 - zǐ)

รูปภาพจาก Morimiss และ Xiaohongshu/ZoH1624

สัญลักษณ์: ความสง่างาม, จิตวิญญาณ และความหรูหรา

สีม่วงแม้จะไม่พบเห็นได้บ่อยเท่าสีแดงหรือทอง แต่ก็ยังคงมีบทบาทในเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะในงานตกแต่งที่มีความละเอียดและหรูหรา สีม่วงแสดงถึงความสง่างาม ความศักดิ์สิทธิ์ และความมั่งคั่ง ในบางประเพณี สีม่วงยังเกี่ยวข้องกับโชคลาภและความยืนยาว ทำให้เป็นสีที่เหมาะสำหรับสิ่งของหรูหราและมีค่า สีม่วงมักถูกนำมาผสมกับสีแดงและทองเพื่อเพิ่มความหรูหราและเสริมความร่ำรวยให้กับการเฉลิมฉลอง

สีน้ำเงิน หรือ สีฟ้า(蓝 - lán)

รูปภาพจาก LIU YU STUDIO และ Xiaohongshu

สัญลักษณ์: ความสงบ, ปัญญา และการเยียวยา

สีน้ำเงินหรือสีฟ้าเป็นสีที่พบได้น้อยในเทศกาลตรุษจีน แต่เป็นสีที่สงบและช่วยเสริมความสมดุล สีน้ำเงินหมายถึงความสงบ ปัญญา และการฟื้นฟูจากสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา แม้ว่าสีนี้จะไม่เด่นเท่าสีแดงหรือทอง แต่สีน้ำเงินยังคงปรากฏในการตกแต่งตรุษจีนแบบร่วมสมัย ดอกไม้ หรือของตกแต่งประเภทเครื่องลายคราม สีนี้ช่วยปรับสมดุลให้กับความเข้มข้นของสีแดงและทอง ทำให้บรรยากาศของการเฉลิมฉลองดูมีความสงบและมั่นคง

นอกจากการใช้สีเหล่านี้ในกิจกรรมต่างๆ แล้ว ยังมี อาหาร ที่มีสีสันและความหมายสำคัญในเทศกาลตรุษจีนอีกมากมาย เช่น ส้ม ที่มีสีทองซึ่งสื่อถึงความร่ำรวยและความสมบูรณ์แบบ หรือ ปลา ที่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเจริญเติบโตในปีใหม่ การเลือกใช้สีในอาหารเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมโชคดีและการเริ่มต้นปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้เสื้อผ้าที่สวมใส่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน มักจะเลือกสวมเสื้อผ้าที่มีสีแดงหรือทองเพื่อดึงดูดโชคลาภและความมั่งคั่ง โดยหลายคนจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ในช่วงนี้ เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการทิ้งสิ่งเก่าและดึงดูดพลังบวกให้เข้ามาในชีวิต ดังนั้นสีสันที่ปรากฏในเทศกาลตรุษจีนมีความหมายลึกซึ้งและสะท้อนถึงความเชื่อและความหวังของผู้คนในการเริ่มต้นปีใหม่ สีแดง สีทอง สีเหลือง และสีเขียวต่างก็เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง โชคลาภ และการเจริญเติบโต ขณะที่สีม่วง สีชมพู และสีน้ำเงินเติมเต็มบรรยากาศแห่งความหรูหรา ความสงบ และความรัก ในการเฉลิมฉลองตรุษจีนทุกปี ชาวจีนจะใช้สีเหล่านี้เพื่อเชิญชวนโชคดี ขับไล่สิ่งไม่ดี และสร้างความสุขในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

อ่านบทความเพิ่มเติม: สัมพันธ์ระหว่างตรุษจีนกับโลกแห่งแฟชั่น

RECOMMENDED READS