เปิดตัว แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงค็อก อิดิชั่นพิเศษจากคาร์เทียร์ที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะประเทศไทย

"...เมื่อแบรนด์เรือนเวลาสุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส รังสรรค์คอลเลคชั่นสุดพิเศษสำหรับประเทศไทยในจำนวนเพียง 67 เรือน..."

คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับชั้นสูง เเละผู้รังสรรค์เรือนเวลาชิ้นน่าล่มหลงสัญชาติฝรั่งเศส ที่เพียงเอ่ยชื่อก็สามารถเข้าใจได้ทันทีถึงสไตล์และรสนิยมเหนือระดับที่ออกเดินทางครองใจสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั่วโลกมาแล้วกว่า 17 ทศวรรษ ล่าสุดคาร์เทียร์เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงค็อก อิดิชั่น (Tank Louis Cartier Bangkok Edition) โดยหยิบยกเอาโทนสีทองมาสื่อสารถึงวัฒนธรรมความเป็นชาติไทยมาใช้ในการออกแบบ พร้อมผสานเข้ากับอัตลักษณ์ความเรียบหรูของเเบรนด์ ให้กลายเป็นเรือนเวลารุ่นแทงก์ (Tank) ในเเบบฉบับ Bangkok Edition ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โมเดลรุ่นแทงก์ (Tank) จากคาร์เทียร์ไม่ใช่โมเดลใหม่อื่นใด หากเเต่เปรียบเป็นหนึ่งไอคอนิกโมเดลของแบรนด์ อันมีความโดดเด่นด้วยกรอบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของรถถังฝรั่งเศส ที่ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1917 เเละยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาจวบจนปัจจุบัน ต่อมาในปี 1922 ก็ได้พัฒนาปรับรูปลักษณ์ขึ้นใหม่ ภายใต้ชื่อ แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ (Tank Louis Cartier) ที่ยังคงสื่อสารมนต์เสน่ห์เเห่งคาร์เทียร์ด้วยรูปฟอร์มเรขาคณิตของแทงก์ หากแต่แตกต่างด้วยรายละเอียดของกรอบตัวเรือนให้มีความโค้งมนยิ่งขึ้น ส่งให้ แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ มีความโดดเด่นเหนือกาลเวลา ด้วยเหตุนี้ทำให้เหล่าสมาชิกราชวงศ์ และผู้มีชื่อเสียงระดับตำนานมากมาย อาทิ อีฟ แซงต์ โลรองต์, แอนดี้ วอร์ฮอล, เลดี้ไดอาน่า แห่งเวลส์, แกรี คูเปอร์ และอีกมากมาย ต่างลุ่มหลงในความงดงามเหนือกาลเวลาของเรือนเวลานี้

เเทงก์ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่ล่าสุดมีการตีความใหม่อีกครั้ง ผ่านคอลเลคชั่นพิเศษชื่อ แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงค็อก มาพร้อมตัวเรือนขนาด 33.7 x 25.5 มม. และความบางเพียง 6.6 มม. พร้อมรายละเอียดสุดพิเศษที่คิดค้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง ให้มีตัวเรือนและหน้าปัดเฉดสีทอง ได้รับแรงบันดาลใจจากโมเดลรุ่น แทงก์ มัสท์ เวอร์มิล (Tank Must Vermeil) ในปี 1980 เเละยังแต่งเติมความหรูหราเหนือระดับ ด้วยการประดับเพชรลงบนเม็ดมะยม นอกไปจากนี้ วัสดุที่นำมาใช้รังสรรค์หน้าปัดนั้น คาร์เทียร์ได้นำทองคำมาใช้เป็นวัสดุสำคัญ เนื่องด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทานในเเบบฉบับโลหะมีค่า ผนวกกับเทคโนโลยีเลเซอร์ความแม่นยำสูงที่ใช้ในแกะสลักหน้าปัดเป็นลวดลาย Sunray

ความน่าสนใจเเละสุดพิเศษยังไม่หมดเพียงที่กล่าวมา คาร์เทียร์ได้ทำการสลักคำว่า BANGKOK และ LIMITED EDITION OF 67 PIECES บริเวณด้านหลังของตัวเรือน ทิ้งรอยความพิเศษนี้ไว้ให้เชยชมเฉพาะผู้เป็นเจ้าของ โดยรหัส 67 สื่อความถึงปี พศ.2567 ของประเทศไทย และตัวเลขดังกล่าวยังได้ถูกใช้เป็นจำนวนชิ้นในคอลเลคชั่นพิเศษนี้อีกด้วย จึงอาจนับได้ว่าคอลเลคชั่นพิเศษอย่าง แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงค็อก ถือเป็นหนึ่งในชิ้นงานทรงคุณค่าเปรียบเป็นอีกหนึ่งช้ินงานศิลป์ที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม โดยทุกรายละเอียดของงานศิลป์ชิ้นนี้ได้รับการรังสรรค์ผ่านเเนวคิด เเละฝีมือของช่างผู้ชำนาญชั้นบรมครูของคาร์เทียร์

อย่างไรก็ตาม แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงค็อก นี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่เรื่องของอิมเมทความหรูหราเท่านั้น หากแต่ในเรื่องของกลไกและระบบการทำงานของเรือนเวลาก็ได้รับการรังสรรค์ขึ้นภายใต้มาตรฐานของคาร์เทียร์ โดยคอลเลคชั่นพิเศษนี้ได้เลือกใช้กลไกการทำงานระบบจักรกลไขลานด้วยมือชื่อ คาลิเบอร์ 1917 MC ที่มาพร้อมพลังสำรองลานที่ยาวนานถึง 38 ชั่วโมง ทั้งยังทนแรงดันน้ำได้ถึง 30 เมตร และวัสดุส่วนสายที่สามารถถอดปรับเปลี่ยนได้ถึง 2 แบบ ทั้งสายหนังจระเข้สีดำและสายหนังจระเข้สีน้ำตาล

เรือนเวลาหรูจากคอลเลคชั่นพิเศษ แทงก์ หลุยส์ คาร์เทียร์ แบงค็อก อนุญาตให้ผู้ที่สนใจได้รับชมและจับจองเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ ในราคา 497,000 บาท

รูปภาพจาก: Cartier

อ่านบทความเพิ่มเติม: 5 jewellery picks to welcome the Year of the Dragon