“…Vacheron Constantin ยังคงรักษามาตรฐานความเป็นเลิศทางศิลปะและวิศวกรรมแห่งเรือนเวลาไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลาย แม้กาลเวลาจะผ่านมานานกว่า 270 ปี ทั้งหมดนี้สามารถยืนยันได้จากผลงานชิ้นเอกล่าสุดอย่าง La Quête du Temps อันเป็นบทพิสูจน์ของความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถันกว่าเจ็ดปี นำมาสู่เรือนเวลาที่ผสานความซับซ้อนของกลไกเข้ากับศิลปะการรังสรรค์เรือนเวลาชั้นสูงได้อย่างน่าชื่อชม จนได้รับการขนานนามและยกยอให้เป็นดั่งตัวแทนของเรือนเวลาที่สะท้อนทั้งความงามเหนือกาลเวลาและวิศวกรรมชั้นเลิศ…”
ความซับซ้อนที่กล่าวถึงไม่ใช่เพียงแค่คำอ้าง เพราะ La Quête du Temps นั้นได้ประกอบไปด้วยกลไกซับซ้อนถึง 6,293 ชิ้น ชิ้นส่วนสำหรับนาฬิกาตั้งโต๊ะ 2,370 ชิ้น ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกอีกกว่า 1,020 ชิ้น และยังยื่นคำขอจดสิทธิบัตรอีกถึง 7 รายการ
ไม่เพียงเท่านั้น การรังสรรค์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ยังครอบคลุมคอมพลิเคชันด้านศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา 23 รายการ โดยมีลีลาการเคลื่อนไหวของระบบ Automaton ถึง 144 ลีลา และชิ้นส่วนควบคุมกลไก Automaton 158 ชิ้น พร้อมสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับระบบ Automaton อีก 8 รายการ
กลไก Automaton ของ La Quête du Temps นำเสนอภาพนักดาราศาสตร์เชิงมนุษยนิยมที่ไม่เพียงบอกเล่าเวลาเพียงอย่างเดียว แต่ยังเชื้อเชิญให้ผู้ชมได้ใคร่ครวญถึงความงดงามและความลี้ลับของจักรวาล รวมถึงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ซึ่งเป็นรากฐานของการวัดเวลา ตั้งแต่การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ ข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Vacheron Constantin ที่มุ่งมั่นนำเสนอหุ่นกลนักดาราศาสตร์ให้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณของแบรนด์นับแต่ปี 1755
ซึ่งเบื้องหลังความงดงามนี้ คือความร่วมมือของเหล่าช่างฝีมือและผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ทั้งวิศวกร นักออกแบบ ช่างเครื่องจักร นักดาราศาสตร์ และช่างนาฬิการะดับบรมครู เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของศาสตร์ต่างๆ และสื่อสารถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับจักรวาล ผลงานชิ้นเอกนี้จึงเป็นเรื่องราวของการถ่ายทอดความหลงใหลที่มีต่อท้องฟ้าและกาลเวลาซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ Vacheron Constantin ยึดมั่นมาตั้งแต่วันแรกที่ถือกำเนิด
ในโอกาสครบรอบ 270 ปี ผลงาน La Quête du Temps ถูกนำไปจัดแสดงเป็นไฮไลต์ในนิทรรศการ “Mécaniques d’Art” ณ พิพิธภัณฑ์ Louvre ระหว่างวันที่ 17 กันยายน – 12 พฤศจิกายน 2025 พร้อมสร้างแรงบันดาลใจสู่การรังสรรค์เรือนเวลาข้อมือรุ่นพิเศษ Métiers d’Art Tribute to The Quest of Time ที่ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 20 เรือนทั่วโลก ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก La Quête du Temps ด้วยความทุ่มเทกว่าสามปี และความประณีตในทุกขั้นตอน พร้อมการขับเคลื่อนระบบไขลานด้วย Caliber 3670 รุ่นล่าสุด ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วน 512 ชิ้น และยื่นขอสิทธิบัตรถึง 4 รายการ ถ่ายทอดมุมมองใหม่ของกลไกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมซง
ด้านหน้าปัดโดดเด่นด้วย หุ่นมนุษย์สีทอง ใช้แขนบอกเวลาแบบเรโทรเกรดคู่ ที่อนุญาตให้เลือกอ่านเวลาได้ทั้งแบบต่อเนื่องและตามคำสั่ง พร้อมตัวบ่งชี้พลังงานสำรองแบบเรโทรเกรดและดวงจันทร์สามมิติ แสดงข้างขึ้นข้างแรมได้อย่างเที่ยงตรง เหนือระดับด้วยฉากหลังของหน้าปัดที่วิจิตรราวกับภาพวาด แสดงกลุ่มดาวเหนือเจนีวาในวันที่ 17 กันยายน 1755 อันเป็นวันก่อตั้งเมซง ด้วยความร่วมมือจากนักดาราศาสตร์ของหอดูดาวเจนีวา ทำให้แผนที่ท้องฟ้าสามารถติดตามตำแหน่งดาวเรียลไทม์ คลาดเคลื่อนเพียง 1 วันในรอบ 9,130 ปี
ทุกองค์ประกอบของ Métiers d’Art Tribute to The Quest of Time ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและสุนทรียศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสมือนบทกวีแห่งจักรวาล ศิลปะ และศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา ที่นำเสนอนิยามความงามแห่งเรือนเวลาชั้นสูงได้อย่างอย่างทรงพลังราวกับบทกวีชิ้นเอก
